logo-heading

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือหนึ่งในกุนซือผู้ประสบความสำเร็จ และมีฝีมือคุมทีมมากที่สุดของโลก สามารถคว้าแชมป์ได้ทุกที่ที่ไปคุมทีม หนึ่งในสิ่งที่การันตีฝีมือของเขาได้คือการพาทีมลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถคว้าแชมป์ถ้วยแรกในการคุมทีมในอังกฤษได้แล้ว หลังจากที่ต้องจบซีซั่นแบบมือเปล่าไปในปีแรก หลังพา "เรือใบสีฟ้า" เอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การันตีความเป็นสุดยอดกับสถิติคุมทีมนัดชิงชนะเลิศคว้าชัยได้เกือบทุกครั้ง อดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้งในนัดชิงชนะเลิศที่นำทัพลูกทีมลงทำการแข่งขัน ไม่ว่าจะคุมทัพ "เจ้าบุญทุ่ม", บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมล่าสุด เกมชิงดำฟุตบอลถ้วยในประเทศ, ฟุตบอลยุโรป หรือแม้แต่ชิงแชมป์ สโมสรโลก ก็แทบไม่เคยพลาด 11 ครั้ง ปราชัยแค่ครั้งเดียวใน ครั้งเดียวที่ว่านั้นเกิดขึ้นในฤดูกาล 2010-11 ตอนนั้น เป๊ป คุม บาร์เซโลน่า ลงชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ด้วยสกอร์ 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ นั่นคือครั้งเดียวที่กุนซือชาวกาตาลุนญ่าคนนี้ ไม่ชนะในการเล่นนัดชิงชนะเลิศ โดย 10 ครั้งที่เหลือประกอบด้วย 1. โกปา เดล เรย์ 2008-09 นี่คือฤดูกาลแรกที่ เป๊ป ลงคุมทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า และเป็นการคุมทีมในลีกสูงสุดครั้งแรกด้วย แต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาคว้าแชมป์ ลา ลีกา มาครองแล้ว ลงเล่นชิงชนะเลิศครั้งนี้กับ แอธเลติก บิลเบา เพื่อการเป็น ดับเบิ้ล แชมป์ ทว่าการเริ่มต้นดูจะไม่ง่าย เมื่อ บิลเบา เป็นฝ่ายขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่จากนั้น บาร์เซโลน่า ก็ยิงคืน 4 ลูกรวด จาก ยาย่า ตูเร่ ตีเสมอในครึ่งแรก มาครึ่งหลังได้จาก ลิโอเนล เมสซี่ ,โบยาน เกร์กิช และ ชาบี เอร์นานเดซ เข้าชิงชนะเลิศครั้งแรกก็จบด้วยการเป็นแชมป์ทันที 2. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008-09 เป๊ป กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ พาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ตั้งแต่การมาคุมทีมซีซั่นแรก แต่การชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยยุโรป ทุกคนต่างบอกว่ามันไม่ง่าย ด้วยความที่ด้อยประสบการณ์ แถมคู่ต่อสู้ยังเป็นโคตรกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย การชิงชัยที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก ในวันนั้น เพียงแค่ 10 นาที ลิโอเนล เมสซี่ ก็ส่งบอลผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ไปแล้ว จากนั้นแม้ว่า "เฟอร์กี้" จะแก้เกมอย่างไร ก็ยังเอาไม่ลง จนโดนประตูย้ำชัยในนาที 70 ของ ซามูเอล เอโต้ จบเกมชนะ 2-0 และเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ของ บาร์เซโลน่า 3. สโมสรโลก 2009 การเป็นแชมป์ยุโรปของ "บาร์ซ่า" ทำให้ เป๊ป มีโอกาสได้คุมทีมลงเล่นรายการนี้ในปีถัดมาด้วย นัดชิงชนะเลิศต้องพบกับ เอสตูเดียนเตส จาก อาร์เจนติน่า ซึ่งสร้างปัญหาให้มากกว่าที่คิด โดนยิงนำก่อน กว่าจะมาตีเสมอได้ก็ต้องรอเกือบท้ายเกมจาก เปโดร ต่อเวลาพิเศษถึงได้ เมสซี่ ช่วยบวกสกอร์ให้จนเฉือนชนะไปได้ และเป็นการได้แชมป์นี้ครั้งแรกของ "เจ้าบุญทุ่มด้วย 4. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2010-11 ผ่านมา 2 ฤดูกาล เป๊ป ก็ได้เข้าชิงแชมป์ยุโรปอีกครั้ง ความไม่น่าเชื่อคือ คู่แข่งยังเป็นทีมเดิม นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ ไม่รู้ใครจะเป็นฝ่ายกุมขมับมากกว่ากัน ระหว่าง "เฟอร์กี้" ที่หวังจะล้างตาจากครั้งก่อน กับ เป๊ป เองที่เจองานหนัก แต่ไม่ต้องคิดเยอะ เพราะสุดท้ายกุนซือชาวสเปนก็ย้ำชัยไปอีกครั้งหนึ่งด้วยสกอร์ 3-1 คว้าแชมป์สมัยที่ 4 ให้กับทีมได้สำเร็จ 5. สโมสรโลก 2011 การเป็นแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องมาเตะสโมสรโลกในฤดูกาลถัดมาตามธรรมเนียม นัดชิงชนะเลิศพวกเขาต้องเจอยอดทีมจากบราซิลอย่าง เอฟซี ซานโต๊ส ที่มีชื่อของ เนย์มาร์ อยู่ด้วย แต่ทีมของ เนย์มาร์ ในเวลานั้นก็ไม่ดีพอจะต่อกรกับ บาร์เซโลน่า ในตอนนั้นที่กำลังไร้เทียมทานได้ โดยถล่มยับเยิน 4-0 6. โกปา เดล เรย์ 2011-12 การเล่นนัดชิงชนะเลิศอีกครั้งของ เป๊ป ในรายการนี้ และเป็นการเข้าชิงฯ ปีที่ 2 ติดต่อกัน แน่นอนว่าต้องการทวงคืนความสำเร็จให้ได้จากที่ปีก่อนพลาดท่าให้ เรอัล มาดริด ไป โดยคู่ชิงครั้งนี้ก็ยังเป็น แอธเลติก บิลเบา คู่แข่งเมื่อ 2 ปีก่อน และนั่นก็แทบจะเหมือนหนังม้วนเดิม เพราะ "บาร์ซ่า" ยังคงยอดเยี่ยม ยิง 3 ลูกรวดตั้งแต่ 25 นาทีแรก และปิดเกมตามแท็กติกได้อย่างสวยงาม 7. สโมสรโลก 2013 เป๊ป ออกจาก บาร์เซโลน่า พักงานไป 1 ปี เจอกันอีกทีที่ บาเยิร์น มิวนิค โอกาสได้ประเดิมแชมป์แรกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยการพาทีมไปเล่นชิงแชมป์ สโมสรโลก จากการเป็นแชมป์ยุโรปของ "เสือใต้" ด้วยฝีมือ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เมื่อซีซั่นก่อน เมื่อ พี่เป๊ป รับไม้ต่อพาทีมตีตั๋วไปชิงชนะเลิศได้ไม่ยาก นำลูกทีมสอนบอล ราจา คาซาบลังก้า ทีม โมร็อคโค เจ้าถิ่นไปเบาๆ 2-0 เป็นแชมป์แรกของตัวเองกับ "พี่เสือ" ด้วย 8. เดเอฟเบ โพคาล 2013-14 ด้วยฝีมือที่มี การเป็นแชมป์ลีกไม่ใช่เรื่องยาก จากนั้น เป๊ป มุ่งมั่นจะคว้าดับเบิ้ลแชมป์ต่อ ในบอลถ้วย แต่คู่แข่งก็ตึงมือเหลือเกินเพราะนั่นคือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตลอด 90 นาที ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องไปต่อเวลาพิเศษ ซึ่งความเขี้ยวลากดินของกุนซือชาวสเปนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง "เสือใต้" บี้เอาประตูมาได้ 2 เม็ดสุดท้ายเป็นแชมป์ไปด้วยสกอร์ 2-0 9. เดเอฟเบ โพคาล 2015-16 นัดนี้คือเกมทิ้งทวนให้ บาเยิร์น ก่อนที่เขาจะมาคุมทีมในอังกฤษ กับ แมนฯ ซิตี้ ตามสัญญาที่เซ็นกันล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2016 ตอนนั้น เป๊ป โดนวิจารณ์ถึงความทุ่มเท เชิงที่ว่าเดี๋ยวเอ็งก็ไปจะทำงานเต็มที่อะไรนักหนา แต่เขาก็ลบคำสบประมาท ด้วยการพาทีมเป็นแชมป์ลีก ต่อด้วยการเข้าชิงบอลถ้วย แต่คู่แข่งก็ไม่ง่าย เพราะนั่นคือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คุมทีมโดน โธมัส ตูเคิ่ล นัดนั้นงานหนัก 90 นาทีก็แล้ว 120 นาทีก็แล้ว ยังไม่สามารถปิดเกมกันได้ สุดท้ายต้องดวลจุดโทษ และเอาชนะไปได้ 10. ลีก คัพ อังกฤษ (คาราบาว คัพ) 2017-18 เกมชิงชนะเลิศนัดล่าสุดเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากผ่านไปหนึ่งฤดูกาลที่ไม่มีแชมป์ติดมือในการคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาคราวนี้ กลับมาอย่างยอดเยี่ยม ด้วยการพาทีมทะยานนำจ่าฝูงในลีกแบบที่การเป็นแชมป์อยู่แค่เอื้อม การชิงถ้วย คาราบาว คัพ จะเป็นแชมป์แรกของ เป๊ป ในอังกฤษด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เหมือนเอา อาร์เซน่อล มาให้เชือดเล่นๆ 3-0 สบายๆ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline