ไทม์ไลน์หมายเลข 10 ส่องฟอร์มแรชฟอร์ดตั้งแต่ย้ายมาสวมเบอร์ดาวยิง

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้ยกเสื้อหมายเลข 10 ให้กับดาวรุ่งของทีมอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นผู้สืบทอดตำนานเบอร์เสื้อดังกล่าว ถือว่าเป็นเด็กปั้นของทีมที่ได้มาสวมเสื้อเบอร์นี้ต่อจาก เดวิด เบ็คแฮม เมื่อฤดูกาล 1996-97

และหลังจากที่ข่าวนี้ได้เปิดเผยต่อสาธารณะทำให้สาวก ปีศาจแดง ออกอาการไม่ยอมรับเป็นวงกว้าง บ้างบอกว่าฝีมือยังไม่ถึง คลาสฟุตบอลยังไม่ได้ และที่สำคัญบารมีหรือราศียังไม่คู่ควรมากพอ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ออกมาโต้เถียงแต่อย่างใดขอใช้ฟอร์มในสนามเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามสิ่งที่คาดคิดไว้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเจ้าตัวกลับโชว์ฟอร์มดิ่งลงเหวเป็นอย่างมาก จะเลวร้ายขนาดไหนวันนี้เราได้เรียบเรียงไทม์ไลน์ตั้งแต่เจ้าตัวนั้นได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อเบอร์ 10 ให้ได้ชมกัน

It's official - @MarcusRashford is #MUFC's new no.10! ? pic.twitter.com/aEGPzmz5WB

— Manchester United (@ManUtd) August 5, 2018

6 สิงหาคม 2561 - ปีศาจแดงประกาศอย่างเป็นทางการ

"มาร์คัส แรชฟอร์ดจะสวมเสื้อหมายเลข 10 ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างเป็นทางการ" สื่อโซเชียลอย่างเป็นทางการของ ปีศาจแดง ได้ประกาศอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งจะทำให้แข้งวัย 20 ปี สืบทอดเบอร์เสื้อหมายเลข 10 ต่อจากมาร์ค ฮิวจ์, เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม, รุด ฟาน นิสเตอรอย, เวนย์ รูนี่ย์ และซลาตัน อิบราฮิโมวิช

10 สิงหาคม 2561 - ใส่ประเดิมเจอสุนัขจิ้งจอก

หลังจากได้รับหมอบตำแหน่งได้ไม่นานก็ถึงเวลาได้เฉิดฉายกับเบอร์เสื้อใหม่ทันที การได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมเปิดฤดูกาลในบ้านกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมันเหมือนดั่งสคริปที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเขา แต่แล้วทุกอย่างกับต้องพังเพราะการได้อยู่สนามเหมือนลงไปให้ทีมมีตัวผู้เล่นครบๆ ไปซะอย่างงั้น เพราะว่าเจ้าตัวแทบไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเพื่อทีมเลย เงียบ โดดเดียวอยู่คนเดียว มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ วิญญาณสากกะเบือเข้าสิง ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 67 โดยเป็น โรเมลู ลูกากู ลงสนามไปแทน และทีมสามารถเก็บชัยชนะได้ในที่สุดด้วยสกอร์ 2-1

19 สิงหาคม 2561 - ออกสตาร์ทเป็นสำรอง แต่ก็ไม่ทำห่าอะไรอยู่ดี

ฟอร์มจากนัดแรกส่งผลให้เจ้าตัวต้องหลุดไปเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น แต่ด้วยสถานการณ์ของทีมที่ช่วงพักครึ่งต้องตามหลังเจ้าบ้านอย่าง ไบรท์ตัน & ฮอฟ อัลเบียน อยู่ถึง 3-1 ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเปิดเกมรุกใส่ผู้เล่นในแดนหน้าไปเพิ่มนั้นจึงเป็นโอกาสลงสนามของเจ้าตัวโดยลงไปแทนที่ ฆวน มาต้า ในช่วง 45 นาทีสุดท้าย แต่การอยู่ในสนามของเจ้าตัวก็ไม่อาจสร้างมิติใหม่ๆ หรือความแตกต่างของเกมให้มากนักส่งผลให้ ปีศาจแดง ต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมแรกในซีซั่นต่อทีมต่างชั้นไป 3-2

27 สิงหาคม 2561 - ขยับลงต่ำมากขึ้นเรื่อยๆ

นัดแรกออกสตาร์ทเป็นตัวจริง นัดสองถูกส่งเป็นสำรองในครึ่งหลัง นัดที่สามมีชื่อเป็นสำรองและก็ไม่ต้องได้ลงสนามแม่งซะเลย ถึงแม้ในเกมกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ พวกเขาจะได้รับคำชมเป็นอย่างมากในครึ่งแรกจากวิธีการเล่นที่เปิดเกมรุกมากขึ้น แต่กับครึ่งหลังที่ลงสนามไปผิดคาดไปทุกอย่างโดน 2 ดอกเน้นๆ ในเพียง 7 นาทีแรก ซึ่งตัวเลือกที่ มูรินโญ่ จับลงไปเปลี่ยนเกมไม่ได้จิ้มมาที่เจ้าหนูรายนี้แต่อย่างใด แต่กลับเป็นมารูยาน เฟลไลนี่, อเล็กซิส ซานเชซ และวิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ก่อนที่พวกเขาจะโดนบวกเพิ่มไปอีกเม็ดพ่ายคาบ้านไป 3-0 และเป็นการบุกมาชนะของทีมตราไก่ครั้งแรกในรอบ 4 นัดหลังสุดอีกด้วย

2 กันยายน 2561 - เสียค่าโง่ราคาโคตรแพง!

ถือว่าเป็นนัดแจ้งเกิดประจำซีซั่นของเจ้าตัว แต่หาใช่เรื่องการผลิตสกอร์ไม่ หลังจากได้รับโอกาสลงสนามในนาทีที่ 60 แทนที่ อเล็กซิส ซานเชซ ก่อนที่จะทำตัวมีประโยชน์สามารถเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ในนาทีที่ 68 ก่อนที่เจ้าตัวจะทำร้ายตัวเองและเพื่อร่วมทีมด้วยการเอาหัวน้อยๆ นั้นโขกเข้าใส่ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ แน่นอนว่ามันคือใบแดงแบบ พร้อมเสียค่าโง่กองโตเลยสำหรับเด็กวัย 20 ปี ซึ่งหลังจบเกม แรชฟอร์ด เองก็ได้โพสต์ขอโทษลงไปยังสื่อโซเชียลส่วนตัวว่า "อารมณ์มันครอบงำผม ผมไม่ควรโต้ตอบไปแบบนั้นเลย ผมขอโทษทุกคนในสโมสร และแฟนบอลทุกคนด้วย" ซึ่งจากการโดนใบแดงโดยตรงในนัดนี้จะส่งผลให้เจ้าตัวโดนแบนทั้งหมด 3 นัด ซึ่งประกอบไปด้วย เกมลีกกับวัตฟอร์ต (15 ก.ย.), วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (22 ก.ย.)  และฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ ที่จะพบกับดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในวันที่ 25 กันยายนนี้ด้วย

? RED MIST ?@ManUtd forward Marcus Rashford sees red for headbutt on Phil Bardsley

WATCH ? https://t.co/659uZqYiRN | #MUFC pic.twitter.com/7q8I6VS7Xn

— Sky Sports Premier League (@SkySportsPL) September 3, 2018

3 กันยายน 2561 - แฟนบอลด่าเละ

สืบเนื่องจากใบแดงในเกมกับเบิร์นลีย์ ทำให้มีแฟนบอลส่วนนึงไม่พอใจกับสิ่งที่ แรชฟอร์ด ได้ทำลงไป เลยเกิดการด่าเกิดขึ้นในโลกโซเชี่ยล และนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่นำมาให้รับชม - แรชฟอร์ด มึงมันขาดวุฒิภาวะ ชิบหายโง่จริงๆ - ช่วยยับยั้งอารมณ์ของมึงลงหน่อยไอ้หนู มึงเป็นนักเตะที่เก่งและมีพรสวรรค์นะ แต่มึงต้องรักษาเกียรติตราสโมสรของเราไว้บ้าง - แม่งเป็นใบแดงที่โง่มาก แต่ก็ช่างไปเถอะ พวกเราได้ 3 คะแนนก็ดีแล้ว - มึงต้องใจเย็นลงกว่านี้นะ แต่ก็ดีที่ยังรู้สึกผิดและขอโทษ เหตุผลแม่งต้องมาก่อนอารมณ์นะมึงจำไว้ - ถ้ามึงโดนแดง ไอ้ฝ่ายตรงข้ามก็สมควรจะโดนด้วย ไหนจะแฮนด์บอลที่ชัดเจนอีก กรรมการมึงนี้ตัวดีเลย - เอ็งควรน่าจะได้เพียงแค่ใบเหลือง ใบแดงมันเกินไปหน่อย แต่ก็ควรใช้อารมณ์ให้น้อยลงกว่านี้หน่อยนะไอ้หนู การโดนใบแดงแบบเสียค่าโง่ในครั้งนี้ คงจะเป็นบทเรียนราคาแพงที่เจ้าหนูวัย 20 ปีจำไปอีกนาน และที่สำคัญคงต้องเรียกขวัญกำลังกลับมาให้ได้ ซึ่งตอนนี้หลายๆ อย่างกำลังถาโถมเข้าไปหาเข้าทั้งฟอร์มการเล่น การจบสกอร์ พฤติกรรมในสนาม และที่สำคัญที่เจ้าตัวยังต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเขานั้นคู่ควรและเหมาะสมกับการสวมเสื้อหมายเลข 10 ตราปีศาจแดง