logo-heading

ความคาดหวังคือสิ่งที่เราทุกคนต่างถวิลหา ใฝ่หาเพื่อเข้าใกล้ความสำเร็จ ตราบใดที่มนุษย์มีเป้าหมาย คุณต้องลงมือตั้งใจเพื่อบรรเลงฝันให้เป็นความจริง

เหมือนเฉกเช่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สโมสรใหญ่เบอร์ต้นๆของแวดวงลูกหนังไทยยุคใหม่ แต่เดิมเป็นแค่ทีมกลาง วันเวลาเพียงแค่ 5 ปีเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นมหาอำนาจ ที่เพียบพร้อมแทบทุกสรรพสิ่ง ทั้งระบบการจัดการ, ผู้เล่นดีกรีมากมาย, ทีมเยาวชน, สนามแข่งขัน, สนามซ้อม ซึ่งพวกเขามีเป้าหมายแค่ทีมต้องมีความเป็นมีอาชีพ และต้องก้าวไปลุ้นแชมป์ ทว่าเมื่อทำไปทำมา ทีมได้แค่เฉียดไปเฉียดมา ในช่วง 3 ปีหลังสุด ปี 2016 จบรองแชมป์ไทยลีก แต้มตามเมืองทอง 5 แต้ม, ปี 2017 จบด้วยรองแชมป์เอฟเอ คัพ แพ้เชียงราย ยูไนเต็ด, ปี 2018 จบรองแชมป์ คะแนนตามหลังบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 16 แต้ม ผลลัพธ์3 ปีหลังสุด ความเคยชิน ปนความเบื่อหน่ายของผู้บริหารคือคำว่าพระรอง นั้นจึงทำให้พลพรรคแข้งเทพจึงหว่านเม็ดเงินมหาศาล ดึงผู้เล่นใหม่ดีกรีสูงเพื่อมาขจัดจุดบอดให้หมดไป ทีมงานขอบสนามคัดสรร 5 ปัจจัยแบงค็อกประกาศศักดาเพื่อท้าชิงแชมป์ทุกรายการที่มีเอี่ยวปี 2019 1.ประกาศตัวลุ้นแชมป์ลีกเต็มตัว เบื่อแล้วพระรอง! 5 เหตุผลแข้งเทพพร้อมท้าชิงแชมป์ปี 2019 หลังความผิดพลาดจบที่ 2 ไทยลีก 2018 และหลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ลีกภายในประเทศไปแบบหน้าตาเฉยทั้งที่เคยครองจ่าฝูงอยู่ 1 สัปดาห์ และแต้มตามหลังบุรีรัมย์ถึง 16 ทีม ช่องว่างระยะห่างที่มากเกินไป ผสมผสานกับความผิดหวังทีมว่างเปล่าไร้โทรฟี่แชมป์ สวนทางกับเม็ดเงินลงทุนมากมายมหาศาลแทบทุกฤดูกาล ทำให้ "เจ้าสัว" ขจร เจียรวนนท์ ปธ.สโมสร และทีมงานมาโน่ โพลกิ้ง ทำการบ้านอย่างหนักปรับปรุงในสิ่งที่ขาด ทุ่มเงินเสริมผู้เล่นเกรดเอ ในตำแหน่งที่ขาดเกมรับ ริมเส้น, กองกลางตัวรุก และกองหน้าคุณภาพ เพื่อที่จะขอปาดหน้าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลุ้นแชมป์ลีกแดนสยามเป็นสมัยแรก หลังชินชากับคำว่าพระรองเต็มทน 2.บทเรียนเคยตกรอบACL เบื่อแล้วพระรอง! 5 เหตุผลแข้งเทพพร้อมท้าชิงแชมป์ปี 2019 หากไม่นับในชื่อเดิมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ได้ไปร่วมสัมผัสเวทีลูกหนังสโมสรถ้วยใหญ่เอเชีย ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี2007 ทีมแข้งเทพ เคยมีเอี่ยวร่วมการแข่งขันACL เมื่อปี2017 ในฐานะรองแชมป์ไทยลีก 2016 เริ่มต้นสตาร์ทรอบเพลย์ออฟ รอบ 2 เจอกับยะโฮร์ ดารุล ทักซิม แชมป์ลีกจากมาเลเซีย แน่นอนว่าชื่อชั้นศักยภาพผู้เล่นแบงค็อก นั้นดูดีกว่าก่อนเริ่มเกม ทว่าเมื่อสู้กันในสนาม คู่แข่งจากแดนมาลายู มาด้วยแท็คติกเกมรับเหนียวแน่น สร้างปัญหาให้ทีมแข้งเทพที่ไม่อาจปะติดปะต่อเกมรุกได้ถนัด และนำไปสู่การต่อเวลาพิเศษ เมื่อผลเสมอ 0-0 ในช่วง 90 นาที ช่วงต่อเวลาความหละหลวมของกิตติพงษ์ ภูแถวเชือก มือกาวในวันนั้นประตูนำไปสู่การเสียประตู แม้จะได้เจซี่ จอห์น ยิงตีเสมอในนาทีสุดท้าย ทว่าประสบการณ์ความกดดันในการยิงจุดโทษ ส่งผลให้แข้งเทพ ปราชัยต่อยะโฮร์ไปแบบน่าเขกกระโหลกตัวเอง 4-5 ร่วงตกรอบเพลย์ออฟไปตั้งแต่ไก่โห 3.เสริมผู้เล่นใหม่คุณภาพ เบื่อแล้วพระรอง! 5 เหตุผลแข้งเทพพร้อมท้าชิงแชมป์ปี 2019 เดิมทีแบงค็อก ยูไนเต็ด มีผู้เล่นไทยที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอยู่แล้ว ไล่ตั้งแต่แนวรับ, กองกลาง, หรือแม้กระทั่งแนวรุก ที่แย่งชิงตำแหน่ง 11 ผู้เล่นตัวจริง ทว่าที่มีอยู่นั้นยังไม่เพียงพอที่จะสู้รบในเวทีเอเชียได้ เมื่อสิ้นสุดไทยลีกปี 2018 บอร์ดบริหารอนุมัติงบในการเปย์แข้งใหม่ ล็อตแรก 3 ราย คือทริสตอง โด, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ซึ่งทั้งหมดมีประสบการณ์ลงเล่นในเวทีเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นแคนดิเดตทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน นอกจากนี้ฝีเท้าและความสามารถก็คับแก้วโลดแล่นเป็นตัวจริงให้อดีตต้นสังกัดเก่ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูแล้วน่าจะมีการนำเข้านักเตะใหม่อีก 3 รายเป็นแข้งนอก 2 ราย (มีเนลสัน โบนิลญ่า อยู่ในนั้นด้วย) และผู้เล่นดีกรีทีมชาติอีก 1 ราย เรียกว่าซื้อเข้ามาได้ตรงกับความต้องการของสโมสร 4.นักเตะภายในทีมหมุนเวียนรับฟุตบอล 4 รายการ เบื่อแล้วพระรอง! 5 เหตุผลแข้งเทพพร้อมท้าชิงแชมป์ปี 2019 ปัจจุบันแข้งเทพ มีผู้เล่นในทีมชุดใหญ่อยู่ 30 ชีวิต นี่ยังไม่รวมกลุ่มนักเตะที่ถูกปล่อยยืมอีก 12 ราย และกลุ่มดาวรุ่งในระดับไทยลีก 4 อีก ราวๆ 20 ชีวิต ซึ่งทั้งหมดต้องขับเขี่ยวแย่งชิงตำแหน่งในช่วงปรีซีซั่นซ้อมแท็คติก เดือนพฤศจิกายนนี้ นี่คือขนาดทีมที่ใหญ่ เพียงพอที่จะสู้รบปรบมือกับฟุตบอลภายในประเทศ 3 รายการ บอลลีกและ 2 บอลถ้วย และฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ทัวร์นาเมนต์ที่บอร์ดบริหารวางเป้าหมาย ต้องไปลุยรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 5.บทพิสูจน์ฝีมือมาโน่ โพลกิ้ง เบื่อแล้วพระรอง! 5 เหตุผลแข้งเทพพร้อมท้าชิงแชมป์ปี 2019 มาโน่ โพลกิ้ง โค้ชลูกครึ่งเยอรมัน-บราซิเลี่ยน ที่สนทนาสปีคได้หลากหลายภาษา กำลังจะมีขวบปีที่ต้องพิสูจน์กึ๋นฝีมือมากขึ้นกว่าเก่า เขารับงานคุมทีมแข้งเทพ มายาวนาน 5 ปีครึ่ง และถือเป็นกุนซือไทยลีกที่มีเก้าอี้แข็งแรงสุด มาโน่ ขึ้นชื่อเป็นกุนซือคลั่งไคล้เกมรุกที่บ้าระห่ำ บอลบุกเน้นเอนเตอร์เทน หลังบ้านช่างแม่ง ก่อนที่ทีมจะค่อยๆซ่อมแซ่มเกมรับให้แน่นหนาขึ้นในเวลาต่อมา เมื่อทุกอย่างสอดคล้อง แข้งเทพจึงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ปีแรกจบที่ 8 ปีที่2 จบที่ 5 ปีที่ 3 จบจบรองแชมป์ ปีที่ 4 จบที่ 3 และซีซั่นล่าสุดจบรองแชมป์ มาโน่ มีภารกิจใหญ่ที่หนักหนาสาหัสพาทีมแข้งเทพโบยบินได้ดั่งใจบอร์ดบริหาร ซึ่งในปี 2019 คำประกาศิตของเจ้าของสโมสร ต้องมีแชมป์ประดับสโมสร ไปลุยบอลถ้วยเอเชีย ดูแล้วพี่แกคงต้องงัดกึ๋นและตำราลูกหนังที่มีในหัวสมองออกมาให้หมดเพื่อบรรลุฝันให้เป็นจริง

หนุ่มบุรีรมย์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline