logo-heading

หลังจบเกมฟุตบอลลีก คัพ รอบ 8 ทีมวันนี้ (วันพุธที่ 8 ส.ค.) ทุกๆ สโมสรในไทยลีกก็จะได้พักหายใจหายคอกันบ้าง จริงๆ ก็ได้พักกันไปแล้วหลังจบเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ มีเพียงไม่กี่ทีมที่ต้องลงเตะบอลถ้วย

หนุ่งในนั้นก็คือทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าและจ่าฝูงไทยลีกเวลานี้ ที่ยังคงอยู่ในเส้นทางของการคว้าแชมป์ทุกรายการอีกครั้ง นับแค่ 3 เมเจอร์หลักอย่าง ไทยลีก,เอฟเอ และ ลีก คัพ ซึ่งปราสาทสายฟ้า เคยคว้า 3 แชมปืมาแล้วถึง 3 สมัย 2011,2013 และ 2015 เรียกได้ว่า 2 ปีจะทำได้ครั้งนึ่ง แต่ก็ะพลาดไปเมื่อปี 2017 ที่เพียงแค่แชมป์ลีกเท่านั้น จนมาถึงในซีซั่น 2018 ที่ทีมดังแห่งอีสานใต้จะประกาศศักดิ์ดาของตัวเองอีกครั้ง และบอกเลยว่าแม่งโคตรเป็นไปได้อย่างสูง และแน่นอนพวกเขาได้สถาปนาตัวเองเป็นทีมอันดับหนึ่งของเมืองไทย และอาเซียนไปแล้ว เรื่องของบุรีรัมย์ ขอพักไว้ก่อน ไปว่าถึงโปรแกรมไทยลีกนิดนึง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหลังจากนี้ไทยลีกจะหยุดพักกันร่วม 1 เดือน เพื่อหลีกทางให้กับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนิเซีย ซึ่งทีมชาติไทย ยู23 ของเราก็จะไปฟาดแข้งด้วย เริ่มคิกออฟนัดแรกกลางเดือน ส.ค.นี้ ทีมชาติไทย ในเอเชี่ยนเกมส์ก็ว่าไป เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันแบบเต็มๆ ในสัปดาห์หน้า แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือเหตุแผ่นดินไหวที่อินโดนิเซีย ตอนนี้น่าเป็นห่วงมีคนเสียชีวิตไปแล้วเกือบร้อยคน แม้จะเกิดขึ้นที่เกาะลอมบอก บาหลี ห่างจากกรุงจาการ์ต้า พอสมควร แต่ก็ประเทศเดียวกัน ยังไงก็อดเป็นห่วงไม่ได้ สำหรับนักกีฬา นักข่าว และแฟนกีฬาที่จะเดินทางไปดูไปเชียร์ ก็ดูแลตัวเองกันให้ดีๆ ครับ   ทำยังไง ถึงจะเก่งเหมือน "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"??? อ่ะ! กลับมาที่เรื่องของ "บุรีรัมย์" กันต่อ กับการลุ้นสามแชมป์ในฤดูกาล 2018 ซึ่งยังไม่เคยมีทีมไหนทำได้ นอกจากเซราะกราว บอกเลยว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญ มันไม่ได้ฟลุ๊ค ทุกอย่างเป็นเพราะฝีมือล้วนๆ ที่แลกมาด้วยเรื่องของการจัดการ ความเป็นมืออาชีพ และความพร้อมในทุกๆ ด้าน บุรีรัมย์ ถือเป็นทีมที่น่าอิจฉามากๆ ในฐานะแฟนบอลทีมอื่น (ผมเชียร์ราชนาวี) ที่อิจฉาก็เพราะอยากเห็นทีมที่เราเชียร์มันเก่งเหมือนเค้าบ้าง ไม่ต้องถึงขั้นลุ้นแชมป์ ลุ้นสามแชมป์ทุกปีแบบนี้หรอก เอาแค่เล่นให้มีมาตรฐาน ผลงานคงเส้นคงวา ดูแล้วสนุก ไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้นทุกฤดูกาลแบบนี้ก็พอ แต่พูดถึงบุรีรัมย์ สงสัยกันไหมทำไมพวกเขาถึงได้ลุ้นแชมป์ทุกปี และยังได้ลุ้นทุกรายการด้วยในแต่ละฤดูกาล ต่างกับสโมสรอื่นๆ เอาพวกทีมใหญ่ด้วยกัน แค่จะลุ้นแชมป์ลีกมันก็ยากแล้ว ส่วนบอลถ้วยนี่ไม่ต้องพูดถึง บิ๊กทีมอื่นๆ ถ้าหลุดเเข้าไปได้รอบลึกๆ มันมาด้วยฝีมือกับโชครวมๆ กัน เผอิญฤดูกาลนี้มาดีก็อาจจะได้หลุดไปถึงรอบชิง รอบไหนมาไม่ดีก็ตกรอบไปก่อน ที่จะบอกก็คือมันไม่ได้มาจากมาตรฐานผลงานของทีมที่ควรจะต้องรักษาไว้ให้ได้ตลอด

ดูอย่างบุรีรัมย์ ที่พวกเขามาได้ถึงตอนนี้คือเป็นจ่าฝูงไทยลีก เอฟเอ คัพ เข้ารอบรองไปแล้ว และลีกคัพก็เชื่อว่าจะได้เข้าไปตัดเชือกด้วยเช่นเดียวกัน นี่คือความบังเอิญเหรอครับ? เปล่าเลย มันคือ "มาตรฐาน" ต่างหาก

คำว่า "มาตรฐาน" นี่แหละที่ทำให้ ปราสาทสายฟ้า กับอีก 17 สโมสรในลีก มันต่างกัน และเทียบกันไม่ได้เลย

ถามว่าตัวผู้เล่นของบุรีรัมย์ ดีกว่าทีมอื่นเหรอ อะผมให้ตัวต่างชาติที่โคตรเก่งมี 2 คน คือ ดิโอโก้ กับ ตูเนซ ส่วนที่เหลือไม่ต่างกับทีมอื่นมาก ตัวไทยเหรอ ลองไปดูจริงๆ บุรีรัมย์ ไม่ได้มีตัวที่เหนือไปกว่าทีมอื่นเลย นักเตะทีมชาติชุดปัจจุบัน เอาที่เป็นตัวจริงทีมชาติมีแค่ พรรษา เหมวิบูลย์ กับ จักรพันธ์ แก้วพรม นอกนั้นเป็ดาวรุ่ง บอกกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม อีกคน แค่นั้นเอง ทำยังไง ถึงจะเก่งเหมือน "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"??? ลองถ้าไม่มี ตูเนซ กับ ดิโอโก้ แล้วสมมตินักเตะบุรีรัมย์ ชุดนี้เป็นนักเตะของทีมอื่น ผมว่าก็คงจะเล่นกันได้ไม่ดีเท่าที่เป็นอยู่ เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่การบริหารจัดการ และที่ต้องยกให้เลยก็คือเขามีนายใหญ่ที่ชื่อ "เนวิน ชิดชอบ" ผมว่าน่าจะเป็นประธานสโมสรฟุตบอลที่บ้าบอลที่สุดในประเทศหรือในโลกก็ว่าได้ จะเอาอะไรต้องได้ จะทำอะไรก็ทำจริง ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่บุรีรัมย์ดีขึ้นมา แข็งแกร่งได้อย่างทุกวันนี้แบบไม่มีตก แม้จะมีฤดูกาลที่ผลงานดร็อปลงไปบ้าง แต่พวกเขาก็จะกลับมาได้เสมอในฤดูกาลถัดไป ทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายที่ชื่อ "ลุงเน" นี่แหละ หรือใครจะเถียง แต่บอกก่อนว่านี่ไม่ใช่คอลัมน์ที่จะมาอวย ยกย่อง เชิดชู อะไรกันออกนอกหน้า แบบไม่ลืมหูลืมตา และผมเองก็ไม่ใช่แฟนบุรีรัมย์ ไม่ใช่ติ่งคุณเนวิน แต่ผมแค่บอกความจริงอะ ก็มันเป็นอบบนั้น แต่ทั้งหมดก็ต้องยกเครดิตให้กับทีมงาน สตาฟฟ์โค้ช นักเตะ และแฟนบอลด้วยเช่นกัน ที่ทำให้บุรีรัมย์ กลายเป็นทีมเบอร์หนึ่งของอาเซียนในตอนนี้ ซึ่งผมก็อยากจะให้ทุกทีมในไทยลีกมันเก่งเหมือนบุรีรัมย์ แต่ไม่ใช่ว่าทุกทีมจะต้องแข่งชนะทุกนัด เป็นจ่าฝูงทุกทีม ลุ้นแชมป์ทุกถ้วย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่พูดถึงคือเรื่องมาตรฐานการจัดการ การทำทีมให้เป็นมืออาชีพ ถ้าทุกทีมทำได้ผลงานที่ดีมันก็จะตามมาเอง ประธานสโมสรทุกทีมในลีกผมว่าเป็นคยชอบฟุตบอลทุกคนละครับ แต่ความบ้าอาจจะไม่เท่า แต่ทุกคนก็สามารถที่จะทำทีมของตัวเองให้มันมีมตรฐานเทียบเท่ากับบุรีรัมย์ได้ ดูอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทั้ง 20 ทีมในลีก แน่นอนความเก่งในสนามมันไม่เท่ากัน แต่มาตรฐาน การบริหารทีม นี่เป็นมืออาชีพเท่าๆ กันหมด นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากให้มันเป็น และถ้าทุกทีมเท่าได้ ซึ่งคงไม่มีวัน (5555) มันก็จะทำให้มาตรฐานของไทยลีกมันสูงขึ้น และสนุกเข้มข้นกว่าตอนนี้ บ่องตงทุกวันนี้แม่งเหมือนกำลังเดินถอยหลัง และจะดิ่งเหวอยู่แล้ว ทั้งหมดที่บ่นมาก็แค่อยากเห็นไทยลีกมันกลับมาสนุกเหมือนครั้งๆ ที่ผมเดยดูมา ลองเอาบุรีรัมย์ เป็นต้นแบบ และสร้างมาตรฐานให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงก็พอครับ สวัสดี

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline