logo-heading

ข่าวการออกมาทวงเงินของนักเตะในลีกไทยยังมีออกมาเป็นระยะๆ ทั้งค้างเงินเดือน เบี้ยวค่าเซ็น เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งตั้งแต่ฟุตบอลไทยลีกเริ่มบูม

การค้างจ่าย ไม่ยอมจ่าย หรืออะไรก็ตามแต่ที่ไม่ถูกต้องถือเป็นการ “ทำนาบนหลังคน” ที่คนถูกกระทำไม่ควรยินยอมเด็ดขาด

ฟุตบอลไทยสมัยนี้ถือเป็น “อาชีพ” แล้ว การจ้างงานอยู่ภายใต้ “กฎหมายแรงงาน” เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมต้องร้องเรียนและดำเนินการตามช่องทางที่ทำได้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คือที่พึ่งแห่งแรกที่ต้องไปเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ถ้ายังไม่เคลียร์ก็ต้องพึงกระบวนการของ “ศาล” ที่ผ่านมามี “คดีตัวอย่าง” ที่ไปถึง “ศาลแรงงาน” จนมีคำพิพากษาออกมาแล้ว หลายคดีนักฟุตบอลได้รับชัยชนะ ทั้งเรื่องฟ้องทวงหนี้ หรือจากถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม กรณีของนักเตะต่างชาติก็มีหลายรายที่ส่งเรื่องไปถึง “ฟีฟ่า” สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ จนกระทั่งมีคำสั่งออกมาเป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่มีหลายกรณีเช่นกันที่นักเตะทำเป็นเฉยเมย ไม่ดิ้นรนต่อสู้ คิดว่าให้มันจบๆไป ประมาณว่าถ้าสโมสรเก่าที่ติดหนี้ยอมเซ็นให้ย้ายไปอยู่ทีมใหม่ได้ก็ต้องยอมๆกันไป เรื่องแบบนี้มีอยู่จริงในวงการฟุตบอลไทยครับ แต่พักหลังๆอาจจะน้อยลง หรือไม่นักเตะหมดสัญญาพอดี ข่าวนักบอลออกมาทวงหนี้สโมสรเก่าเลยมีบ่อยหน ที่น่าแปลกใจคือหลายกรณีเกิดขึ้นซ้ำๆกับสโมสรเดิมๆ บางทีไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ แต่หลายคนรู้เลยว่าทีมไหน !!! กล้าบอกเลยว่าหลังไมค์นักข่าวจะมีนักบอลมาถามหาความช่วยเหลือตลอด ประมาณว่า “ทีมไม่จ่ายเงินเดือนผมทำไงดีครับ” “เงินเดือนค้างยังได้ไม่ครบครับพี่” “ค่าเซ็นยังไม่ได้ครับ” จากแรกๆ ที่มีแต่น้องๆที่สนิทกันมาถาม ไปๆ มาๆ บางคนที่ไม่สนิทกันก็มาถาม เพราะเรื่องพวกนี้พอเป็นข่าวแล้วทีมถึงยอมจ่ายไง !!! มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ ถ้าไม่เป็นข่าวนี่เงียบเลย “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” แต่พอเป็นข่าว เริ่มมีการพูดถึงโซเชียล ปั๊ปๆ มีโทรศัพท์ตามไปเคลียร์ แต่ใช่ว่าจะเคลียร์หมดนะครับ บางกรณีเคลียร์แค่ผ่อนให้หนักเป็นเบา สุดท้ายยังค้างอยู่ดี ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเหนียวหนี้ไปถึงไหน จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้มีกระบวนการขั้นตอนอยู่ การร้องเรียนต่อนักข่าวอาจจะช่วยได้บ้าง แต่จะให้งามต้องไปร้องเรียนที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นั่นละครับถูกต้องที่สุดเป็นอันดับแรก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ บอกว่าให้มาร้องเรียนที่ ฝ่ายกฎหมาย สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เลย เอาเอกสารบัตรประชาชน ทะเบียนนักกีฬา สัญญาจ้าง หรือหลักฐานอื่นๆมาให้ครบ เรื่องเอกสารหลักฐานนี่สำคัญเลย นักฟุตบอลต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วย “สัญญาจ้าง” ตามหลักต้องมี 3 ฉบับแยกเก็บไว้ที่ 1.สโมสร 2.นักบอล 3.บจก.ไทยลีก ถ้าเคลียร์กันไม่จบมันต้องดูที่รายละเอียดในสัญญา ดังนั้นเวลาเซ็นอะไรต้องดูให้ดี และควรเก็บไว้เป็นหลักฐาน ไม่งั้นอาจจะมีอะไร “งอก” มาในสัญญาได้แบบไม่รู้ตัว สำคัญที่สุดอย่าได้เชื่อ “สัญญาปากเปล่า” อย่างค่าเซ็นสัญญาหรือ “เงินกินเปล่า” ที่บอกว่าจะให้นั่นน่ะ ถ้าไม่มีระบุไว้ชัดเจนก็ทำใจล่วงหน้าไว้เลยว่ามีสิทธิ์อดรับประทาน ทั้งหมดทั้งมวลย้ำว่าต้องดำเนินการตามขั้นตอนร้องเรียนให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ช่วยเหลือก่อนครับ หลายคดีจบที่ขั้นตอนนี้ แต่บางกรณีจบไม่ลงก็ต้องไปสู้กันต่อที่ศาล หากจะให้ดี สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องมีแอคชั่นเรื่องพวกนี้มากกว่าคอยตั้งรับอย่างเดียว ทีมไหนมีปัญหาบ่อยต้อง “แบล็กลิสต์” และเตือนไว้เลย ไม่งั้นจะเป็นปัญหาเดิมๆซ้ำซาก ฟุตบอลลีกไทยจะก้าวเดินอย่างเข้มแข็งได้อย่างไรหากยังมีทีมจำพวก “เหนียวหนี้ ยูไนเต็ด” ร่วมเล่นอยู่ในลีกด้วย !!!!

“บับเบิ้ล”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline