ความโหดที่ไม่เกิดขึ้น! จัดทีมรวมแข้งดังที่ชาลเก้ปล่อยจากทีม ชื่อของสโมสรอย่าง ชาลเก้04 ถูกกาลเวลาค่อยๆ ลักพาตัวหายไปจากสารระบบการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ไปนานมากแล้ว โดยพวกเขาผลาดคว้าแชมป์บุนเดสลีกาครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 1957-58 หรือว่า 60 ปีที่แล้ว! 'ราชันสีน้ำเงิน' ทีมนี้เคยมียอดดาวเตะขึ้นมาปรุงแต่งทีมมากมายทุกตำแหน่ง บางคนก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับโลกเป็นที่เรียบร้อย แต่สุดท้ายก็ถูกเม็ดเงินพรากตัวดาวดังเหล่านี้ไปจนเสียหมด วันนี้เราจึงรวบรวมนักเตะของดีที่ ชาลเก้04 ปล่อยออกไปจากทีมว่าจะมีใครกันบ้าง บอกได้เลยว่าถ้าอยู่กันครบเผลอๆ อาจลุ้นไกลไปจึงเจ้ายุโรปก็เป็นได้
ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์ (ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค- ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 156 นัด)
เด็กปั้นขนานแท้สำหรับนายทวารตัวยักษ์รายนี้ โดยเข้าสู่ทีมอคาเดมี่ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น และถือเป็นผลผลิตที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนนึงของสโมสรและทีมชาติเยอรมัน
แต่พอหลังจากประสบความสำเร็จพา 'ราชันสีน้ำเงิน' คว้าแชมป์เดแอฟเบ โพคาล เมื่อฤดูกาล 2010-11 เจ้าตัวก็เดินทางไปทำตามความฝันที่ บาเยิร์น มิวนิค หลังลงเล่นให้ชาลเก้ไปกว่า 150 นัด ก่อนก้าวมาเป็นว่าที่ตำนานของวงการฟุตบอลเยอรมันกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2014
แ บ็คขวา : ราฟินญ่า (ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 153 นัด)
หลังจากแมวมองของชาลเก้04 ได้ทำการสแกนแล้วว่า ราฟินญ่า สอบผ่านบนเวทีฟุตบอลโลกระดับเยาวชนเมื่อปี 2005 จึงทำการติดต่อให้ย้ายมาร่วมทัพแบบทันทีไม่รีรอให้ช้า
โดยเจ้าตัวค้าแข้งในถิ่นเฟลตินส์ อารีน่า ได้ประมาณ 5 ฤดูกาลก่อนเก็บเสื้อผ้าย้ายไปอยู่กับ เจนัว ในเวที เซเรีย อา อิตาลี และสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นเจ้าเก่ารายเดิมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค มาสอยคว้าตัวไปครองเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2011
เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ : โจเอล มาติป (ย้ายไปลิเวอร์พูล - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 194 นัด)
ย้ายมาร่วมทัพ 'ราชันสีน้ำเงิน' เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2001 ก่อนผ่านระบบเยาวชนของทีมและก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ในปี 2009 และสามารถยึดเป็นตัวหลักของทีมได้ตลอดมา จากความแข็งแกร่งในเรื่องลูกกลางอากาศ และที่เชื่อใจได้ของเพื่อนร่วมทีมเสมอยามได้ลงบัญชาเกมรับ
แต่สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็เลือกที่จะไปหาความท้าทายใหม่โดยการย้ายไปร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ที่มีเจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นเจ้านายใหญ่อยู่ที่นั้นเมื่อช่วงฤดูร้อนของปี 2016
เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ : คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส (ย้ายไปไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 97 นัด)
ครั้งนึงเจ้าตัวได้รับตำแหน่งนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดประเทศกรีซกับโอลิมเปียกอส ด้วยวัยเพียง 15 ปี 283 วัน ก่อนจะถูกชาลเก้ส่อยมาร่วมทัพในปี 2010
แต่แล้วด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เจ้าตัวอาจไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ทำให้อาจถูกปล่อยตัวในรูปแบบยืมตัวบ่อยครั้งก่อนที่สุดท้ายชาลเก้04 จะยอมขายขาดให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านยูโร
แบ็คขวา : เซอัด โคลาซินัช (ย้ายไปอาร์เซน่อล - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 123 นัด)
เด็กหนุ่มจากบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ย้ายมาหาประสบการณ์ที่ดินแดนไส้กรอรกแห่งนี้กับสโมสรแรกอย่าง คาร์ลสรูห์ เมื่อซีซั่น 2008-29 ในชุดเยาวชนก่อนตระเวนไปเรื่อยกับทั้งฮอฟเฟ่นไฮม์ สตุ๊ดการ์ด ก่อนมาขึ้นชุดใหญ่กับราชันสีน้ำเงินในฤดูกาล 2012-13
โดยเจ้าตัวสามารถทรอดแทรกขึ้นมายังทีมชุดใหญ่และเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างแนบเนียนตลอด 5 ฤดูกาลกับทีม ก่อนที่จะต้องการจะย้ายทีมเพื่อความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งมากขึ้น จึงเลือกมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในแบบฟรีๆ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017-18
กองกลาง : ลีออน โกเรทซ์ก้า (ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 147 นัด)
กองกลางมากพรสวรรค์ย้ายมร่วมทีมชาลเก้04 เมื่อฤดูกาล 2013-14 ด้วยค่าตัวที่แสนถูกเพียง 3.25 ล้านยูโรเท่านั้น และเจ้าตัวก็สามารถตอบแทนและโชว์ฟอร์มได้แบบสะเด่าเหลือเกินตลอดเวลาที่ได้สวมเครื่องแบบสีน้ำเงินลงสนาม ทำให้มีข่าวว่าสโมสรยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในยุโรปสนใจคว้าตัวไปร่วมทีม
โดยในขวบปีสุดท้ายกับชาลเก้ เจ้าตัวเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทีมออกไปพร้อมย้ายสังกัดแบบฟรีเอเย่นต์ และก็เป็น 'เสือใต้' ตัวเดิมที่มาคว้าตัวไปร่วมทัพแบบไม่ต้องเสียค่าตัวสักยูโรเดียว
กองกลาง : อิวาน ราคิติช (ย้ายไปเซบีย่า - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 135 นัด)
กองกลางที่เข้าขั้นเวิลด์คลาสเข้าไปทุกขณะสำหรับ อิวาน ราคิติช โดยจุดเริ่มต้นความเก่งกาจของเขาก็มาจากที่เยอรมันกับชาลเก้ 04 แห่งนี้ โดยตลอด 3 ฤดูกาลเจ้าตัวลงสนามไปทั้งสิ้น 135 นัด ซัดไป 16 ประตูพร้อมกับทำอีก 29 แอสซิสต์ ก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งในสเปนกับ เซบีย่า และด้วยความเก่งของเจ้าตัวทำให้ บาร์เซโลน่า มาคว้าตัวไปร่วมทีมก่อนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับเจ้าบุญทุ่มในปัจจุบัน
ปีกขวา : ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ (ย้ายไปโวล์ฟสบวร์ก - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 119 นัด)
หนึ่งในผลผลิตจากชุดเยาวชนของ 'ราชันสีน้ำเงิน' โดยเจ้าตัวเข้าสู่ทีมตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบเท่านั้นก่อนฝึกซ้อมอย่างหนักและสามารถขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในวัย 18 ปี ในช่วงนั้นเขาถูกพูดถึงเป็นอย่างมากับฝีเท้าที่เก่งเหนือกว่าเพื่อนร่วมรุ่น
และด้วยความเก่งทำให้มีหลายสโมสรหมายที่จะคว้าตัวไปร่วมทัพให้ได้แต่สุดท้ายเจ้าตัวเลือกที่จะอยู่ค้าแข้งที่เยอรมันต่อ แต่กับสโมสรที่เป็นคู่แข่งร่วมลีกอย่าง โวล์ฟสบวร์ก ซึ่งการย้ายทีมครั้งนั้นมีมูลค่าสูงถึง 43 ล้านยูโรเลยทีเดียว ก่อนที่ในปัจจุบันเจ้าตัวจะเลือกออกไปหาประสบการณ์ฟุตบอลในต่างแดนกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ลีกเอิง แห่งฝรั่งเศส
เพลย์เมคเกอร์ : เมซุต โอซิล (ย้ายไปแวร์เดอร์ เบรเมน - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 39 นัด)
กองกลางตาปรือย้ายไปร่วมชาลทีมเก้04 ชุดเยาวชน ตั้งแต่ปี 2005 ก่อนได้รับสัญญาและขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลาถัดมาเพียงปีเดียวเท่านั้น แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มีความทรงจำอะไรมากมายในถิ่นเฟลตินส์ อารีน่า เพราะค้าแข้งได้เพียง 2 ซีซั่นเท่านั้นก่อนจะย้ายไปร่วมทัพแวร์เดอร์ เบรเมน ทิ้งสถิติกับ 'ราชันสีน้ำเงิน' ไว้ที่การลงสนาม 39 นัด ทำ 1 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์
ถึงแม้ปัจจุบันกับทัพปืนใหญ่ผลงานจะกระท่อนประแท่นสักเล็กน้อย แต่กับการได้ร่วมงานเจ้านายคนใหม่อย่าง อูไน เอเมรี่ อาจช่วยยกประสิทธิภาพของเจ้าตัวและเรียกความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้งก็เป็นได้
ปีกซ้าย : เลรอย ซาเน่ (ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ลงสนามให้ชาลเก้04 ทั้งสิ้น 57 นัด)
อีกหนึ่งผลผลิตจากชุดเยาวชนของทีมที่เติบโตมาพร้อมๆ กับ แม็กซ์ เมเยอร์ ซึ่งเจ้าตัวลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของชาลเก้04 ครั้งแรกคือเมื่อฤดูกาล 2015-16 และด้วยอายุที่เพียงแค่ 22 ปี กับการลงสนามให้ 'ราชันสีน้ำเงิน' มากถึง 57 เกมพร้อมซัด 13 ประตู ทำให้ชื่อของเขาที่มีสรรพคุณติดตัวทั้งความเก่งและความเร็ว ฝีเท้าจัดจ้านนั้นลอยไปเข้าหูบิ๊กทีมในยุโรป ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลายเซ็นหนุ่มน้อยมากพรสวรรค์ผู้นี้ไปครอบครอง
และกับผลงานในปัจจุบันของ เลรอย ซาเน่ กับเครื่องแบบสีฟ้า ถือว่ากำลังไปได้สวยภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาดิโอล่า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับจองตาไม่น้อยในปัจจุบัน
กองหน้า : คลาส แยน ฮุนเตลาร์ (ย้ายไปอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม - ลงสนามให้ชาลเก้ ทั้งสิ้น 240 นัด)
หลังจากโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างน่าผิดหวังกับทั้งเรอัล มาดริด และเอซี มิลาน หัวหอกชาวดัดซ์จึงมาหาความท้าทายใหม่ที่ดินแดนไส้กรอกแห่งนี้เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2010-11 ด้วยค่าตัว 14 ล้านยูโร
และที่นี่เองที่เจ้าตัวได้โชว์ฟอร์มแบบเต็มประดา หลังจากซัดไปถึง 126 ประตู จากการลงสนาม 240 นัดให้กับทีม ทำให้เจ้าตัวกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งหลังจากออกมาหาประสบการณ์ในลีกใหญ่กับยุโรปและผิดหวังแบบสุดขีด ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะเลือกกลับไปค้าแข้งกับอดีตต้นสังกัดอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หลังรับใช้ชาลเก้04 มานานกว่า 7 ฤดูกาล
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
