ความพ่ายแพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ ขบวนล่าสุดมันบ่งบอกอะไรหลายๆ อย่างถึงคุณภาพของทีม และนักเตะบางรายที่ดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้ได้จับประเด็นที่น่าสนใจหลังความพ่ายแพ้ของทัพ “ปีศาจแดง” ต่อ คริสตัล พาเลซ ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
กลางสัปดาห์คือภาพลวงตา
ย้อนกลับไปเมื่อเกมกลางสัปดาห์ในบอลถ้วยอย่าง คาราบาว คัพ แมนฯ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการไล่ยำ คริสตัล พาเลซ 3-0 ซึ่งหลายคนคงมองว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้นของทีม ทั้งเรื่องของผลการแข่งขัน สภาพจิตใจ หรือผลงานในสนาม
แต่ทว่ามันดูเหมือนจะเป็นภาพลวงตาเสียมากกว่า เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันทัพ “ปีศาจแดง” กลับมาเป็นทีมที่คุ้นเคยอีกครั้งเหมือนเกมที่ผ่านๆ มาในฤดูกาลนี้
เกมวันนี้ “ปู่รอย” เปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งจากวันนั้น และพอกลับมาใช้ชุดตัวจริงที่มี โจเอล วอร์ด, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค เกฮี, วิลล์ ฮิวจ์ส หรือ เอเบเรชี่ เอเซ่ พวกเขาไม่ได้กลัวเจ้าถิ่นเท่าไหร่นัก
ส่วน เทน ฮาก ก็กลับมาใช้ชุดตัวจริงเช่นกันเปลี่ยนทีมจากวันนั้น 6 ตำแหน่ง แต่กลายเป็นว่าผลงานกลับไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก ซึ่งจะใช้คำว่าน่าเกลียดเลยก็ว่าได้
และเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำว่า ยูไนเต็ด ในวันนี้มาตรฐานไม่ได้สร้างความน่าเกรงขามให้กับคู่แข่งอีกแล้ว ไม่ว่าจะเล่นในบ้าน หรือออกไปเล่นเป็นทีมเยือนก็ตาม
แรชฟอร์ด ควรพัก ?
แรชฟอร์ด คือนักเตะที่โดนกระแสวิจารณ์มากที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้จากผลงานชายเดี่ยวที่แก้ไม่หาย จนโดนชาวโซเชียลล้อกันแล้วว่าไม่มีเพื่อนคบ เพราะไม่ยอมส่งบอลให้เพื่อนข้างกายเลย
เราได้เห็นช็อตที่พยายามดื้นจะแหวกผ่านคู่แข่ง พยายามจะมุดหลีกคู่ต่อสู้ให้ได้ ซึ่งภาพรวมที่ออกมาคือไม่ผ่าน พลางทำให้ทีมเสียจังหวะ และเสียการครองบอลไป
โดยสื่ออย่าง Manchest erevening news ได้ตัดเกรดของ แรชฟอร์ด ได้ไปเพียง 3 คะแนน เท่านั้น พร้อมให้เหตุผลว่าใช้โอกาสที่มีสิ้นเปลือง น่าผลงานในภาพรวมน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าในเรื่องของความมุ่งมั่น แรชฟอร์ด มีอยู่เต็มตัว แต่บางทีด้วยความมั่นใจ หรืออะไรก็ตามแต่มันเริ่มส่งผลเสียต่อภาพรวมมากกว่าเดิม ฉะนั้นไม่แปลกเลยถ้าจะคือห้วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้แฟนๆ ลืมความเฉียบขาดที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาลก่อนไปหมดเลย
ซึ่งบางทีการที่ เทน ฮาก จะเลือกดร็อป แรชฟอร์ด ไว้ข้างสนามบ้างอาจเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย และปล่อยโอกาสตรงนั้นให้เป็นของ การ์นาโช่ หรือแม้แต่จะขยับ เมาท์ ไปเล่น เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเอง และมีความหลากหลายที่มากขึ้น
อย่างน้อยก็ให้เขาได้ทบทวนกับผลงานที่ผ่านมา กระตุ้นแรงกระหาย ปรับทัศนคติการเล่นร่วมกับเพื่อนให้มากกว่าเดิม
สถิติไม่สำคัญ ผลการแข่งขันคือจุดตัดสิน
สถิติตลอด 90 นาทีในเกมนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูดีกว่า คริสตัล พาเลซ แบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น ครองบอลมากถึง 77% โอกาสยิง 19 ครั้ง ค่า xG (คาดการณ์โอกาสเกิดประตู) มากถึง 1.73 ซึ่งบ่งบอกว่าอย่างน้อยๆ พวกเขาควรจะมีประตูในเกมนี้บ้าง
ทว่ากับภาพที่ออกมาต้องยอมรับว่าเป็นอีกเกมที่น่าผิดหวังแบบขั้นสุด เกมรุกยิงนกตกปลาไปพอสมควร จนสามารถบังคับบอลให้ตรงกรอบได้เพียง 4 ครั้ง เท่านั้น
สิ่งนี้มันสามารถบอกได้ว่าลูกทีมของ เทน ฮาก ไร้ประสิทธิภาพในการทำประตู จนอาจเกิดอาการเกร็ง ไม่กล้าเสี่ยง หรือ กลัวผิดพลาด
ความเชื่อมั่นที่เคยมีเหมือนถูกบั่นทอนลงไปเรื่อยๆ ทั้งที่เกมนี้พวกเขาครองบอลได้มากกว่า มีโอกาสขึงคู่แข่งเสียส่วนใหญ่ แถมเล่นในรังของตัวเอง
แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างในเกมนี้ต่อให้สถิติต่างๆ จะหล่อเหลาเพียงใด แต่ฟุตบอลวัดกันที่การพาบอลไปจมกองก้นตาข่ายให้ได้ ซึ่ง คริสตัล พาเลซ ทำได้ดีกว่า และเหมาะสมกับการเป็นผู้ชนะ
แมนยูฯ เสียประตูคือรอแพ้ ?
หนึ่งในสถิติที่น่าสนใจของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้คือเมื่อเกมไหนที่พวกเขาเสียประตู แทบจะแต่งตัวรอความพ่ายแพ้ได้เลย
มีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่โดนคู่แข่งถลุงประตูได้ แต่รอดพ้นคว้าชัยคือนัดที่พลิกนรกกลับมาเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-2 เท่านั้น
ส่วนนัดอื่นๆ คือ แพ้ สเปอร์ส 2-0, แพ้ อาร์เซน่อล 3-1, แพ้ ไบรท์ตัน 1-3 และ แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 4-3
แน่นอนมันบ่งบอกชัดเจนว่าในเรื่องของหัวจิตหัวใจที่ไม่นิ่ง ไม่มีความมั่นใจ และขวัญเสียไปแบบง่ายๆ หรือบางทีออกอาการเร่งไม่ขึ้น ซึ่งคนที่รวบรวมสมาธิคือ เทน ฮาก ที่จะกระตุ้นลูกทีมให้ถูกจุด หรือโค้ชจิตวิทยาในการเข้ามาปรับทัศนคติของนักเตะ
เอริค เทน ฮาก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อผลงานของทีมออกมาไม่ดี สะดุดกับความพ่ายแพ้คนเองที่จะโดนแรงกระแทกก็คือตัวของกุนซือ ซึ่ง เอริค เทน ฮาก กำลังเผชิญกับความกดดันอย่างหนักหน่วง
เกมนี้ปัญหาของ เทน ฮาก หลายคนโฟกัสไปที่การเปลี่ยนตัวที่ช้า ในเคสของ ฟายิสตรี้ ที่ถูกแทนที่โดย การ์นาโช่ คือการเปลี่ยนแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง ทว่ากับในรายอื่นๆ ดูการขยับจะสร้างความหงุดหงิดให้แฟนๆ ไม่น้อย
แรชฟอร์ด ที่ฉายแสงไม่ออกได้อยู่จนถึงนาทีที่ 77 โอเคแหละครับในผมของกุนซืออาจมองว่าลูกทีมคนนี้ยังพอสามารถสร้างความแตกต่างได้ ทั้งการยิงบอลหนัก คาดหวังการทะลุทะลวง แต่ ณ ตอนนั้นต้องยอมรับ “แรช” ไม่ได้อยู่ในโมเมนต์ตั้มที่ดีของเกมแล้ว
ถึงตรงนี้พวกเขาลงเล่นไปแล้ว 7 เกม เก็บไปเพียง 9 คะแนน มันสามารถใช้คำว่าน่าผิดหวังได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมผลต่างประตูได้-เสีย ติดลบ 4 ตุง
ความกดดันเริ่มเกาะกินขาเก้าอี้ของ เทน ฮาก มากขึ้นเรื่อยๆ เข้าใจว่าตอนนี้ความมั่นคงยังมีอยู่ แต่สถานการณ์ข้างหน้าก่อนพักเบรคทีมชาติน่าจะช่วยให้ภาพอะไรต่างๆ มันชัดเจนมากขึ้น
การเปิดบ้านพบ กาลาตาซาราย ใน แชมเปี้ยนส์ลีก และเล่นในบ้านต่อเนื่องกับ เบรนท์ฟอร์ด
ด้วยความเคารพต่อท่าน เทน ฮาก ถ้าสะดุดแม้เพียงผลเสมอ หรืออย่างแย่คือแพ้รวด บางทีตำแหน่งของคุณอาจถึงวันที่สั่นคลอนบ้างแล้วแหละ
- Paolinho -
