logo-heading

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกาศรายชื่อ 50 ขุนพลทีมชาติไทยขึ้นทะเบียนลุยศึก “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018” ออกมาแล้ว ถูกใจหรือไม่อย่างไรคงต้องว่ากันตามแต่มุมมอง

แน่นอนละว่ารายชื่อที่ออกมาย่อมมีทั้งที่ “ถูกใจ” และ “ขัดใจ”

สิ่งที่แฟนบอลเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่โค้ชเห็น นักเตะที่แฟนบอลชอบ โค้ชอาจไม่ชอบ ดังนั้นถ้าจะให้ถูกใจทุกคนคงต้องเรียกนักเตะมาทั้งลีก

เอาเป็นว่า มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บของทีมชาติไทยย่อมมีเหตุผลในการเลือกตัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแฟนบอลจะไม่มีสิทธิ์สงสัยหรือคาใจกับการตัดสินใจของ “มิโล”

ลองมาไล่เรียงรายชื่อ 50 นักเตะของ “ราเยวัช” กันว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใครบ้างอยู่ในข่าย “คาใจ” และมีใครบ้างมั้ยที่เข้าข่าย “ตกหล่น”

“ราเยวัช” เรียกผู้เล่นจากทีม “แชมป์ไทยลีก” อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ติดมากที่สุด 8 คน

รองลงมาเป็น “รองแชมป์” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และทีมที่กำลังลุ้นอันดับ 3 กันอยู่ทั้ง เอสซีจี เมือง ยูไนเต็ด, การท่าเรือ, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกมาติดสโมสรละ 6 คน

บางกอกกล๊าส ที่ยังต้องหนีตกชั้นมีติดมา 4 ราย (นับรวม อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ที่ยืมจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วย)

ขณะที่ สุพรรณบุรี ที่ยังต้องหนีตกชั้นเช่นกันติดเข้ามา 3 ราย เท่ากับ โปลิศ เทโร ที่กำลังจะตกชั้นมีนักเตะติดมาถึง 3 ราย

ส่วน พีที ประจวบ, ราชบุรี มิตรผล, นครราชสีมา มาสด้า, อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด, ชัยนาท ฮอร์นบิล, พัทยา ยูไนเต็ด, ชลบุรี รวมถึง กระบี่ ที่เพิ่งตกชั้นจาก “ไทยลีก 2” ติดมาทีมละ 1 คน

ทีนี้มาไล่เรียงแต่ละตำแหน่ง เริ่มจากผู้รักษาประตูที่ “ซูซูกิคัพ” จะไม่มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ดูแล้ว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กับ ฉัตรชัย บุตรพรม จองมือ 1 และ 2 อยู่แล้ว

แต่น่าสนใจตรงมือ 3 ที่มีชื่ออีก 3 ราย ทั้ง ขวัญชัย สุขล้อม ที่ต่อยอดมาจากเอเชี่ยนเกมส์ วรวุฒิ ศรีสุภา และ สรานนท์ อนุอินทร์

50 ขุนพลของ “ราเยวัช” ถูกใจมั้ย ?

งงตรงที่ “ราเยวัช” เรียกมือ 1 ละ 2 จากสโมสรเดียวกันอย่าง ฉัตรชัย และ สรานนท์ มาติดนี่ละ คือสงสัยว่าไปดูฟอร์มตอนไหนและใช้มาตรฐานอะไร เพราะ สรานนท์ ลงน้อยมาก

ถ้าเปรียบกับนายประตูที่ลงสม่ำเสมอและฟอร์มดีด้วยอย่าง กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ของ “กิเลนผอง” และ ชนินทร์ แซ่เอียะ ของ “ฉลามชล” มันเลยรู้สึกว่าคาใจไม่น้อย !!!

ขยับมากองหลังถือว่าหน้าเดิมๆที่คุ้นเคย ทั้งพวกเซนเตอร์แบ็กอย่าง อดิศร พรหมรักษ์, พรรษา เหมวิบูลย์, มานูเอล ทอมห์ เบียห์ร, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, มิก้า ชูนวลศรี

ที่คัมแบ็กกลับมาสู่ทีมชาติไทยอีกครั้งมี ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ฟอร์มดีกับ บางกอกกล๊าส และ สุพรรณ ทองสงค์ ที่ลงเล่นต่อเนื่องให้ สุพรรณบุรี

หน้าใหม่มี 2 ราย ชิติพัทธ์ แทนกลาง ที่ว่ากันว่าฟอร์มดีกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ มาร์โก บัลดีนี ของชัยนาทที่หลายคนเชียร์จากความรูปร่างสูงใหญ่สไตล์ลูกครึ่ง

ตำแหน่งแบ็กขวา-ซ้ายมี ทริสตอง โด กลับมา ศศลักษณ์ ไหประโคน กับ กรกช วิริยะอุดมศิริ ที่ฟอร์มดีมากๆในลีกก็ไม่ตกขบวน

ตัวเก่าๆ อย่าง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ฟิลิป โรเลอร์ อยู่กันครบ นิติพงษ์ เสลานนท์ นี่ได้โอกาสอีกครั้ง เช่นเดียวกับ เควิน ดีรมรัมย์ ที่ต้องลุ้นว่าจะถอนตัวอีกหรือเปล่า

รายของ สุริยา สิงห์มุ้ย นี่เป็นดาวรุ่งที่ต่อยอดมาจากเอเชี่ยนเกมส์

ตรงแผงมิดฟิลด์มากันครบที่ฟอร์มดีในลีก จักรพันธ์ แก้วพรม, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, สุมัญญา ปุริสาย, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ปกเกล้า อนันต์, ศิวกรณ์ เตียระกูล, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

ดาวรุ่งจากทีมเอเชี่ยนเกมส์ก็ได้โอกาสหลายคนหลังโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องในลีกทั้ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ศุภชัย ใจเด็ด, รัตนากร ใหม่คามิ รวมถึงดาวรุ่งที่หายไปอย่าง พิชา อุทรา ด้วย

รายของ นพพล พลคำ ฟอร์มในสโมสรอาจไม่ดีแต่เคยอยู่ในโผของ “ราเยวัช” มาแล้วเลยถูกเรียกมาอีก เช่นเดียวกับ มงคล ทศไกร ที่ยังเป็นตัวเลือกตรงริมเส้น

แต่ตำแหน่งตรงริมเส้นรอบนี้ไม่มี สิโรจน์ ฉัตรทอง แล้ว ทว่ามีหน้าใหม่ ปกรณ์​ เปรมภักดิ์ ที่อาจได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองในระดับทีมชาติ

คนที่เหลือคงไม่มีใครขัดใจ นูรูล ศรียานเก็ม, รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก รวมถึง ธนาสิทธิ์ ศิริผาลา ทีฟอร์มโดดเด่นในลีก

ส่วน บดินทร์ ผาลา อาจไม่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงบ่อย แต่เป็นคนที่ “ราเยวัช” เรียกมาติดทีมชาติไทยนานแล้ว

50 ขุนพลของ “ราเยวัช” ถูกใจมั้ย ?

แต่ที่หลายคนคงคาใจตรงที่ไม่มีชื่อ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่กำลังฮอต 2 นัดยิง 4 ประตูให้ ชลบุรี แถมยังมีประสบการณ์ในระดับนานชาติมากมายด้วย

สำหรับกองหน้าที่จะไม่มี ธีรศิลป์ แดงดา ใน “ซูซูกิคัพ” ที่สุดแล้ว ชนานันท์ ป้อมบุบผา กับ สุรชาติ สารีพิมพ์ ที่เร่งฟอร์มในลีกอย่างหนักติดเข้ามาจนได้แบบสมใจกองเชียร์

อดิศักดิ์ ไกรษร นี่หายเจ็บมาทันเวลาพอดี ส่วนอีก 2 รายนี่เป็นประเด็นหน่อย ทั้ง อภิวัฒน์ เพ็งประโคน จากอุบลที่ตกชั้น และ สุพจน์ จดจำ นักเตะ 1 เดียวจากไทยลีก 2 ของกระบี่

ดูรายชื่อศูนย์หน้าที่ออกมาแล้วเมือเปรียบเทียบกับผลงานของ ธีรเทพ วิโนทัย ที่กดไป 9 ประตูให้ “แข้งเทพ” ยึดรองแชมป์แล้วจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าคาใจอย่างมาก !!!

50 ขุนพลของ “ราเยวัช” ถูกใจมั้ย ?

อย่างไรก็ดีก็อย่างที่บอกละว่า “ราเยวัช” เป็นโค้ช ต้องเคารพการตัดสินใจของโค้ช เพราะที่สุดแล้วโค้ชคือคนที่ต้องรับผิดชอบผลงานทั้งหมด

ที่สำคัญรายชื่อทั้ง 50 คนยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะกำหนดส่งรายชื่อให้ “เอเอฟเอฟ” วันสุดท้ายคือวันที่ 8 ต.ค. ซึ่งเป็น 30 วันล่วงหน้าก่อนแข่งนัดแรก

แฟนบอลคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะมีใครเจ็บ ใครถอน หรือใครจะฟอร์มดีในลีก 2 นัดสุดท้ายจนทำให้ “ราเยวัช” ต้องเปลี่ยนใจได้บ้าง

 

“บับเบิ้ล”

       
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline