ส่วนเกินของทีม ? 5 เหตุผลที่ แกเร็ธ เบล ควรย้ายทีม

แกเร็ธ เบล ย้ำคำเดิมว่าเขาต้องการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ไม่งั้นคงต้องพิจารณาเรื่องอนาคตกับเรอัล มาดริดอีกครั้งว่าจะอยู่หรือย้าย

แกเร็ธ เบล สตาร์ เรอัล มาดริด วัย 28 ปี ย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในเวลานั้น 86 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2013 และช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 3 สมัย รวมถึงแชมป์ลาลีกา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาคือคีย์แมนคนสำคัญที่พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่กรุงเคียฟในฤดูกาลนี้ โดย เขาถูก ซีเนดีน ซีดาน ใส่ชื่อเป็นแค่ตัวสำรองก่อนถูกส่งลงมาในครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ทำ 2 ประตูช่วยให้ ราชันชุดขาวเอาชนะลิเวอร์พูล 3-1 คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน อย่างไรก็ตามอนาคตของอดีตนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกก็ยังคงไม่แน่นอนอยู่ดี เมื่อเจ้าตัวแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องการตำแหน่งตัวจริงในทีม ไม่เช่นนั้นก็คงต้องพิจารณาอนาคตกันอีกครั้ง วันนี้เราจึงรวบรวม 5 เหตุผลมาฝากชาวขอบสนามว่าทำไม แกเร็ธ เบล ควรย้ายทีม เพื่ออนาคตที่ดีของเขาเอง 1. อยู่ไปก็ไม่การันตีตัวจริง หลังจากต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งในที่สุด เบล ก็ต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้เด็กรุ่นใหม่อย่าง อิสโก้ ที่เป็นคู่แข่งในการแย่งตำแหน่งกับเขามานาน หลังจาก เบล มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ซีดาน ก็ได้ปรับระบบการเล่นมาเป็น 4-3-1-2 โดยมี อิสโก้ ยืนอยู่หลังคู่กองหน้าอย่าง โรนัลโด้ และ เบนเซม่า ซึ่งระบบดังกล่าวถือได้ว่าลงตัวเป็นอย่างมาก ประกอบกับฝีเท้าของ อิสโก้ ก็ก้าวขึ้นไปสู่ระดับเวิลด์คลาสไปแล้ว นอกเหนือจาก อิสโก้ เรอัล มาดริด ยังมีตัวเลือกอย่าง มาร์โก อเซนซิโอ้ ที่ทำผลงานดีวันดีคืน ทำให้การขับเคี่ยวในตำแหน่งศูนย์หน้ายังคงเข้มข้น และไม่ได้การันตีตำแหน่งตัวจริงให้เจ้าตัวอย่างแน่นอน 2. เพื่อหลุดพ้นร่มเงา โรนัลโด้ แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่า สตาร์อันดับ 1 ของ ราชันชุดขาว ในยุคนี้ต้องยกให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล ก็ต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของเขามาตลอด สตาร์เวลส์รายนี้ไม่สามารถขึ้นมาเป็นสตาร์อันดับหนึ่งได้ อารมณ์คงเหมือน เนย์มาร์ ที่ต้องตกอยู่ใต้ร่มเงา เมสซี่ มาตลอด จึงตัดสินใจย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เพื่อพิสูจน์ตัวเอง 3. ราชันชุดขาววางแผนซื้อ อาซาร์ และ เนย์มาร์ ปัจจุบัน เรอัล มาดริด แสดงความต้องการคว้าตัวนักเตะดังระดับโลกมาเสริมทัพ แน่นอนว่าหากพวกเขาทำได้สำเร็จ ไม่ว่าจะคว้า เอแด็น อาซาร์ หรือ เนย์มาร์ มาร่วมทีม ก็ไม่เหลือพื้นที่ตำแหน่งตัวจริงให้เขาได้ลงสนามอยู่ดี และแน่นอน แกเร็ธ เบล อาจจะกลายเป็นตัวเลือกแรกที่ เรอัล มาดริด จะขายทิ้ง เพื่อไม่ให้ผิดกฎการเงิน แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะรอให้ถึงวันที่ถูกโละ ระดับของเขาควรจะเป็นผู้เลือกได้มากกว่าจริงไหม ? 4. ได้แชมป์ทุกรายการกับ เรอัล มาดริด แล้ว อาจถึงเวลาที่ เบล จะอิ่มตัวกับ เรอัล มาดริด แล้ว เนื่องจากเขาได้แชมป์ทุกรายการกับ ราชันชุดขาว ไม่ว่าจะเป็น ลาลีกา, โกปา เดล เรย์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ แชมป์สโมสรโลก งานในสเปนของเขาจบลงแล้ว อย่างไรก็ตามการกลับแดนผู้ดีก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพื่อสานต่อฝันตัวเอง เนื่องจาก เบล ยังไม่เคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก หลังค้าแข้งในอังกฤษถึง 8 ปี กับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ นั่นเอง และทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เขากำลังตกเป็นข่าวอยู่ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว เนื่องจากเป็นทีมใหญ่และมีลุ้นแชมป์อาจจะตอบสนองความต้องการของตัวเองก็เป็นได้ 5. โดดเดี่ยวเดียวดาย ไร้ความสุข หลังจากต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บ ฟอร์มของเขาก็ไม่คงเส้นคงวา เบล ต้องรับมือกับเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมเข้ามา ที่สำคัญเขายังต้องเรียนรู้กับภาษาสเปน และก็ยังต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตที่เมืองมาดริด และ ประเทศสเปน แม้ว่าจะอยู่มานานหลายปี แต่ดูเหมือนเขาค่อนข้างโดดเดี่ยวยามอยู่ในห้องแต่งตัว เช่นเดียวกับตอนลงสนาม จากการเปิดเผยของ ฮอร์เก้ วัลดาโน่ อดีตโค้ชและผู้อำนวยการของสโมสร หลายคนอาจจะมองเรื่องของภาษาว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ว่าความจริงมันเป็นเรื่องสำคัญ ภาษาเขาดีขึ้นก็จริง แต่ว่ามันก็ไม่ได้ช่วย เบล มีความสุขขึ้นเท่าไหร่จากการมองเข้าไปที่แววตาของเขา

- เปี๊ยกบางใหญ่ -