กางแท็คติก เอเมรี่ กับ 'ปืนใหญ่' ยุคใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่า

หลังจากเปิดตัวไปแล้วสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมา สาวก "กูนเนอร์ส" ก็เริ่มตั้งคำถามแล้วว่า นายใหญ่คนใหม่ของพวกเขา จะพาทีมไปได้ไกลแค่ไหน แล้วจะมีปรัชญาอะไรใหม่ๆ เข้ามาให้ทีมบ้าง

อาร์เซน่อล เพิ่งประกาศแต่งตั้งให้ อูไน เอเมรี่ เป็นผู้สืบทายาทของ อาร์แซน เวนเกอร์ อย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจาก "เจ๊" ตัดสินใจปิดตำนานเส้นทางโค้ช "เดอะ กันเนอร์ส" ของตัวเองไปแล้ว หยุดเวลาไปแล้วที่ 22 ปี นั่นทำให้มีแต่คำถามผุดขึ้นมาเต็มหัวกองเชียร์เต็มไปหมดว่า กุนซือชาวสเปนคนนี้ไหวไหมที่จะเข้ามาทำงานแทนคนที่ทำงานมานานขนาดนี้ เอเมรี่ มีผลงานที่เด่นชัดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการพา เซบีย่า คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงการพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา จะว่าโนเนมคงไม่ใช่ แค่ไม่เคยมีประสบการณ์ในอังกฤษเท่านั้น แต่ปรัชญาการทำทีม และแท็กติกแบบไหนบ้าง ที่เขาจะนำเข้ามาเขียนหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ปรัชญาคือความใส่ใจในรายละเอียด นี่คือสิ่งที่ เอเมรี่ มีมาตลอดเป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากหลังบ้านของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลหน้าแน่นอน เขาเป็นคนที่ชอบเอาวีดีโอการแข่งขันมานั่งวิเคราะห์ แต่ก็มีนักเตะบางคนที่มองว่ากระบวนการนี้เป็นเรื่องเสียเวลา มีนักเตะบาคนที่ไม่ชอบ อย่าง เนย์มาร์ ที่เคยมีข่าวว่าไปรายงานเจ้าของทีมว่ารำคาญการกระทำนี้เหลือเกิน ขณะที่ก็มี ฆัวกิน ซานเชซ ที่เคยบอกเหมือนกันว่า นั่งดูวีดีโอกับ เอเมรี่ จนป็อปคอร์นหมด ซึ่งการที่เขาลงรายละเอียดเยอะในการเตรียมการต่างๆ นี้เอง อาจช่วยให้การวางโครงสร้างสำหรับทีมในฤดูกาลหน้าทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในยามที่หลายๆ อย่างต้องเริ่มใหม่ ตอนที่เปลี่ยนกุนซือแบบนี้ การวางระบบของ เอเมรี่ สมัยอยู่ เซบีย่า ทำได้ไม่ยากเพราะนักเตะเชื่อฟัง และเชื่อมั่นในตัวของเขา แต่ต่างกับที่ เปแอสเช ที่อุดมด้วยสตาร์ แต่ละคนมีอีโก้ของตัวเอง ขณะที่กับ อาร์เซน่อล มันดูก้ำกึ่ง มันมีความใหม่ เป็นกุนซือใหม่ นักเตะก็มีบ้างที่เป็นสตาร์ ถ้าซื้อใจนักเตะในทีมได้หลายๆ อย่างน่าจะง่ายขึ้น ระบบการเล่น เอเมรี่ เก่งและเคยใช้งานมาแล้วทั้งระบบ 4-2-3-1 และ 4-3-3 และระยะหลังจะหนักไปในแบบหลังมากกว่า โดยเฉพาะตอนที่คุมทีม "เปแอสเช" ซีซั่นที่แล้ว ที่มี 3 ประสานเป็น เอดินสัน คาวานี่, เนย์มาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซึ่งนับว่าอันตรายอย่างยิ่งถ้า 3 คนนี้ได้ลงเล่นพร้อมกัน แต่ถ้าเป็นทรัพยากรของ อาร์เซน่อล ล่ะ จะสามารถทำออกมาได้ในรูปแบบไหน แบบแรก 4-3-3 หากยังยึดผู้เล่นชุดเดิม และระบบเดิม 4-3-3 เอเมรี่ จะสามารถเล่นเกมแบบครองบอลกดดันหนักใส่คู่แช่งแบบที่ถนัดได้ พร้อมกับการยึดเกมรับที่เหนียวแน่น แต่นั่นหมายความว่าทุกคนในทีมต้องทำงานหนัก ต้องวิ่งเยอะ และอาจต้องการกองหลังที่เหนียวกว่าเดิม ตัวเลือกที่มีในทีมอาจไม่พอ ต้องลงตลาดไปหามาใหม่สักคน ฟุลแบ็กสองฝั่ง ทั้ง เบเยริน และ โคลาซินัช เป็นนักเตะที่มีความขยันและวิ่งได้ไม่มีหมดอยู่แล้ว ขณะที่กองกลาง 3 คนเป็นแบบตัวที่เน้นการซับพอร์ทมากกว่าจะเป็นตัวที่เล่นเกมรุกเต็มตัว แต่เป็นแบบที่เล่นได้ทั้งรุกและรับ หรือมีความขยันอย่าง วิลเชียร์, แรมซีย์ และ ชาก้า ขณะที่แนวรุก หากเป็นที่ "เปแอสเช" ก็มี คาวานี่ ยืนกลาง นักเตะแบบนั้นที่ อาร์เซน่อล ก็จะมี ลากาแซ็ตต์ ดังนั้นหากวางเขาไว้ตรงกลางแล้ว โอบาเมย็อง ก็ต้องถ่างออกมาริมเส้น ขณะที่คนที่ขาดไม่ได้อย่าง โอซิล ก็จะเป็นตัวที่คอยตัดเข้าในมากขึ้นเหมือนอย่าง เนย์มาร์ หรือ ดรักซ์เลอร์ ไม่เหมือนกับตอนที่ เวนเกอร์ ใช้งานเขา แบบที่สอง 4-3-3 เป็นการเล่นอีกแบบของ 4-3-3 ที่เน้นความรัดกุมมากขึ้น ไม่ได้กดดันหนักเหมือนแบบแรก ใช้กองหลังที่มีประสบการณ์ ช่วยประคองดาวรุ่งอย่างที่เคยให้โอกาส เพรสเนล คิมเพมเบ้ จนทำได้ดีมาแล้ว ก็อาจมี มอนเรอัล มาช่วยซัพพอร์ทน้องอีกแรง ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหาย กองกลาง 3 คนจะเน้นไปที่การจ่ายบอลซึ่งเป็นจุดเด่นของทั้ง ชาก้า และ แรมซีย์ รวมถึง อิโวบี้ แต่จะปล่อยให้ อิโวบี้ ได้เก็บประสบการณ์และเล่นเกมรุกเต็มตัวมากชึ้น ส่วนแนวรุกด้านหน้า จะทิ้งตัวที่สปีดจัดอย่าง โอบาเมย็อง ไว้เป็นตัวเป้า ขณะที่ตัวสนับสนุนริมเส้นจะเป็นคนที่เน้นเทคนิคและผ่านบอลทะลุทะลวงได้ดีอย่าง เฮนริค มคิตาร์ยาน และ เมซุต โอซิล รวมๆ แล้วคือการรับให้แน่น แล้วส่งบอลสวยๆ ให้ โอบาเมย็อง ที่มีความเร็วสูงเข้าทำได้ในหลายๆ รูปแบบนั่นแหละ คล้ายๆ กับที่ คล็อปป์ เคยใช้งานเขาตอนอยู่ ดอร์ทมุนด์ ก็พอจะพูดได้ แบบที่สาม 4-2-3-1 จะบอกว่าเป็นระบบที่อาจต้องเรียกว่าเอามาปัดฝุ่นเลยทีเดียว เพราะใช้ตั้งแต่สมัยคุม อัลเมเรีย, บาเลนเซีย จนถึง เซบีย่า ในสเปนนู่นเลย โดยโฟกัสอยู่ที่การใช้นักเตะในตำแหน่งหมายเลข 10 ยืนเป็นศูนย์กลางเกมรุก ซึ่งในที่นี้ก็น่าจะเป็น เมซุต โอซิล ทีทำหน้าที่ได้ดีที่สุด เหมือนที่เคยมี ดาบิด ซิลบา หรือ ฆวน มาต้า ตอนอยู่ บาเลนเซีย แนวรุกก็จะมีทั้ง มคิตาร์ยาน, โอบาเมย็อง ที่คอยขนาบข้าง ลากาแซ็ตต์ ที่อยู่ตรงกลาง มิดฟิลด์ 2 คนทีก็จะต้องเล่นได้ทั้งรับและรุก เป็น แรมซีย์ กับ ชาก้า ดูจะเหมาะที่สุด ขณะที่แนวรบจะปรับได้หลากหลาย ไปตายตัวขึ้นอยู่กับสถานการณ์ นั่นคือความน่าสนใจของสิ่งที่ เอเมรี่ จะนำเข้ามาให้กับ อาร์เซน่อล ตอนนี้ก็ได้แต่รอดู จะก่อนหรือหลัง ฟุตบอลโลก เท่านั้นเอง แต่ก้าวแรกที่จะได้เห็นแน่ๆ คือการเสริมทัพ ที่เป็นการประกาศขั้นแรกเลยว่า โครงสร้างทีมในซีซั่นหน้า จะเน้นไปทางไหน

- เทพเฟี๊ยต -