หลังเกม "แมนยูฯ" ฮึดคว้าชัยเหนือ "โคเปนเฮเก้น"

ซึ่งทำให้พวกเขายังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไป แม้จะปราชัยในช่วง 2 เกมแรกก็ตาม แน่นอนว่านี่คือ 90 นาที ที่มีเรื่องให้ได้พูดถึงมากเหลือเกินทั้งผลการแข่งขัน และผลงานของนักเตะที่รังสรรค์กันออกมา

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปเก็บตกประเด็นที่น่าสนใจหลังเกมดังกล่าวว่ามีอะไรประเด็นอะไรน่าสนใจกันบ้าง …

ผีแดง เปลี่ยน 2 ตำแหน่ง

เอริค เทน ฮาก เริ่มการจัดตัวจริงนัดนี้ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 2 ตำแหน่งจากเกมลีกนัดล่าสุดที่พบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแข้งในแผงเกมรับทั้งหมด

วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ลงสนามแทน จอนนี่ อีแวนส์ ส่วนอีกรายคือ เซร์คิโอ เรกีลอน ที่สลัดอาการบาดเจ็บหายกลับมาประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้าย

ส่วนเกมรุกนัดนี้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยังคงได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง และเล่นในตำแหน่งที่สามารถพาตัวเองเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษบ่อยครั้งกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวแสดงให้เห็นแล้วว่ามีความอัตราสามารถคาดหวังการทำประตูได้

ส่วนแนวรุกก็จัดชุดเดิมทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, อันโตนี่, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ ราสมุส ฮอยลุนด์ 

ส่วนทางฝั่ง โคเปนเฮเก้น ในม้านั่งสำรองมีชื่อของ ออสก้าร์ ฮอยลุนด์ ก่อนถูกส่งลงสนามมาในช่วงท้ายเกม ซึ่งน่าเสียดายที่เกมนี้ เอมิล ฮอยลุนด์ ไม่มีชื่อ อดทำสถิติ 3 พี่-น้อง ลงสนามในแชมเปี้ยนส์ลีกเกมเดียวกัน

แม็คไกวร์ ฮีโร่เหล่าปีศาจ

จากอดีตตัวคอนเทนต์ที่สร้างเสียงหัวเราะ และคำวิจารณ์มากมาย ถูกจับจ้องทุกครั้งที่ถูกส่งลงสนาม ทว่ากับปัจจุบัน แม็คไกวร์ ยกระดับกลายเป็นปราการหลังที่ไว้ใจได้มากที่สุดของทีมในโมงยามนี้เรียบร้อยแล้ว

ย้อนไปเมื่อสุดสัปดาห์เขาได้รับเสียงโหวตจากสื่อหลายสำนักว่าคือ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ พาทีมเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จากการคุมแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง เฉกเช่นเดียวกับเกมล่าสุดต้องยกเครดิตให้กับเขาเช่นกัน

โดยเฉพาะจังหวะขึ้นไปทำประตูชัยช่วยทีม มันเหมือนเป็นการปลดล็อคให้กับทีมที่ต้องการคว้าชัยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการปลดล็อคตัวเองจากคำดูถูต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ส่วนสถิติในเกมเมื่อคืน แม็คไกวร์ ผ่านบอลสำเร็จ 72 จาก 82 ครั้ง ชนะดวลกลางอากาศ 4 ครั้ง และ เคลียร์บอล 1 ครั้ง

อย่างที่กล่าวไปในช่วงที่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ “ปีศาจแดง” วนเวียนกันได้รับบาดเจ็บ แต่ แม็คไกวร์ ยังคงอยู่ และตอนนี้สามารถพูดได้เลยว่าความมั่นใจของเขาจะมากขึ้นเรื่อยๆ จากผลงานในช่วง 2 เกมหลังสุด

โอนาน่า ใช้มือเซฟเป็น

อังเดร โอนาน่า คืออีกหนึ่งคนที่โดนกระแสโจมตีมากเหลือเกิน ซึ่งไม่แปลกเพราะผลงานในช่วงที่ผ่านมาก่อความผิดพลาดที่เข้าตาแบบจังๆ เข้าตาแบบสุดๆ แต่กระนั้น เอริค เทน ฮาก ยังคงหนุนหลังแบบเต็มที่ และพร้อมเปิดโอกาสให้เสมอ

ซึ่งเราก็เริ่มเห็นว่า โอนาน่า ดูดีขึ้นมีช็อตเซฟอยู่เรื่อยๆ  เช่นเดียวกับในเกมล่าสุดที่โชว์ฟอร์มเซฟไปทั้งหมด 4 ครั้ง และที่สำคัญคือการเซฟจุดโทษในนาทีสุดท้ายช่วยทีมรอดพ้นจากความตายชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด

แน่นอนว่านี่คืออีกหนึ่งในฮีโร่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง และที่สำคัญคือการเรียกความมั่นใจของตัวเขาให้กลับมาเป็นนายด่านที่มีมาตรฐานยอดเยี่ยมอีกครั้ง พร้อมลดเสียงวิจารณ์เรื่องการที่เป็นผู้รักษาประตูใช้มือไม่เป็นลงได้บ้าง

โอกาสเข้ารอบยังเปิดกว้าง

จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ประตูในการผ่านเข้ารอบต่อไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเปิดกว้าง และกลับมาอยู่ในโมเมนตั้มที่ดีอีกครั้ง แม่จะปราชัยมาก่อนใน 2 เกมแรก

3 คะแนน พร้อมรั้งอันดับ 3 ตามหลังอันดับ 2 อย่าง กาลาตาซาราย 1 คะแนน และจ่าฝูงอย่าง บาเยิร์น มิวนิค 9 แต้ม จากนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างเหมือนอยู่ในการควบคุมของพวกเขาเช่นกัน

แม้ด้วยโปรแกรมจะดูหฤโหดพอสมควร แต่ก็ยังพอมองเห็นโอกาสพลิกสถานการณ์ถ้าเกมเยือน โคเปนเฮเก้น และ กาลาตาซาราย สามารถได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการคือกวาดชัยชนะได้รวด ก่อนไปวัดในเกมสุดท้ายกับทัพ “เสือใต้”

แต่กระนั้นทุกเกมที่ลงสนามสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด มักไม่ใช่งานที่ง่ายอยู่แล้ว และถ้าเกิดสะดุดหลุดสักเกมหลังจากนี้ก็แทบจะเป็นสัญญาณบ่งบอกพร้อมโบกมือลาได้เลยเช่นกัน

โปรแกรมผีหนักต่อเนื่อง

หลังดวล โคเปนเฮเก้น โปรแกรมหลังจากนี้ของพวกเขาต้องบอกว่าหนักเอาเรื่อง เริ่มจากศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เปิดบ้านดวล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อด้วยบอลถ้วยลีก คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะดวลกับ นิวคาสเซิ่ล 

จากนั้นจะเล่นเกมเยือน 2 นัดติดที่มีความสำคัญคือยกพลบุกไปพบกับ ฟูแล่ม และเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก พบ โคเปนเฮเก้น ที่ประเทศเดนมาร์ก

ด้วยผลงานที่คว้าชัย 3 เกมรวดน่าจะช่วยให้ลูกทีมของ เทน ฮาก มีความมั่นใจที่มากยิ่งขึ้น ก่อนโปรแกรมที่หฤโหดในช่วงปลายเดือนนี้ ต่อเดือนหน้า 

มองในแง่ดีถ้าเดินหน้าคว้าชัยได้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาลทันที แต่ถ้าออกมาในมุมตรงข้ามบางทีอาจน้ำตาตกใน ร่วงตกรอบบอลถ้วย และเข้าขั้นโคม่าใน แชมเปี้ยนส์ลีก ก็เป็นได้

- Paolinho -