logo-heading

จากมิตรภาพ กลายมาเป็น ศัตรู เมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ เตรียมนำทัพ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปสนามเวมบลีย์ เพื่อรอฟาดแข้งกับ เชลซี สโมสรที่เปรียบเป็นเสมือนบ้านหลังเก่าของเฮดโค้ชชาวโปรตุกีส

ความทรงจำต่างๆที่ มูรินโญ่ เคยพา เชลซี ครองความยิ่งใหญ่ในประเทศอังกฤษ ยังคงคุกรุ่น ไม่จางหาย ฉะนั้นก่อนที่เขาจะต้องมาห่ำหั่นกับบ้านหลังเก่า มาดูโมเมนต์ความทรงจำที่ "เดอะ สเปเชียล วัน" เคยสร้างเอาไว้ ครั้งยังเป็นกุนซือ

1. ให้เรียกผมว่า "เดอะ สเปเชียล วัน" หลายคนรู้ดีว่าฉายาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เรียกกันติดปากทั่วโลก นั่นก็คือ "เดอะ สเปเชียล วัน" แต่ที่มาชื่อนี้ไม่ใช่คนในวงการลูกหนัง หรือ แวดวงสื่อกีฬาเป็นคนนิยามคำนี้ให้กับเฮดโค้ชชาวโปรตุกีส แต่เป็น มูรินโญ่ เองต่างหากที่สถาปนาตัวเองเป็น "เดอะ สเปเชียล วัน" ตอนที่ มูรินโญ่ พาทีม เอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และย้ายมากุมบังเหียน เชลซี เขาดูมีมาดเป็นคนจองหอง มั่นใจในตัวเอง และ สร้างความหมั่นไส้ให้กับกุนซือรายอื่น โดยบทสัมภาษณ์แรกที่เขาเปิดตัวกับ "สิงห์บลูส์" เขาไปตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับบุคลิกตนเองว่า "ผมไม่ใช่คนจองหอง หรือ อวดดี หรอกนะแต่ ผมคือแชมป์ยุโรป และผมคิดว่าผมเป็น เดอะ สเปเชียล วัน" นับเป็นบทสัมภาษณ์ที่สร้างความฮืออาให้กับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลยทีเดียว 2. ปะทะคารม เวนเกอร์ กุนซือเพื่อนน้อย ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาเพราะ "ฝีปาก" ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ล้วนๆ เขาเป็นคนที่เปิดศึกสงครามน้ำลายกับกุนซือทีมอื่นไปทั่ว โดยเฉพาะ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมระดับตำนานจาก อาร์เซน่อล ซึ่งนับว่าเป็นไม้เบื่อ ไม้เมา กันเลย เพราะเจอกันเมื่อไหร่ มีด่าแหลกกันเมื่อนั้น เหตุการณ์การฟาดปากของทั้งคู่ มันเริ่มกันมาตั้งแต่ยุคแรกที่ มูรินโญ่ เข้ามาเป็นกุนซือ เชลซี โดย เวนเกอร์ จัดการแขวะเรื่องนักเตะต่างชาติที่ "เดอะ สเปเชียล วัน" ซื้อเข้ามา อาทิ ปีเตอร์ เช็ก, อาร์เยน ร็อบเบน หรือ แม้กระทั่ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ส่วน มูรินโญ่ ก็แสบสันตอกกลับไปว่า "เวนเกอร์ เป็นพวกถ้ำมองสนใจแต่ทีมชาวบ้าน" หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เปิดสงคราน้ำลายมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงวาทะเด็ดของ มูรินโญ่ หลังถูก เจ๊ แขวะเรื่องแท็คติค เมื่อบทสัมภาษณ์หนึ่งที่นับว่าเป็นความรุนแรง และ เป็นการเชือดเฉือนไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ โดยบอกว่า เวนเกอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญความล้มเหลว "ผู้จัดการทีมบางคน คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ส่วนผมเพิ่งคว้าแชมป์กับ เชลซี เมื่อฤดูกาล 2014-15 แต่กลับต้องพิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง ดังนั้นถ้าผมไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จนานเป็น 10 ปี ผมขอลาออกไปดีกว่า" 3. ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง คุณเคยได้ยินสุภาษิต "ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง" กันบ้างไหม มันหมายถึง คนที่ดีแต่ว่าคนอื่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่สุดท้ายตัวเองกลับเป็นเช่นนั้นเสียเอง ไม่ผิดเพี๊ยนอะไรไปจาก โชเซ่ มูรินโญ่ สมัยกุมบังเหียน เชลซี เมื่อซีซั่น 2004-205 เพราะเขาเคยด่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ว่าเป็นทีมจอดรถบัสขวางหน้าประตู เกมนั้น เชลซี บุกอย่างหนัก แต่เจาะ "สเปอร์ส" ไม่เข้า ทำให้จบเวลา 90 นาที ด้วยสกอร์ 0-0 หลังจบแมตช์ มูรินโญ่ จัดการแขวะ "ไก่เดือยทอง" ไม่เหลือชิ้นดีว่า "สเปอร์ส เอาแต่จอดรถบัสขวางไว้หน้าประตู พวกเราพยามเล่นเกมรุก แต่พวกเขาไม่ พวกเราพยายามทำสกอร์ แต่พวกเขาไม่เอาอะไรเลย" ใครจะเชื่อล่ะว่าบทสัมภาษณ์นั้น ปัจจุบันมันจะย้อนมำทำร้าย มูรินโญ่ เสียเอง เมื่อเขากลายเป็นไอค่อนของกุนซือ "ปาร์ค เดอะ บัส" 4. ท่าจุ๊ปาก พิฆาตแฟน 'หงส์แดง' เชลซี นับเป็นสโมสรที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับ ลิเวอร์พูล หลายต่อหลายครั้ง และหลายๆครั้งมักมีจะ โชเซ่ มูรินโญ่ เกี่ยวข้องอยู่ด้วย ในเหตุการณ์ที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกองกลาง ลิเวอร์พูล ลื่นล้ม และ เป็นชนวนทำให้สโมสรพลาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครั้งแรก ที่รอคอยมาแสนนาน แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับ "หงส์แดง" โดยตรง มันคือนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ เมื่อปี 2005 จริงๆเกมนี้ "หงส์แดง" เล่นได้ดี ออกนำอย่างรวดเร็ว แถมผู้รักษาประตูก็ผีเข้า ปัดป้องจังหวะสำคัญได้หมด แต่แล้ว "สตีวี่ จี" ก็ทำผิดพลาด เมื่อเขาเป็นคนโหม่งสกัดเข้าประตูตัวเอง ทันใดนั้นกล้องจับไปที่ มูรินโญ่ แสดงท่าดีใจด้วยการ "จุ๊ปาก" ตีความหมายว่าเงียบๆนะสาวก "เดอะ ค็อป" แน่นอนพฤติกรรมกวนโอ๊ยแบบนั้น เขาถูกผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออก ขึ้นไปชมบนอัฒจันทร์ พร้อมกับโดนแจกนิ้วกลางจากแฟนบอล ลิเวอร์พูล เป็นของขวัญ 5. กุนซือผู้พา เชลซี ประสบความสำเร็จมากสุด ตัดพฤติกรรมมาดกวน และ เรื่องฝีปากออกไป มูรินโญ่ นับเป็นเฮดโค้ชที่ทั่วโลกต่างยอมรับในฝีมือ เพราะไม่ว่าเขาจะไปอยู่กับสโมสรใด ก็สามารถเสกแชมป์มาประดับให้กับสโมสรเหล่านั้นได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะการสถาปนาให้ "สิงห์บลูส์" ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมตัวท็อปแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียน เชลซี ยุคแรก เมื่อปี 2004 ก็สามารถนำแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 1 สมัย มาตั้งไว้ในตู้โชว์ สแตมฟอร์ด บริด์ ได้สำเร็จ ส่วนคำรบ 2 ในปี 2013 "เดอะ สเปเชียล วัน" ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ซีซั่น ก็นำแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ ลีก คัพ มาฝากแฟนบอลได้ตามความคาดหวัง ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟน เชลซี จะบูชาความยอดเยี่ยมของ มูรินโญ่ เพราะเขาคือกุนซือที่พาทีมประสบความสำเร็จมากที่สุด ถึงแม้จะจากลากันไม่สวยทั้ง 2 ครั้งก็ตาม
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline