ย้อนรอยดีล โรนัลโด้ เคยเฉียดกลายร่างเป็น 'ไอ้ม้าลาย' เมื่อปี 2003

ท่ามกลางช่วงเวลาอันเงียบเหล่า กับการพัก 2 วันของ ฟุตบอลโลก จู่ๆ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส ก็กลับมาครองหน้า 1 บนพาดหัวสื่อกีฬาเกือบทั่วทั้งโลก

เมื่อสื่อหลักอย่าง สเปน และ โปรตุเกส ต่างตีข่าวพร้อมใจกันว่า ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เตรียมทำเซอร์ไพรส์หักหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการนำตัว โรนัลโด้ มาล่าตาข่าย ด้วยเม็ดเงิน 100 ล้านปอนด์ หลัง "ซีอาร์ 7" อาจเบื่อหน่ายกับการเจรจาเรื่องค่าเหนื่อยกับ เรอัล มาดริด ในสัญญาฉบับใหม่

ด้วยกระแสที่ถาโถมมาอย่างหนัก เหมือนเป็นการย้ำเตือน ยูเวนตุส ว่าเป็นสโมสรที่รักเดียว ใจเดียว รอคอยเพียงแค่ โรนัลโด้ มาถึง 16 ปี ถึงแม้จะเคยตกเป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เรอัล มาดริด หรือ เคยถูกทำร้ายมาเพียงใด ในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จริงๆ "ยูเว่" มีโอาสได้ตัวก่อน “ปีศาจแดง” ใครด้วยซ้ำ แต่เส้นขนานไม่บรรจบกัน ซึ่งสาเหตุความผิดหวังครั้งนั้น จะย้อนความหลังให้ได้รำลึกกัน จุดเริ่มต้น จานนี่ ดิ มาร์ซิโอ้ อดีตผู้อำนวยการกีฬาของ ยูเวนตุส ได้เดินทางไปดูผลงาน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมชื่อดังจากลีกโปรตุเกส เพื่อหวังติดตามฟอร์มของ ริคาร์โด้ กวาเรสม่า เมื่อปี 2003 แต่แล้วเขากลับต้องอึ้งฝีเท้าของเจ้าหนูคนหนึ่ง ซึ่งโชว์ฟอร์มลากเลื้อยได้แบบสะแด่วแห้ว เรียกว่าทำเอาการตามไปดูจอมปั่นไซร้ก้อย ถูกเบียดชิดซ้ายตกขอบไปทันที เจ้าหนูคนนั้นที่ ดิ มาร์ซิโอ้ ทึ่งฟอร์มจนต้องอ้าปากค้าง ก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัยเพียง 18 ปี จากความคิดที่หวังจะไปเซ็นสัญญา ริคาร์โด้ กวาเรสม่า มาอยู่กับ ยูเวนตุส ก็เปลี่ยนไป และเบนเป้าหมายมายัง โรนัลโด้ เต็มตัว เพียงจากเห็นฟอร์ม โรนัลโด้ ไม่นาน อดีตบิ๊กบริหารก็ได้ต่อสายตรงกลับไปยังสโมสร พร้อมคำพูดที่ยังดูตื่นเต้นไม่หาย "ตอนนั้นผมได้โทรกลับไปหาผู้บริหาร ยูเวนตุส และบอกพวกเขาว่า ผมได้เจอใครคนหนึ่ง ที่จะกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อจากยุคของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า" การเจรจาเป็นไปอย่างสวยงาม และ ดีลใกล้จะลุล่วง หากตอนนั้นคุณอยู่เพียงแค่ ลิสบอน ใครล่ะจะไม่สนใจมาอยู่กับ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี !! หลังจากบรรดาผู้หรับผู้ใหญ่ของ ยูเวนตุส โอเคกับเจ้าหนุ่ม โรนัลโด้ ทำให้ จานนี่ ดิ มาร์ซิโอ้ ถึงขั้นเดินงานด้วยตัวเอง บินไปเจรจากับ โรนัลโด้ ที่ประเทศโปรตุเกส ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ไหลลื่นอย่างกับ พี่วอก ในเรื่องเป็นต่อ จานนี่ ดิ มาร์ซิโอ้ นำเจ้าหนูวัย 18 ปี พร้อมแม่ของเขา เดินทางมายังเมืองตูริน พามาทัวร์สโมสร, มาเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบ "เบียงโคเนรี่" พร้อมกับผ่านขั้นตอนตรวจร่างกายเรียบร้อย โดยเหลือเพียงขั้นตอนเดียวคือการจรดปากกาเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ และรอให้ มาร์เซโล่ ซาลาส อดีตกองหน้าทีมชาติชิลี ตอบรับย้ายสลับขั้วไปเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ความหวังสร้างเป็นตำนาน กลายเป็นดับไปสูญสิ้น ในโลกนี้ "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" ทุกอย่างเหมือนจะลงตัว ยูเวนตุส เตรียมได้ตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาเสริมทัพ ก่อนที่เขาจะไปสร้างตำนานให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ทีมชาติโปรตุเกส และ จารึกประวัติศาสตร์บนวงการลูกหนัง แบบที่แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นมาโดยตลอด แต่สุดท้ายความ ยูเวนตุส ก็พังทลายลง เพราะ มาร์เซโล่ ซาลาส เพียงคนเดียว เนื่องจากอดีตดาวเตะทีมชิลี ปฏิเสธไม่ต้องการย้ายไปค้าแข้งในลีกโปรตุเกส "ตอนนั้นดีลทุกอย่างใกล้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ปัญหาสำคัญเลยคือ ซาลาส ไม่ยอมรับข้อเสนอในการย้ายสลับขั้วไปเล่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน เนื่องด้วยเงินส่วนตัวเพียงแค่ไม่กี่ล้านยูโรเท่านั้น ซาลาส ไม่ต้องการย้ายออกจากทีม สุดท้ายนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ ยูเวนตุส พลาดได้ตัว โรนัลโด้ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถาม จอร์จ เมนเดส (เอเย่นต์ โรนัลโด้) ได้เลย เขาทราบเรื่องนี้ดี" จานนี่ ดิ มาร์ซิโอ้ เล่าเรื่องราวถึงความหลังเกี่ยวกับ โรนัลโด้ เอาไว้ จากวันนั้นถึงวันนี้ เส้นทางของ โรนัลโด้ เหมือนเป็นเส้นขนาน ไม่มีทางมาบรรจบกันได้อีกแล้ว แต่อย่างที่บอก "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" จู่ๆ ยูเวนตุส ก็กำลังใกล้ปิดดีล "ซีอาร์ 7" ความเป็นจริง กำลังจะเปิดเผย อยากให้แฟนๆอดใจรออีกสักนิด ว่า โรนัลโด้ จะได้กลายร่างมาเป็น "ไอ้ม้าลาย" ในวัย 33 ปี หรือไม่