เพราะทุกคนมีความคิดที่แตกต่างกัน และ มีเหตุผลในแบบของตัวเอง ที่สามารถพิจารณาเอากันได้ ดังนั้นจะไม่ขอก้าวก่ายความคิดของกันและกัน
แต่ในขณะที่ทุกคน ต่างพูดถึงเจเนเรชั่นใหม่ ที่จะก้าวขึ้นมายึดครองวงการลูกหนังในรุ่นต่อไปจะเป็นใคร ทั้ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หรือ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ แต่กระนั้น ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงยืนตระหง่านอย่างสง่างาม กับการทำผลงานที่อยู่ในระดับ "มาสเตอร์คลาส" มาเป็นเวลานานนับเกือบ 20 ปี
และที่สำคัญ ลิโอเนล เมสซี่ คือตัวเต็งที่จะคว้า บัลลง ดอร์ ปีนี้ไปครอง ด้วยผลงานที่ทั่วโลกยังต้องซูฮก คือการคว้าแชมป์ เวิลด์ คัพ 2022 มาครองอย่างยิ่งใหญ่
ทั้งๆที่นักเตะวัย 36 ปี ส่วนใหญ่แล้ว ไม่อยู่ช่วงบั้นปลายอาชีพ ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ด แต่กับ คิง เลโอ เขายังคงสร้างมาตรฐาน และ ผลงาน มาสเตอร์พีซ ให้แฟนบอลได้ร้องว้าวแทบทุกครั้งที่เขาลงวาดลวดลายบนผืนฟลอร์หญ้า
เหมือนที่เขากำลังทำให้เห็นกับ อินเตอร์ ไมอามี่ ที่เปลี่ยนสถานะจากทีมจมบ๊วย ให้กลายขึ้นมาเป็นทีมแนวหน้า ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยมาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ใครจะว่ามาตรฐาน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา "ต่ำกว่าลีกใหญ่ของยุโรป"
แต่ เมสซี่ ก็ได้สร้างมาตรฐานให้เห็นว่า เขาเหนือกว่าทุกคนใน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ มากขนาดไหน โดยเฉพาะการทำประตู และ แอสซิสต์ เป็นว่าเล่น
กับ อินเตอร์ ไมอามี่ เพียงแค่ 11 นัดที่มี คิง เลโอ อยู่ในสนาม พวกเขายังสะกดคำว่า "แพ้" ไม่เป็น 11 นัด ชนะ 10 นัด หลุดเสมอเพียงแค่ 1 เกม
โดย 11 นัดที่ว่านั้น ซัดไป 11 ประตู พร้อมทำอีก 5 แอสซิสต์ คว้าแชมป์ ลีกส์ คัพ 2023 มาครอง พร้อมกับพา อินเตอร์ ไมอามี่ เข้าชิงชนะเลิศรายการ ยูเอส โอเพ่น ได้อีก 1 ทัวร์นาเมนต์ และ จากคงสถานะทีมบ๊วย กลายเป็นทีมที่เริ่มกระเตื้องขึ้นมา เพื่อลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ ฝั่งตะวันออก
พูดแค่สถิติคนอาจจะยังไม่ร้องว้าว แต่ทุกๆท่วงท่า ทุกๆลีลา ที่เขาร่ายเวทมนต์บนผืนฟลอร์หญ้า เหมือนได้นั่งดูละครเวทีคลาสสิค ที่ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ไม่มีใครมาทำลายลงได้
ทั้งการ คิลเลอร์พาส แบบจ่ายตัดหลังคู่แข่งทั้งกระบิ, การยิงประตูในช่วงสำคัญ เสมือนเป็นบทละครที่สร้างมา และ การยิงฟรีคิกบันลือโลก ประหนึ่งว่าเหมือนได้ยิงจุดโทษ เพราะช่วงหลังๆถ้าเข้าระยะก็รอใส่สกอร์ได้เลย
แน่นอนว่า ผลงานของ เมสซี่ กับ อินเตอร์ ไมอามี่ จะไม่เกี่ยวข้องกับการให้คะแนนโหวต "บัลลง ดอร์" อยู่แล้ว เพราะคะแนนทั้งหมดจะคิดผลงานตลอดซีซั่น 2022-23 แต่นี่เรากำลังพูดถึงนักเตะที่โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ แบบยืนระยะมาเกือบ 20 ปี
หากใครยังเถียงว่า เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ เป็นลีกบอท ไม่มีคุณภาพเท่าไหร่นัก
ล่าสุด ลิโอเนล เมสซี่ ก็ร่ายเวทมนต์อีกครั้ง ด้วยการยิงฟรีคิกแบบสุดสวย ช่วยให้ทีมชาติอาร์เจนติน่า เฉือนเอาชนะ เอกวากอร์ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ในศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ซึ่งทีมชาติ ไม่หมูแน่นอนครับ พร้อมพาทัพ ฟ้า-ขาว เก็บชัยมาแล้ว 11 นัดรวด
จากประตูนี้ ทำให้ตลอดชีวิตค้าแข้งของ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงฟรีคิกไปแล้ว 65 ประตู เทียบเท่ากับ เดวิด เบ็คแฮม ตำนานแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกแค่ลูกเดียวจะทำสถิติแซงหน้าทันที ซึ่งตอบตรงนี้เลยว่า "มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เท่านั้นเอง"
เท่านั้นยังไม่พอ นับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่นที่ผ่านมา ลิโอเนล เมสซี่ มีส่วนร่วมทำประตูทั้งในนามสโมสร และ ทีมชาติ มากถึง 68 ลูก จากการลงเล่นทั้งหมด 60 นัด เรียกว่า "อายุ" เป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ
รอยยิ้ม ที่เขาเปล่งออกมา มันทำให้รู้เลยว่า "ความสุขในการเล่นฟุตบอล" มันกลับมาอีกครั้ง และ ความสุขภายในตัวของเขา มันก็แผ่รัศมีรับรู้มาถึงแฟนบอลเช่นกัน เพราะยิ่งดู ก็ยิ่งหลงใหล
ต่อให้ท้ายที่สุดแล้ว ลิโอเนล เมสซี่ จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ หรือไม่ .. ทุกอย่างที่เขารังสรรค์ จะไม่มีวันจางหายไป คำตอบมันก็ยังชัดเจนเสมอว่า คิง เลโอ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดแห่งประวัติศาสตร์
ถึงแม้กาลเวลาจะยาวนานมาเกือบ 20 ปี แต่ทุกวันนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ยังยืนเด่นเป็นตระหง่าน สู้กับพวกแข้งสตาร์รุ่นใหม่ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม
ในวันที่ทุกคนพูดถึงความเก่งกาจระดับเทพของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หรือ ยกย่องความเวิลด์คลาสของ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้
แต่ก็ไม่มีใครตัดชื่อ เมสซี่ ไปได้เลย
ทุกวันต่อจากนี้ เหมือน เมสซี่ เป็นจิตกร ที่รังสรรค์ผลงาน ให้แฟนบอลทั่วโลกได้เฝ้าดู ได้เก็บเป็นเมมโมรี่ว่าครั้งหนึ่ง พวกเราเคยมีนักฟุตบอลที่เรียกกันว่า “ยอดมนุษย์”
ขนาด สหรัฐอเมริกา ไม่ได้ชื่นชอบ ฟุตบอล เป็นกีฬาอันดับ 1 แต่วันที่ เมสซี่ นำทัพ อินเตอร์ ไมอามี่ บุกไปเยือนเอาชนะ แอลเอ เอฟซี 3-1 มีเหล่าเซเลบริตี้ และ นักกีฬาชื่อดังระดับโลก เกือบ 40 คน ที่ตีตั๋วเข้ามาชมถึงสนาม
และ นั่นคือหลักฐานที่ว่าทำไม เมสซี่ ยังคงค้างฟ้าจนถึงทุกวันนี้
ฮาย ฮาวดี้-
