จากหนังเรื่อง "HOMESTAY" ซึ่งมีกำหนดฉายวันที่ 25 ตุลาคม นี้ นั้น ก็มีกระแสแรงขึ้นมา เพียงแค่เผยแพร่คลิป "Official Trailer" ด้วยประโยคที่ว่า "เราไม่ใช่แฟนกันใช่ป่ะ? จะเป็นได้ไง ก็มินไม่เคยขอ"
ก็เลยผุดไอเดียขึ้นมาโต้งๆเลยว่า "อะไรบ้างเกี่ยวกับฟุตบอลที่เราจะไปรู้ได้ไง ถ้าไม่ได้ขอ (ข้อมูล) มาก่อน" จึงตรงมาที่ประเด็นเกี่ยวกับนักเตะฟุตบอลชื่อดัง ซึ่งบางคนก็ยึดอาชีพอื่นมาก่อน แล้วค่อยมาเอาดีทางด้านเป็นพ่อค้าแข้ง
1. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
เจ้าของค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ผู้ถือครองสถิติกองหลังที่แพงที่สุดในโลก หลังย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงต้นปี 2018 แต่เชื่อไหมว่ากว่าที่้เขาจะก้าวเข้ามาเป็นแนวรับระดับตัวท็อปของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงวัยอายุ 16 ปี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เคยรับจ็อบแบบพาร์ทไทม์ เป็นพนักงานล้างจานให้กับ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยได้เงินเข้ากระเป๋าเพียงแค่ไม่กี่ยูโร เท่านั้น
เขาเคยถูกคัดค้านให้เป็นนักฟุตบอล และ หันมาทำงานเป็นพนักงานล้างจานแบบจริงจัง อย่างน้อยๆก็มีเงินประคองชีวิต แต่ทว่า 10 ปี ผ่านไป ฟาน ไดค์ เป็นนักเตะที่มีค่าตัว 75 ล้านปอนด์ พร้อมรับค่าเหนื่อย 10 ล้านปอนด์ ต่อปี
2. เจมี่ วาร์ดี้
เชื่อว่าหลายๆคน คงเคยได้ยินเรื่องราวของ เจมี่ วาร์ดี้ มาบ้าง เพราะชีวิตของเขาเหมือนดั่งนิยายเลยก็ว่าได้ โดยก่อนที่้เขาจะโด่งดังเป็นพลุแตก ช่วยนำ เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครอง เขาเคยเป็นพนักงานของบริษัทผลิตขาเทียม ที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เด็กๆ เพราะครอบครัวไม่มีเงินส่งเสียเรื่องเรียนมากพอ
ในช่วงที่ วาร์ดี้ ต้องสูดดมสารเคมีในการทำงานทุกวัน เขาก็มักจะเสริมสร้างร่างกาย ด้วยการเล่นฟุตบอลกับเพื่อนที่โรงงาน และ พรสวรรค์ที่เขามี จึงได้กลายเป็นนักเตะของทีม สต็อคบริดจ์ ปาร์ค สตีลส์ ลีกล่างสุดแห่งลูกหนัง "ผู้ดี" แต่รับค่าเหนื่อยเพียงแค่ 30 ปอนด์ ทำให้ วาร์ดี้ ต้องควบคู่การทำงานไปด้วย อย่างไรก็ตามชีวิตของ วาร์ดี้ กลับพลิกผันเมื่อมาอยู่ เลสเตอร์ เขาช่วยพาทีมเลื่อนชั้น, คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ขึ้นติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่
3. ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
"ยักษ์เดนส์" ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล คือยอดผู้รักษาประตูที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เดนมาร์ก ขึ้นหึ้งเอาไว้ในฐานะตำนานนักเตะ เพราะกับ "ปีศาจแดง" ก็คว้าแชมป์มาครองแทบครบทุกรายการ โดยเฉพาะ "ทริปเปิ้ลแชมป์" ในปี 1999 ส่วนกับทัพ "โคนม" ก็เคยเถลิงแชมป์ ยูโร 1992 ในฐานะทีมตัวแทนมาแล้ว
แต่มีใครทราบไหมว่าก่อนที่ ชไมเคิ่ล จะกลายเป็นตำนานผู้รักษาประตู เขาเองเคยผ่านมาหลายอาชีพ ก่อนจะยึดอาชีพเป็นพ่อค้าแข้ง โดยเริ่มแรกจากทำงานในโรงงานสิ่งทอ แผนกย้อมสี แต่ก็ลาออกด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและสุขภาพ จึงเปลี่ยนไปทำงานเป็นพนักงานรักษาทำความสะอาด ณ บ้านพักคนชรา 1 ปีเต็ม, เป็นผู้จัดการฝ่ายขายของ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และ ทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างกับคุณพ่อของเขา ก่อนจะตัดสินใจไปเอาดีทางฟุตบอล
4. สจ๊วร์ต เพียร์ซ
สจ๊วร์ต เพียร์ซ อดีตแนวรับขาโหดทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นตำนานนักเตะของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่กระนั้นก่อนที่เขาจะมาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับสโมสรแรกอย่างกับ โคเวนทรี ซิตี้ เขาเคยตอบปฏิเสธสโมสร ฮัลล์ ซิตี้ เพื่อที่จะอยู่ฝึกปรือฝีเท้ากับ เวลด์สโตนส์ สโมสรนอกลีก พร้อมกับทำงานเป็นช่างไฟฟ้า โดยจะรับงานไปตามบ้านเรือน พร้อมมีนามบัตรชัดเจน การันตีงานเนี๊ยบสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
5. มิโรสลาฟ โคลเซ่
มิโรสลาฟ โคลเซ่ ยอดกองหน้าเจ้าเวลาแห่งทีมชาติเยอรมัน ผู้บันทึกประวัติศาสตร์ไว้ว่าสามารถทำประตู ในศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้มากที่สุด จำนวน 16 ประตู แซงหน้า โรนัลโด้ ตำนานหัวหอก "โล้นทองคำ" แห่งทีมชาติบราซิล
ย้อนกลับไปช่วงที่เขายังเป็นวัยรุ่น ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร เขาได้เล่นฟุตบอลให้กับทีมหมู่บ้าน ซึ่งเป็นลีกดิวิชั่น 7 ของประเทศเยอรมัน ด้วยความที่ก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร โคลเซ่ จึงไปฝึกงานเป็นกับโรงไม้แห่งหนึ่ง และ ได้กลายเป็นช่างไม้เต็มตัว แต่พอถึงอายุ 20 ปี เขาก็ได้เลือกเส้นทางเป็นนักบอลอาชีพเต็มตัว และก็ได้สร้างผลงานเอาไว้มากมาย
