logo-heading

งานกับทีมชาติ สเปน ไม่สวยแล้วแน่นอน สำหรับ โลเปเตกี เพราะเพิ่งโดนปลดจากเก้าอี้แบบฟ้าผ่าไป แต่จะบอกว่าการคุม "ราชันชุดขาว" ของเขาก็ไม่ง่ายหรอก

สถานการณ์ของทีมชาติสเปน นับว่าน่าตกใจไม่น้อย ใครจะคิดว่าก่อน ฟุตบอลโลก จะรูดม่านเปิดฉากแค่ 1-2 วันจะเกิดเหตุการณ์โกลาหลในแคมป์ทีมชาติขนาดนี้ กุนซือ จู่ๆ เรอัล มาดริด ก็ประกาศว่ากุนซือ ฆูเลน โลเปเตกี จะไปคุมทีม "ราชันชุดขาว" หลังจบฟุตบอลโลก เกิดความไม่พอใจขึ้นในสหพันธ์ฟุตบอล โดยเฉพาะ หลุยส์ โรเบียเรส ประธานที่รู้ก่อนชาวบ้านเขาแค่ 5 นาที เกิดความไม่ลงรอย สุดท้ายวันนี้ก็โดนปลดออกจากตำแหน่ง เปลี่ยนคนคุมทีมให้ เฟร์นานโด เอียร์โร่ มาคุมทีมตลอดทัวร์นาเมนต์ ก่อนทีมมีคิวเตะ 2 วัน ชัดเลยว่าก้าวเดินก้าวนี้ของ โลเปเตกี ไม่ได้เหยียบก้าวแรกที่มั่นคง ขณะที่ก้าวต่อไปกับ เรอัล มาดริด ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เพราะอะไรน่ะเหรอ ลองไปต่อนเหตุผลกัน

เป็นนักเตะ บาร์เซโลน่า มาก่อน

แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นผู้รักษาประตูเฝ้าเสาให้กับ เรอัล มาดริด กาสติย่า หรือ ทีมสำรอง "ราชันชุดขาว" มาก่อน และเคยได้ขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ แต่นั่นก็แค่เกมเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี 1994 ได้ย้ายไป บาร์เซโลน่า เขาต้องต่อสู้แย่งตำแหน่งตัวจริงกับ กาเลส บุสเก็ตส์ แต่ก็ไม่สำเร็จ เขากลายเป็นตัวเลือกรองลงไปอีกเมื่อทีมซื้อ วิคเตอร์ บาย่า เข้ามา แต่ก็ได้เฝ้าเสาให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ในลีกไป 5 เกม และเขาถูกจดจำที่นี่มากกว่า กับ มาดริด การที่เขาเป็นผู้เล่นของทั้งสองทีม แต่ถูกจดจำในฐานะนักเตะ บาร์เซโลน่า ถ้าพูดกันตามหลักการของมืออาชีพ มันก็ไม่ควรจะเป็นปัญหา แต่ใครจะรู้กับนักเตะอาจจะไม่ แต่กับแฟนบอล ที่แบ่งขั้วกันชัดเจน ก็ไม่แน่

ประสบการณ์ในระดับสโมสรน้อย

เริ่มงานคุมทีมในฐานะผู้ช่วยทีมชาติ ยู17 เมื่อปี 2003 หลังจากนั้นก็มาคุม ราโย่ อยู่ 11 เกม แล้วก็ว่างกันยาวๆ จนกระทั้งปี 2008 ก็ได้มาคุมทีม เรอัล มาดริด กาสติย่า ที่เคยเล่น ผลงานคือ คุม 38 นัด ชนะแค่ 18 เกม จากนั้นก็คุมทีมชาติชุดเยาวชนมาตลอดตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปี 2014 แม้จะมีผลงานยอดเยี่ยมกับการพาทีมชุด ยู-21 คว้าแชมป์ยุโรป ได้ก็ตาม สโมสรที่เขาคุมนานที่สุดน่าจะเป็น เอฟซี ปอร์โต้ คุมทีม 77 นัด ชนะได้ถึง 53 เกมก็จริง แต่ไม่มีแชมป์ติดมือสักนัดเดียว จนการะทั่งได้มาคุมทีมชาติสเปน แต่ก็คุมได้แค่ 20 นัดเท่านั้น รวมๆ แล้วชีวิตกุนซือของเขาจะง่วนอยู่กับการคุมทีมชาติ มากกว่าเสียอีก

ความเห็นระหว่าง โรนัลโด้ กับ เมสซี่

เรื่องการแข่งขันระหว่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ไปแล้ว แม้ว่าการโหวตนักเตะยอดเยี่ยม ฟีฟ่า รอบล่าสุด โลเปเตกี จะเพลย์เซฟ ด้วยการเลือก รามอส เป็นเบอร์หนึ่ง ที่เหลือก็เป็นนักเตะทีมชาติสเปนหมดก็จริง แต่ครั้งหนึ่งพี่แกดันไปให้สัมภาษณ์ว่าในสายตาของเขา เมสซี่ คือนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ไม่ใช่ โรนัลโด้ แค่นี้ก็ผิดแล้ว ในฐานะกุนซือ เรอัล มาดริด ต่อให้นักเตะหรือผู้บริหารไม่พูดอะไร แต่แฟนบอลที่ค่อนข้างจะเอาใจยากของทีมคงไม่นั่งฟังเฉยๆ แน่

ต้องสะสางปัญหาของบรรดาซูเปอร์สตาร์

อย่างหนึ่งที่ยากในการคุมทีม เรอัล มาดริด คือต้องทนรับการแทรกแซงจากบอร์ดบริหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ ซีเนดีน ซีดาน ไม่อยากทน แล้วโบกมือลาไป โลเปเตกี เข้ามาก็ต้องเจอ การซื้อนักเตะยัดเข้ามา การต้องการให้นักเตะคนนั้นคนนี้ลงสนาม จนอาจทำให้เกิดปัญหาในทีมได้ และที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการที่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล สองสตาร์ของ มาดริด ที่มีข่าวว่าจะย้ายทีม มาถึงคงต้องเคลียร์เรื่องของสองคนนี้ก่อนแน่นอน

การคุ้นชินกับนักเตะ สเปน

เขาเป็นกุนซือทีมชาติ สเปน มาแทบทุกชุด และแทบทั้งชีวิตการเป็นกุนซือ ขณะที่ทีมชาติ สเปน ชุดใหญ่ชุดที่เขาเรียกมานี้ก็มีนักเตะ เรอัล มาดริด อยู่ถึง 6 คน หมายความว่านี่คือ 6 คนที่เขาชอบแน่ๆ และยิ่งพิจารณาจากสมัยที่คุม ปอร์โต้ ก็มักดึงนักเตะสเปนมาไว้ในทีม หรือไม่อย่างน้อยก็ต้องพูดสเปน นั่นอาจทำให้การคุมทีมรวมดาราจากหลายชาติหลายภาษาอย่าง เรอัล มาดริด มีปัญหาหรือไม่ จากกำหนดเดิมที่เขาอาจต้องเริ่มงานตอนหลังจบฟุตบอลโลกนั่นคือกลางเดือน กรกฎาคม แต่ในเมื่อตอนนี้โดนปลดแล้ว ได้เริ่มงานเร็วขึ้น อย่างน้อยก็มีเวลาทำการบ้านเตรียมตัวมากขึ้น จะทำได้ดีไหม ก็ต้องคอยติดตามดู

- เทพเฟี๊ยต -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline