logo-heading

สัปดาห์ “ฟีฟ่าเดย์” กำลังจะผ่านพ้นไป รอบนี้ “ทีมชาติไทย” คว้าชัยทั้ง 2 เกมด้วยสกอร์ 1-0 จากการไปเยือน “ฮ่องกง” และเล่นในบ้านพบ “ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก”

ทั้ง 2 เกมเป็น “เอ แมทช์” ที่ได้แต้มสะสมใน “ฟีฟ่า แรงกิง” แน่นอน เอกสารยืนยันจาก “ฟีฟ่า” ที่ส่งถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คือการการันตีทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ผลงานของ “ช้างศึก” ถือว่าโอเคเลยทีเดียว เกมไปเยือน ฮ่องกง อาจจะอึดอึดหน่อย แต่ถือเป็นการจำลองสถานการณ์เกมเยือนที่จะเจอใน “ซูซูกิคัพ 2018” ที่รออยู่ มิโลวาน ราเยวัช มีโอกาสได้ทดสอบนักเตะที่เรียกมาใหม่หลายคนด้วย บางคนแสดงให้เห็นแล้วว่า “สอบผ่าน” และบางคน “ยังไม่ผ่าน” ส่วนเกมในบ้านกับ ตรินิแดดฯ ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว ทั้งฟอร์มการเล่นที่หลายคนทำได้ดี ผลการแข่งขันที่ออกมาชนะ รวมถึงบรรยากาศแฟนบอลเต็มสนาม ภารกิจใหม่ “สินทวีชัย” นายกนักบอลอาชีพ   บรรยากาศที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรีในวันนั้นน่าจะสยบประเด็น “ดราม่า” แฟนบอลได้ดี เชื่อเถอะว่า “ศรัทธาฟุตบอลไทยไม่มีวันหมด” เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากทีมชาติไทยและฟุตบอลไทยจะได้แฮปปี้กับผลงานของนักเตะไทยและบรรยากาศต่างๆแล้ว นี่คือการอำลาทีมชาติไทยของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ได้สมเกียรติ หลายคนบอก “ซูเปอร์ตี๋” รับใช้ชาติมากว่า 14 ปี รวมเบ็ดเสร็จติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไป 79 นัด แต่ส่วนตัวแล้วมองว่านักเตะจากสกลนครคนนี้อยู่บนเส้นทางเกียรติยศมากว่า 19 ปี จากจุดเริ่มต้นที่ “อัสสัมชัญ ศรีราชา” เดินทางไปเตะฟุตบอลนัดพิเศษที่สกลนคร ทีมงาน “ฉลามชล” ได้ค้นพบ “ช้างเผือก” ในเกมวันนั้น 3 ราย คู่แฝด “สุรีย์ - สุรัตน์ สุขะ” และ “โกสินทร์ หทัยรัตนกุล” (ชื่อเก่าตอนนั้น) คือ 3 นักเตะที่ถูกดึงตัวมาเรียนต่อที่ อัสสัมชัญ ศรีราชา ในระดับมัธยมปลาย ก้าวแรกในทีมชาติไทยของ “โกสินทร์” เริ่มต้นหลังจากนั้นด้วยการติดทีมชาติไทยไป  “ยู-17 ชิงแชมป์โลก 1999” ที่ประเทศนิวซีแลนด์ สมัย ยู-17 ชิงแชมป์โลก “โกสินทร์” เป็นนายประตูมือ 3 เป็นรอง อินทรัตน์ อภิญญากุล มือ 1 จอมหนึบจาก กรุงเทพคริสเตียน และ โกสินทร์​ เหมบุตร มือ 2 จาก วัดสุทธิวราราม แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริงมือ 2 ดันเจ็บ “โกสินทร์” เลยติดทีมไปนิวซีแลนด์ นั่นคือการนับ 1 ในทีมชาติไทยตั้งแต่ระดับเยาวชนเมื่อ 19 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น “โกสินทร์” ห่างหายจากระดับชาติไปนานพอสมควร ในระดับเยาวชนอายุ 19 ปีทีมชาติไทย นักเตะจาก อัสสัมชัญ ศรีราชา ไม่ได้มาร่วมคัดตัวด้วยเพราะปัญหาการเดินทาง ภารกิจใหม่ “สินทวีชัย” นายกนักบอลอาชีพ   ชื่อของ “โกสินทร์” มาโผล่อีกครั้งเมื่อคัดตัวทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 21 ปี 2001 ที่มาเลเชีย ภายใต้การทำทีมของ เกษม จริยวัฒน์วงษ์ (นามสกุลเก่า) ในฐานะผู้จัดการทีม การร่วมทีมซีเกมส์ครั้งนั้นทำให้ชื่อเล่นของ “โกสินทร์” ที่ชื่อ “บอล” กลายมาเป็น “ตี๋” เพราะ “สิงโตเผือกปากน้ำโพ” วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ สตาฟฟ์โค้ชได้เรียกขานจนใครๆเรียกตาม ซีเกมส์ ครั้งที่ 21 “ตี๋” ที่อยู่กับทีมมาตลอดต้องหลุดโผในช่วงโค้งสุดท้าย เหตุเพราะ “แพ้ภัยตัวเอง” ในช่วงวัยรุ่น วัยคะนอง นั่นคือ 1 ในบทเรียนสำคัญในชีวิตเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้น “ตี๋” กลับมาได้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่เวียดนาม ยึดมือ 1 พาทีมได้เหรียญทอง แถมหน้าตาหล่อสไตล์ศิลปินดัง “เอฟโฟร์” จนถูกเรียกว่า “เต้า หมิง ซื่อ” “ตี๋” พัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องจนก้าวขึ้นสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ผ่านสมรภูมิลูกหนังมากมาย ประสบความสำเร็จทั้งระดับสโมสรและทีมชาติไทย นี่คือผู้รักษาประตูที่เคยขึ้นไปทำสกอร์ในไทยลีกได้สมัยเล่นอยู่กับ “พนักงานยาสูบ” เป็นนายทวารที่พา “ชลบุรี” ได้แชมป์ไทยลีก เอฟเอคัพ ถ้วยพระราชทานประเภท ก จากชื่อ “โกสินทร์” เปลี่ยนมาเป็น “สินทวีชัย” จากที่ใครๆเรียก “ตี๋” กลายเป็น “ซูเปอร์ตี๋” จากฝีไม้ลายมือระดับคุณภาพที่ยืนเป็นประการด่านสุดท้ายให้ทั้งทีมชาติและสโมสร “ซูเปอร์ตี๋” ไม่เคยปฏิเสธทีมชาติไทย แม้จะเคยเจ็บช้ำสุดๆจากการที่ถูกทีมชาติไทย “ไม่เอา” ใน “ซูซูกิคัพ 2014” !!! แต่ไม่เคยท้อและยอมแพ้ สามารถกลับมาได้ในเวลาต่อมา กระทั่งจบภารกิจ “ฟุตบอลโลก 2018” รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย เมื่อปี 2017 “ซูเปอร์ตี๋” จึงประกาศอำลาทีมชาติไทย ก่อนจะมีนัดอำลาสนามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “ซูเปอร์ตี๋” ในวัย 36 ปีที่ฟิตกว่านักเตะบางคนที่อายุไม่ถึง 30 ด้วยซ้ำยังไม่คิดแขวนถุงมือ หลังจากนี้ยังคงเล่นฟุตบอลอาชีพกับ “สุพรรณบุรี” ด้วยสัญญาที่เพิ่งเซ็นต่อไปใหม่อีก 3 ปี ภารกิจใหม่ “สินทวีชัย” นายกนักบอลอาชีพ   นอกจากนั้น “ซูเปอร์ตี๋” ยังมีอีกบทบาทที่สำคัญที่ต้องตามให้กำลังใจกันคือตำแหน่ง “นายกสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (ประเทศไทย)” หรือ PFA (THAILAND) นี่คือ “สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ” ที่มีการเรียกร้องให้เกิดขึ้นในประเทศไทยมานานแล้ว โดย “ซูเปอร์ตี๋” ได้ดำเนินการกับเพื่อนๆมานานหลายปีจนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ เท่าที่ทราบตอนนี้ “พีเอฟเอ (ไทยแลนด์)” ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งเรียบร้อย และได้การรับรองจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน ขั้นตอนสุดท้ายเหลือเพียงแค่ให้ สหพันธ์สมาคมนักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ” หรือ “ฟิฟโปร” รับเป็นสมาชิกให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพ.ย. แล้วจะเปิดตัวเป็นทางการเดือนธ.ค. หน้าที่ของ สมาคมฯ คือการดูแลปกป้อง เรียกร้อง ต่อสู้เพื่อความถูกต้องให้นักฟุตบอล นักเตะไทยจะต้องไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากสโมสรอีกต่อไป รวมถึงยังมีสิทธิ์ที่จะลงคะแนนโหวตเลือกตั้ง “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” ตามข้อบังคับใหม่ในการเลือกตั้งสมัยหน้าอีกด้วย บทบาทของ “ซูเปอร์ตี๋” ในตำแหน่ง “นายกสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ” จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นี่คือการพลิกโฉมวงการฟุตบอลไทยใหม่อย่างแท้จริง

ภารกิจใหม่ที่กำลังจะเริ่มถือว่าไม่ง่ายเลย แฟนบอลไทยต้องส่งกำลังใจให้และเอาใจช่วย “สินทวีชัย” แบบเต็มหัวใจ

 

“บับเบิ้ล”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline