logo-heading

หลังจากที่ทีมชาติสเปน ภายใต้การคุมทีมของ ฆูเลน โลเปเตกี ได้ประกาศรายชื่อนักเตะชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2018 ณ ประเทศรัสเซีย ปรากฏว่า 7 แข้ง จาก 23 คน เป็นเด็กในคาถา ที่รู้ฝีเท้ากันดี เพราะเคยร่วมแรงร่วมใจกันมา สมัยคว้าแชมป์ ยูโร รุ่นอายไม่เกิน 21 ปี มาครอง เมื่อปี 2013

หากพูดถึงชุดนั้น หลายๆคนที่เคยเป็นตัวหลักให้กับทัพ "กระทิงดุ" ชุดยู-21 ก็ออกทะเลไปไกล บ้างก็กระจายไปอยู่ทีมเล็กๆ บ้างก็ฟอร์มตกจนโดนดรอปเป็นสำรอง แต่จาก 7 คนที่ถูกเรียกขึ้นมาเป็นความหวังยุคใหม่ของทีมชาติสเปน มาดูกันว่าพวกเขาเหมาะสม ที่จะโชว์ผลงานให้แฟนบอลทั่วโลกได้ประจักษ์หรือไม่

1. ดาบิด เด เคอา

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' ดาบิด เด แฮ !เอ้ยมันต้อง ดาบิด เด เคอา ซิถึงจะถูก หากย้อนไปเมื่อปี 2013 นายทวารรายนี้มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว เพราะขณะนั้นก็สังกัดอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เพียงแค่ยังไม่ถึงขั้นยึดมือ 1 ทีมชาติสเปน ชุดใหญ่ เนื่องจากยังมี อีเกร์ กาซียาส ขวางทางอยู่ แต่ทว่า เด เคอา ก็ไปไต่เต้ากับทีม สเปน ชุดเล็ก ด้วยการช่วยรุ่นยู-21 ไม่เสียประตูตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม จนกระทั่งถึงรอบตัดเชือก มีเสีย 2 ลูก ในนัดชิงชนะเลิศ แต่ก็ชนะ อิตาลี ถึง 4-2 ปัจจุบัน เด เคอา คือนายทวารหมายเลข 1 แห่งทัพ "กระทิงดุ" สานต่อจากตำนาน อีเกร์ กาซียาส แน่นอนไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าผู้รักษาประตูจากค่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกแล้ว เพราะผลงานเป็นที่ประจักษ์มาหลายฤดูกาล โดยเฉพาะซีซั่นนี้ได้ทำสถิติคลีนชีตในศึก พรีเมียร์ลีก ถึง 18 ครั้ง คว้ารางวัลถุงมือทองคำไปครอง

2. ดานี่ การ์บาฆาล

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' เมื่อ 5 ปีก่อน การ์บาฆาล เป็นเด็กฝึกของ เรอัล มาดริด แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ชุดใหญ่ จึงยกธงขาวขอย้ายไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทว่าเพียงแค่ซีซั่นเดียว เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้เข้าตากับ "ห้างขายยา" จนมีชื่อติดทัพ "กระทิงดุ" รุ่นยู-21 ทำให้ มาดริด ใช้ออปชั่นซื้อตัวกลับมา ถึงแม้ต้องจ่ายเงินมากกว่าตอนขายไป อย่างไรก็ตาม ทัวร์ทาเมนต์นั้น การ์บาฆาล นั่งเป็นแค่ตัวสำรอง เพราะตำแหน่งแบ็กขวา มาร์ติน มอนโตย่า คือผู้จับจองสัมปทาน ผ่านมา 5 ปี กลายเป็น มอนโตย่า หลุดวงโคจรไปไกล ผิดกับ การ์บาฆาล เมื่อเขาได้กลับมาสู่สโมสร เรอัล มาดริด นับตั้งแต่ซีซั่น 2013-14 ก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริง "ราชันชุดขาว" อยู่ตลอด มีส่วนสำคัญกับการคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 3 สมัย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ โลเปเตกี จะเรียก การ์บาฆาล มาลุย "เวิลด์ คัพ" สมัย 2 ซึ่งเชื่อว่า ฟุตบอลโลก 2018 แบ็กขวารายนี้ ก็คงได้เป็นตัวจริงให้กับทีมชาติสเปน

3. นาโช่ เฟร์นานเดซ

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' อีกหนึ่งผลผลิตจากอะคาเดมี่ เรอัล มาดริด ที่มีชื่ออยู่ในทีมชุดแชมป์ของ สเปน รุ่นยู-21 ทัวร์นาเมนต์นั้น นับว่า นาโช่ เฟร์นานเดซ มีศักดิ์เป็นรุ่นพี่ เพราะกว่าจะแข่งขันรอบสุดท้าย ก็อายุปาเข้าไป 23 ปี แต่ถึงกระนั้นปราการหลังสารพัดประโยชน์ มีสถานะเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ได้ลงสนามแค่ 1 นัด ตลอดทั้งรายการ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป นาโช่ อาจไม่ใช่คนที่โดดเด่นในสายตาแฟนบอล และมักสร้างความผิดพลาดยามลงสนาม แต่ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังกับ "ราชันชุดขาว" เจ้าตัวได้ลงสนามมากขึ้น ยามที่ตัวหลักต้องบาดเจ็บ นับรวมก็ 80 แมตช์ โดยสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้งฟูลแบ็ก และก็ เซ็นเตอร์แบ็ก ดังนั้นเมื่อ โลเปเตกี มองว่าสารพัดประโยชน์แบบนี้ การหนีบไป ฟุตบอลโลก 2018 ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเรื่องนักเตะเจ็บ

4. โกเก้

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' มิดฟิลด์เท้าชั่งทอง ผู้ที่เปิดบอลแม่นอย่างกับเอามือไปจับวาง และเป็นนักเตะผู้จงรักภักดีกับ แอตเลติโก มาดริด อย่างมาก ด้วยผลงานจากการช่วยทัพ "ตราหมี" เถลิงบัลลังค์ โกปา เดล เรย์ เมื่อซีซั่น 2012-13 ทำให้ช่วงซัมเมอร์เขาจึงกลายเป็นกองกลางตัวสำคัญให้กับทีมชาติสเปน รุ่นไม่เกิน 21 ปี และคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นั้นมาครองด้วยเช่นกัน จากนั้น โกเก้ ก็กลายเป็นจอมแอสซิสต์ให้กับทัพ "ตราหมี" รับหน้าที่เปิดลูกนิ่ง จนทำให้สโมสรหักปากกาเซียนคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน เหนือ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ปัจจุบัน โกเก้ ยังคงสถานะเป็นคนสำคัญของ แอตเลติโก มาดริด เป็นตัวขับเคลื่อนเกมสู่แดนหน้า พร้อมร่วมซิวถ้วย ยูโรปา ลีก มาครอง ฉะนั้นการมี โกเก้ อยู่ในมือของ โลเปเตกี ทำให้จะมีอาวุธจากลูกนิ่งเพิ่มเข้ามาอีก

5. ติอาโก้ อัลกันตาร่า

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' ติอาโก้ ฉายแววมาแต่ไหน แต่ไร เขาคือเพชรเม็ดงามแห่งแดน "กระทิงดุ" ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง ยูโร ยู-21 ปี 2013 อัลกันตาร่า ผู้เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาในปี 2011 ก็ยังเจิดจรัส ภายใต้การคุมทีมของ โลเปเตกี หลังเป็นคนซัดแฮตทริคให้กับ สเปน ไล่ถล่ม อิตาลี 4-2 ซิวโทรฟี่มาครองอีกสมัย พร้อมควบตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ด้วยฝีเท้า บวกกับเป็นเด็ก บาร์เซโลน่า สามารถสร้างความสำเร็จได้อีกนานแสนนาน แต่เจ้าตัวตัดสินใจเลือกตามเจ้านายเก่าอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค หลังจบทัวร์นาเมนต์เป็นแชมป์ ยู-21 ถึงแม้ "เสือใต้" จะเปลี่ยนกุนซือไปอีกหลายคน ทั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ หรือ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส แต่ ติอาโก้ ยังคงถูกเลือกเป็นแกนหลักของทีมอยู่เสมอ หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เชื่อว่า โลเปเตกี ต้องมีไอเดียสำหรับการใช้งาน ติอาโก้ ในศึก ฟุตบอลโลก ครั้งนี้แน่นอน

6. อิสโก้

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' ดาวเตะฟ้าประทาน ผู้มีเทคนิคชั้นเชิงฟุตบอลอันยอดเยี่ยม ในทัวร์นาเมนต์ ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี นับว่า อิสโก้ เป็นอีก 1 คีย์แมนสำคัญ ที่ช่วยให้ สเปน บรรลุเป้าหมายคว้าแชมป์มาครอง โดยลงครบทั้ง 5 นัด ซัดไปถึง 3 ประตู ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการยิงจุดโทษพา "กระทิงดุ" เอาชนะ อิตาลี 4-2 นัดชิงชนะเลิศ ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับ มาลาก้า บวกกับ ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อปี 2013 ทำให้ เรอัล มาดริด ซื้อมาร่วมทีม แต่การอยู่ที่เมืองหลวง ประเทศสเปน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะการลงเป็นตัวจริงสม่ำเสมอ แทบไม่ค่อยมีให้เห็น อย่างไรก็ตาม อิสโก้ อาศัยช่วงพวกตัวรุกบาดเจ็บ อย่าง แกเร็ธ เบล และใช้โอกาสนั้นทำผลงานอันสุดยอด มีส่วนช่วย มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ลา ลีกา สเปน อีกทั้งซีซั่นนี้ก็ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ "ยูซีแอล" ฟอร์มแบบนี้ ฉะนั้นไม่เรียกติดทีมชาติถือว่าผิด!

7. โรดริโก้ โมเรโน่

จาก 7 เด็กเทพ สู่ความหวังยุคใหม่แห่งทัพ 'กระทิงดุ' ในบรรดา 6 คนก่อนหน้านี้ หากให้เทียบกันนับว่า โรดริโก้ โมเรโน่ ดูมีชื่อเสียงน้อยที่สุด เพราะเขาไม่ได้อยู่สังกัดสโมสรใหญ่แบบคนอื่นๆ แต่ถ้าหากทัพ "กระทิงดุ" ไม่มีเขาผู้นี้ ก็คงไม่มีทางกรุงทางไปถึงแชมป์ยุโรป รุ่น ยู-21 เพราะในรอบคัดเลือก พี่แกซัดไปถึง 11 ประตู จาก 9 นัด น่าเสียดายที่นัดชิงชนะเลิศที่ถลุง อิตาลี 4-2 เขาเป็นตัวสำรอง ถึงแม้หลังจบทัวร์นาเมนต์ เจ้าตัวจะยังค้าแข้งอยู่กับ เบนฟิก้า แต่กระนั้นก็ทำผลงานได้อย่างสุดยอด อยู่ในชุดประวัติศาสตร์คว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" เมื่อซีซั่น 2013-14 ทำให้ช่วงซัมเมอร์ได้ย้ายมาอยู่กับ บาเลนเซีย 2 ซีซั่นแรก เจ้าตัวมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่น ทว่าจู่ๆฤดูกาลนี้ที่เพิ่งจบลงไป โรดริโก้ เหมือนเก็บกฎ งัดฟอร์มเทพกดไป 16 ประตู นำ "ไอ้ค้างคาว" คัมแบ็กสู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอนเขาได้กลับคืนสู่ทีมชาติสเปน ชุดใหญ่ อีกครั้ง ในยุค โลเปเตกี และเตรียมเป็นออปชั่นเสริมให้กับทัพ "กระทิงดุ" กับ ฟุตบอลโลก 2018 หนนี้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline