logo-heading

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ยกระดับเกมกระชับมิตร

สำหรับการแข่งขัน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่จะมีการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2018/2019 เพื่อยกระดับการแข่งขันในเกมกระชับมิตรระดับทีมชาติมากขึ้น ทางขอบสนามเชื่อว่าหลายคนคงจะงงกันเป็นแน่แท้ว่านี่มันรายการอะไร มีไว้เพื่ออะไร แข่งกันยังไง เพราะดูแล้วงงเด้ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับ 9 สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กัน 1. ยูฟ่า เนชันส์ ลีก คือเป็นทัวร์นาเม้นต์ใหม่ระดับทีมชาติที่ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) มีมติจัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี เพื่อไม่ให้ชนกับ 2 ทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ที่มีอยู่แล้วอย่าง ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร รอบสุดท้าย และ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการแข่งขันที่เข้มข้นจริงจังในเกมทีมชาติ ซึ่งจะเริ่มฟาดแข้งกันในฤดูกาล 2018/2019 เป็นครั้งแรก 2. สาเหตุหลัก ๆ มาจากเกมฟุตบอลทีมชาติไม่ค่อยเป็นที่สนใจมากนัก รวมไปถึงเกมอุ่นเครื่องที่ไร้ความหมาย บรรดาโค้ชและนักเตะไม่ได้ทุ่มเทและใส่กันเต็มร้อยเหมือนตอนลงเล่นกับสโมสร ด้วยเหตุนี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จึงมีแนวคิดผุดลีกการแข่งขันระดับทีมชาติขึ้นมา และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งประกาศรูปแบบการแข่งขันอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ “ยูฟ่า เนชันส์ ลีก” นั่นเอง 3. รูปแบบการแข่งขัน 55 ชาติสมาชิกของ ยูเอฟ่า จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ลีก คือ เอ, บี, ซี, ดี โดยเรียงลำดับจากค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าหลังจบรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 โดย ลีกเอ คือ กลุ่มที่มีทีมอันดับดีที่สุด ถัดมาเป็นลีกบี, ลีกซี และลีกดี ตามลำดับ 4. การแบ่งกลุ่มแต่ละลีก จะเป็นดังนี้ - ลีก เอ และ ลีก บี จะมีทั้งหมดลีกละ 12 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม - ลีก ซี มี 15 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม มี 3 ทีมหนึ่งกลุ่ม และ 4 ทีมสามกลุ่ม - ลีก ดี มี 16 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม 5. จากการจัดอันดับโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าหลังจบรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 แต่ละลีกจะประกอบไปด้วยชาติดังนี้ - ลีก เอ ประกอบไปด้วย เยอรมนี, โปรตุเกส, เบลเยี่ยม, สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, อิตาลี, โปแลนด์, ไอซ์แลนด์, โครเอเชีย, ฮอลแลนด์ - ลีก บี ประกอบไปด้วย ออสเตรีย, เวลส์, รัสเซีย, สโลวาเกีย, สวีเดน, ยูเครน, สาธารณรัฐไอร์แลนด์, บอสเนีย, ไอร์แลนด์เหนือ, เดนมาร์ก, สาธารณรัฐเช็ค, ตุรกี - ลีก ซี ประกอบไปด้วย ฮังการี, โรมาเนีย, สกอตแลนด์, สโลวีเนีย, กรีซ, เซอร์เบีย, อัลเบเนีย, นอร์เวย์, มอนเตเนโกร, อิสราเอล, บัลแกเรีย, ฟินแลนด์, ไซปรัส, เอสโตเนีย, ลิธัวเนีย - ลีก ดี ประกอบไปด้วย อาเซอร์ไบจาน, มาซิโดเนีย, เบลารุส, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย, ลัตเวีย, หมู่เกาะฟาโร, ลักเซมเบิร์ก, คาซัคสถาน, มอลโดวา, ลิกเตนสไตน์, มอลต้า, แอนดอร์ร่า, โคโซโว, ซาน มาริโน่, ยิบรอลต้าร์ 6. จากการที่ศึกยูโรครั้งต่อไปกระจายการจัดการแข่งขันออกไปยัง 13 ประเทศทั่วยุโรป โดยจะมีทีมผ่านรอบคัดเลือกทั้งหมด 24 ทีม และชาติเจ้าภาพจะไม่ได้สิทธิ์เล่นรอบสุดท้ายอัตโนมัติเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้รอบคัดเลือกของยูโร 2020 จากทั้งหมด 55 ชาติ จะถูกแบ่งเป็น 10 กลุ่ม โดยแชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มจะได้เข้ารอบสุดท้ายทันที รวมเป็น 20 ทีม ส่วนอีก 4 ทีมที่เหลือจะมาจากการเล่นรอบเพลย์ออฟ ซึ่งรอบเพลย์ออฟคือการแข่งขันของทีมที่คว้าแชมป์ในแต่ละกลุ่ม ของแต่ละลีก จาก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก นั่นเอง โดยจะมาแข่งขันรอบน็อคเอาท์ รองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ สุดท้าย 4 ทีมที่คว้าแชมป์ของแต่ละลีก (ลีก เอ, บี, ซี และ ดี) ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะคว้าตั๋วไปลุยศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย แต่หากแชมป์กลุ่มของ ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากการแข่งคัดเลือกยูโรแบบปกติแล้ว สิทธิ์จะตกเป็นของทีมที่อันดับรองลงมาและทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในลีกนั้น ๆ สำหรับโปรแกรมแข่งขันรอบคัดเลือกยูโรจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน 2019 ส่วนรอบเพลย์ออฟจะจัดขึ้นในเดือน มีนาคม 2020 ก่อนยูโรรอบสุดท้ายจะทำการแข่งขัน 3 เดือน 7. 4 ทีมแชมป์กลุ่มในลีก จะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเพื่อหาทีมแชมป์รายการนี้ ในเดือนมิถุนายน 2019 โดยแบ่งสายแข่งเป็นรอบตัดเชือกและนัดชิงชนะเลิศ รวมถึงนัดชิงที่ 3 รวมแล้วทั้งหมด 4 นัด ซึ่งยูฟ่าจะเลือกชาติเจ้าภาพในเดือนธันวาคม 2018 8. การแข่งขันของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในแต่ละกลุ่มจะแข่งในระบบพบกันหมดแบบเหย้า-เยือน ในเดือนกันยายน ถึง พฤศจิกายน ในปี 2018 โดยจะเล่นกันเดือนละ 2 แมตช์ ทีมแชมป์ของแต่ละกลุ่มจะได้เลื่อนชั้นไปยังลีกที่สูงกว่า สวนทางกับทีมอันดับสุดท้ายของแต่ละกลุ่มที่ต้องตกลงมาแทน 9. เกมแรกของ ยูฟ่า เนชันส์ ลีก จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กันยายน 2018 ซึ่งคอลูกหนังคงต้องรอติดตามชมว่า รายการนี้จะเป็นการยกระดับทีมชาติได้จริงหรือไม่ต่อไป

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline