logo-heading

บทสรุปของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017/2018

ในที่สุดก็จบลงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017/2018 สำหรับ 38 นัดอันยาวนาน มีทั้งทีมที่สมหวังและผิดหวัง รวมถึงสถิติเกิดขึ้นมากมายในฤดูกาลนี้ เรามาลองดูกันว่าบทสรุปสุดท้ายแล้วที่สุดของพรีเมียร์ลีก มีอะไรบ้าง 1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับการทำลายสถิติ ต้องบอกว่าเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทีมของยอดกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พวกเขาทำลายสถิติในพรีเมียร์ลีก ได้ถึง 11 สถิติด้วยกัน ดังนี้ - เป็นทีมแรกที่เก็บ 100 คะแนน - ชนะ 32 นัด - ชนะเกมเยือน 16 เกม - เก็บชัยชนะเกมเยือนมากที่สุด 11 เกมติดต่อกัน - เก็บชัยชนะ 18 นัดติดต่อกัน - ยิงได้ 106 ประตู - ผลต่างประตูได้เสียมากถึง 79 ประตู - ห่างอันดับที่ 2 ถึง 19 คะแนน - เสียประตูน้อยที่สุด 27 ประตู - ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดในลีก 28,242 ครั้ง - ได้คะแนนจากการออกไปเล่นเป็นทีมเยือนมากที่สุด 50 คะแนน 2. ซาลาห์ กวาดเรียบ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูของ ลิเวอร์พูล กวาดรางวัลที่แจกให้กับนักเตะในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปคนเดียวไม่ได้แบ่งใคร ดังนี้ - นักเตะยอดเยี่ยม พีเอฟเอ - นักเตะยอดเยี่ยม สมาคมผู้สื่อข่าว - นักเตะยอดเยี่ยม ลิเวอร์พูล - นักเตะยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก - ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก 3. ซาลาห์ กับการทำสถิติ ยังคงอยู่กันที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แน่นอนว่ารางวัลที่เขาได้มาไม่ได้มาเพราะเคลมคนอื่น แต่ได้มาเพราะฝีเท้าล้วน ๆ จากการตะบันในลีกไปถึง 32 ประตู ส่งให้เขาทำลายสถิติได้ดังนี้ - นักเตะอียิปต์ที่ยิงมากสุดในพรีเมียร์ลีก และนักเตะอียิปต์คนแรกที่แฮตทริกในพรีเมียร์ลีก - นักเตะคนแรกในพรีเมียร์ลีก ที่ได้รางวัล นักเตะยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำเดือน 3 สมัย - เป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกที่ยิงด้วยเท้าซ้ายมากที่สุด - ซัลโวให้ลิเวอร์พูลในฤดูกาลแรกไป 44 ประตูจาก 51 เกม - เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ 32 ประตู ในพรีเมียร์ลีก 1 ฤดูกาล (38 เกม) - นักเตะที่ยิงประตูมากสุดในประวัติศาสตร์สโมสรนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีก - เป็นนักเตะแอฟริกาที่ยิงมากสุดในพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 4. รวมสถิติน่าสนใจ - ดาวซัลโว : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) 32 ประตู - จอมแอสซิสต์ : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 16 แอสซิสต์ - ช็อตยิงมากที่สุด : แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) 184 ช็อต - แย่งบอลสำเร็จมากที่สุด : วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้) 138 ครั้ง - คลีนชีตมากที่สุด : ดาบิด เด เกอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 18 คลีนชีต คว้าถุงมือทองคำ - เซฟมากที่สุด : แจ็ค บัตแลนด์ (สโต๊ค ซิตี้) 144 เซฟ 5. บทสรุปเส้นทางยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม : แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, ลิเวอร์พูล ยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบแบ่งกลุ่ม : เชลซี, อาร์เซน่อล ยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบคัดเลือกรอบ 2 : เบิร์นลี่ย์ 6. ตกชั้น-เลื่อนชั้น ตกชั้น : สวอนซี ซิตี้, สโต๊ค ซิตี้, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เลื่อนชั้น : วูล์ฟแฮมป์ตัน (แชมป์), คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้, แชมป์รอบเพลย์ออฟ (1 ใน 4 ทีม ฟูแล่ม, แอสตัน วิลล่า, มิดเดิ้ลสโบรช์, ดาร์บี้ เคาน์ตี้) 7. ปีแห่งการอำลา สิ้นสุดการคุมทัพ 22 ปีกับ อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ส่งท้ายพา ปืนใหญ่ ติดอันดับ 6 ได้ไป ยูฟ่า ยูโรป้าลีก อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าจบกับ ปืนใหญ่ ไม่สวยนักในฤดูกาลนี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวา อย่างไรก็ตามนี่ก็คือตำนานยอดกุนซือของ อาร์เซน่อล ซึ่งยังไม่รู้ว่าในอนาคตใครจะมาสานต่องานของเขา เนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผย และ อาร์เซน่อล จะเป็นเช่นไรต่อไป สาวกปืนใหญ่คงต้องติดตามกันต่อเนื่อง 8. ตลาดนักเตะพุ่งทะลุเพดาน มีการทำลายสถิติในปี 2011 ที่ทำไว้ 225 ล้านปอนด์โดยขยับพุ่งสูงขึ้นเป็น 430 ล้านปอนด์ จากข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับมูลค่าใช้จ่ายของทีมในพรีเมียร์ลีกเดือนมกราคม - ปี 2011 อยู่ที่ 225 ล้านปอนด์ - ปี 2012 อยู่ที่ 60 ล้านปอนด์ - ปี 2013 อยู่ที่ 120 ล้านปอนด์ - ปี 2014 อยู่ที่ 130 ล้านปอนด์ - ปี 2015 อยู่ที่ 130 ล้านปอนด์ - ปี 2016 อยู่ที่ 175 ล้านปอนด์ - ปี 2017 อยู่ที่ 215 ล้านปอนด์ - ปี 2018 อยู่ที่ 430 ล้านปอนด์
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline