logo-heading

ฟุตบอลไทย ฤดูกาล 2018 จบลงไปเรียบร้อย เตรียมเข้าสู่โหมดเชียร์ทีมชาติไทยใน "ซูซูกิ คัพ" เดือนหน้านี้ วันนี้ไม่มีอะไรมากเห็นกระแสเพลง "ประเทศกูมี" กำลังดัง ก็เลยหาเรื่องเกาะกระแสกันหน่อย

เรื่องเนื้อหาในเพลงไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องราวที่เราจะนำเสนอในวันนี้นะครับ แค่เห็นว่า "ประเทศกูมี" ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า "ไทยลีกกูก็มี" เหมือนกันนี่หว่า 55555 จริงๆ เป็นเรื่องเก่าเล้าใหม่ผมเขียนไปแล้วตั้งแต่ต้นฤดูกาลเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกๆ แหวกแนวในฟุตบอลไทยลีกบ้านเรา ซึ่งเชื่อเลยว่าน่าจะมีประเทศเดียวในโลกกับเหตุการณ์ต่างๆ แบบนี้ ก็เลยเอามาปัดฝุ่นเล่าให้ฟังใหม่อีกครั้ง

กับเรื่องราวแปลกๆ ใน 10 เหตุการณ์ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี"

ก่อนจะไปติดตามต้องบอกก่อนว่าบางเหตุการณ์ที่นำเสนอนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แหวกแนว อะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิด ขึ้นบ่อยๆ และไม่ใช่เหตุการณ์ปกติทั่วไป มันมีความพิเศษบางอย่างเกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้นๆ อยู่ จะมีเรื่องราวอะไรบ้าง ไปดูกัน 1.บุรีรัมย์ไม่อยู่รับถ้วยแชมป์ 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เหตุการณ์แรกที่นึกถึงและถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของการรับแชมป์ฟุตบอลไทยลีก นั่นก็คือการที่นักเตะทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ ไม่อยู่ร่วมรับเหรียญรางวัล และฉลองถ้วยแชมป์ไทยลีก เมื่อฤดูกาล 2011 โดยต้นตอของเรื่องนี้คือทีมปราสาทสายฟ้า ไม่พอใจที่ไทยพรีเมียร์ลีก ไม่ยอมจัดพิธีมอบถ้วยแชมป์ในเกมที่พวกเขาเล่นในบ้าน แต่เลือกที่จะไป มอบในเกมนัดปิดฤดูกาลแทน ซึ่งบุรีรัมย์ นั้นออกไปเยือนเชียงราย ทำให้ เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่สายฟ้าไม่พอใจ และประกาศก่อนแล้วว่าจะไม่ เดินทางไปที่ จ.เชียงราย แน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นเกมเดียวที่บุรีรัมย์ลงเตะแล้วไม่มี นายเนวิน อยู่ข้างสนาม แต่ทุกคนก็ไม่คิดว่าสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะคนอื่นๆ ที่เดินทางไปแข่งขันจะไม่อยู่ในพิธีรับถ้วย ปรากฏว่าหลังจบเกม สตาฟฟ์โค้ชและนักเตะทั้งหมดขึ้นรถบัสออกจากสนามทันทีเพื่อไปรอที่สนามบิน ขณะที่พิธีรับถ้วยก็ส่งเจ้าหน้าที่สองคนขึ้นไปรับแทน ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือพิธีมอบถ้วยปีนั้น ส.บอล ได้มีการเชิญ เซอร์เดวิด ริชาร์ด ประธานพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ มาร่วมมอบถ้วยด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ ปธ.ลีกผู้ดีมาร่วมงาน แต่กลับเจอเหตุการณ์นี้เข้าไป ทำให้ทีพีแอล และสมาคมฯ ถึงกลับหน้าแหกและหงายเงิบเลยทีเดียว [embed]https://www.youtube.com/watch?v=JRUxXdUo_D0&t=11s[/embed]   2.อั้ม ขึ้นฮอร์เชิญถ้วยไทยลีก 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เรื่องต่อมาเกิดขึ้นในฤดูกาล 2010 ในนัดปิดฤดูกาล ซึ่งไทยพรีเมียร์ลีกสร้างความฮือฮาด้วยการเชิญ "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกชื่อดังระดับ ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เชิญถ้วยลงมายังกลางสนาม "ยามาฮ่า สเตเดี้ยม" เรื่องนี้ที่มันแปลกก็คือ โดยปกติทั่วไปแล้วพิธีมอบถ้วยแชมป์ไทยลีก มันก็จะไม่ได้มีอะไรหวือหวาหรือเป็นกระแสมากมายขนาดนั้น เต็มที่ก็มีมินิคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง มีนายทหารใส่ชุดขาวมาเชิญถ้วย บางทีก็เป็นพริตตี้ของผู้สนับสนุน แล้วก็มอบถ้วยกันปกติ แต่ในฤดูกาล 2010 ทีพีแอล โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง และสปอนเซอร์ ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเชิญ "อั้ม" พัชราภา มาเป็นคนเชิญ นี่ก็ว่าฮือฮาและแปลกแล้ว แต่ที่ แหวกแนวซ้ำซ้อนเข้าไปอีกก็คือการพาคุณอั้ม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มายังสนามแข่งขัน เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องที่ฮือฮาทั้งวงการกีฬาและสายบันเทิงเลยทีเดียว จำได้ว่าผมอยู่ในสนามด้วย นักข่าวน่าจะเป็นพันคนวันนั้น อันนี้ผมเวอร์ไป หลายร้อยคนมาก มีทั้งสายกีฬาและสายบันเทิงมากันยั้วเยี๊ยไปหมด แต่โชคดีที่คุณอั้มมาแค่นั้น พอบอลเริ่มเตะทุกอย่างก็ซาลง ถือเป็นเรื่องที่น่าจดจำอย่างหนึ่งในวงการ ฟุตบอลไทย ถ้าเป็นตอนนี้จะทำอีกครั้งควรเชิญนางเอกคนไหน และเดินทางด้วยอะไรดี? [embed]https://www.youtube.com/watch?v=5lpPs5gUoYg[/embed]   3.เปิดเพลงกราวกีฬาเดินลงสนาม 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เหตุการณ์นี้แหละที่ทำให้ผมอมยิ้ม นั่นก็คือการนำเอา "เพลงกราวกีฬา" มาใช้เป็นเพลงเปิดเพื่อนำนักเตะเดินลงสนาม ในฤดูกาล 2010 จากแนวคิดของท่าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานทีพีแอลตอนนั้น ที่ต้องการจะสร้างเอกลักษณ์ให้กับไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนเริ่มการแข่งขัน จึงได้ให้มีการเปิดเพลงกราวกีฬา ใครนึกไม่ออกมันคือเพลงที่ร้องว่า "กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ... ฮ้าไฮ้ ฮ้าไฮ้ กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลสทำตนให้เป็นคน ผลของการฝึกตน เล่นกีฬาสากล ตะละล้า" ประมาณนี้ครับ ที่เราร้องกันในวันกีฬาสีสมัยประถมนั่นแหละครับ ไม่รู้เด็กสมัยนี้รู้จักไหม ช่วงแรกเป็นการขอความร่วมมือ ซึ่งบางสนามก็เปิด บางสนามก็ไม่เปิด จนมีบทลงโทษสนามที่ไม่เปิด สุดท้ายเป็นการบังคับให้เปิด ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นเพลงที่ดีครับ อย่าเข้าใจผิด เนื้อร้อง ความหมายดีทุกอย่าง ให้รู้แพ้ รู้ชนะ มีน้ำใจนักกีฬา เพียงแต่มันไม่เข้ากับการแข่งขันฟุตบอล ไทยลีกเท่านั้นเอง มันดูเป็นงานกีฬาสีของเด็กๆ ซะมากกว่า จึงทำให้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย และแล้ว ดร.วิชิต ก็ทนกระแสไม่ไหวต้องยอมประกาศยกเลิกไปเลกสอง และให้กลับมาใช้เพลงแฟร์เพลย์ของฟีฟ่าเหมือนเดิม แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่เข้าอยู่ดี เพราะบอลลีกไม่ใช่ทีมชาติ ซึ่งปัจจุบันเรามีเพลงธีมของไทยลีกเองแล้ว ก็ไม่ต้องไป เปิดเพลงอื่นให้มีปัญหา แต่น่าเสียดายที่ผมหาบรรยากาศการเดินลงสนามในฤดูกาลนั้นไม่ได้ เอาเป็นว่าลองฟังเพลงกราวกีฬาที่คลิปด้านล่าง แล้วนึกภาพนักเตะเดินลงสนามไปด้วย ลองดูว่ามันเข้ากันไหม? [embed]https://www.youtube.com/watch?v=FLZQdgl5190[/embed]   4.ป้ายเชียร์ กี่โมง ซี่โครง 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เรื่องต่อมาก็ฮาและจี๊ดไม่แพ้กัน กับการทำป้ายเชียร์ พร้อมกันเสียงตะโกนว่า "กี่โมง", "ซี่โครง" ซึ่งเป็นการแปลงมาจากคำว่า "ขี้โกง" นั้นเอง คือผมไม่อยากจะสาวคสามยาวของเรื่องนี้ว่าที่ไปที่มาคืออะไร เอาเป็นว่าครั้งนึงมันเคยมีการตะโกนเชียร์ และทำป้ายแบบนี้ในสนามฟุตบอล นอกจากนี้ยังมีป้ายเชียร์ที่เป็นข้อความเสียดสีสมาคมฯ นู้นนี่นั่น นึกย้อนกลับไปก็ตลกดี แต่ต่อมาบริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด หรือ “ทีพีแอล” ก็ได้ร่างกฎเหล็ก ห้ามแฟนบอลชูป้ายดูถูก ดูหมิ่น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือ ทีพีแอล ถ้าใครทำมีโทษสูงสุดคือแบนรังเหย้าตลอดทั้ง ฤดูกาล พร้อมตัด 6 แต้ม และปรับเงินอีก 150,000 บาท ส่วนเรื่อง "กี่โมง" และ "ซี่โครง" รวมทั้งท่าดีใจของนักเตะทีมบุรีรัมย์ ที่ชี้ไปที่ซี่โครง ซึ่งเป็นแนวสัญลักษณ์ ทั้งหมดนี้ถูกทีพีแอลเรียกไปสอบว่าที่ ไปที่มาคืออะไร ก่อนที่สุดท้ายจะมีการออกกฏเพิ่มมาว่าห้ามทำป้ายและตะโกนข้อความดังกล่าว มิเช่นนั้นจะโดนลงโทษเช่นกัน ซึ่งมันก็เป็น อะไรที่ตลกดี ตั้งแต่การแปลงคำว่า "ขี้โกง" มาเป็นอย่างอื่นแล้ว แล้วก็มาตลกตรงที่สมาคมก็บ้าจี้ไปออกกฏอะไรเลอะเทอะออกมาอีก ตลกดีนะ ครับบอลไทยบ้านเรา 5555 5.เพลย์ออฟเลื่อนชั้น 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เรื่องต่อมาคือการประกาศเพิ่มทีมในศึกไทยลีก 2011 เป็น 18 ทีม นำมาซึ่งการเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ถ้าดูจากหัวเรื่องที่เกริ่นไปข้างต้น ก็คงรู้สึกเฉยๆ ว่ามันแปลกตรงไหนเพิ่มทีม มันแปลกตรงที่ทางไทยพรีเมียร์ลีก มาประกาศเอาตอนบอลเตะ จบฤดูกาล 2010 กันไปแล้ว ได้สามทีมตกชั้น สามทีมเลื่อนชั้นเรียบร้อย แต่สุดท้ายก็มีแนวคิดเพิ่มทีมขึ้นมาจากเดิม 16 ทีม เป็น 18 ทีม โอเคละมันก็วินๆ ทั้งคู่ สโมสรเองก็จะได้ขยายตัวในเรื่องธุรกิจ เพราะตอนนั้นไทยลีกบูมมาก อะไรก็ฉุดไม่อยู่ น้ำขึ้นต้องรีบตัก เสียงส่วนมาก เห็นด้วย ยิ่งทีมตกชั้นอย่าง ทหารบก,ศรีสเกษ และ แบงค็อก ก็จะได้แก้ตัวในการเพลย์ออฟอีกครั้ง สามทีมน้องใหม่ดิวิชั่น 1 ได้เลื่อนชั้นเหมือน เดิมตามสิทธิ์ ขณะที่ทีมอันดับที่ 4,5,6 ของ ดิวิชั่น 1 อยู่ดีๆ ก็จับพลัดจับผลูได้สิทธิ์เพล์ออฟขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดซะงั้น คือมันไม่มีปี่มีขลุ่ยอะครับ เรื่องของเรื่อง คิดจะเพิ่มก็เพิ่ม ใช้เพลย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้น แล้วสุดท้ายก็มีปัญหาในเกมเพลย์ออฟนี่แหละ ถ้าใครจำได้ คู่ นครปฐม กับ ศรีสะเกษ ด้วยความที่เดิมพันมันสูง ต่างฝ่ายต่างแพ้ไม่ได้ สุดท้ายจบด้วยผลเสมอ 0-0 แต่จบเกมก็เกิดความวุ่นวาย ผู้ตัดสิน อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ โดนรุมทำร้าย เป็นเหตุการณ์ที่น่าอัปยศอีกครั้งหนึ่งของฟุตบอลไทยของเรา [embed]https://www.youtube.com/watch?v=BjgHmOqTxtE&t=4s[/embed] 6.จับสลากกรรมการ 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เรื่องต่อมาคือการแก้ปัญหาเรื่องผู้ตัดสิน ด้วยการ "จับสลาก" ไม่รู้จะมีฟุตบอลลีกประเทศไหนในโลกไหมที่ใช้วิธีจับสลากผู้ตัดสินในการลงทำหน้าที่ มันอาจจะมีก็ได้ อย่างน้อยก็ไทยแลนด์ของเรานี่หละครับ แต่เรื่องนี้ก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย ในเมื่อสโมสรเองไม่ยอมรับในการจัดตัวผู้ตัดสินในแต่ละแมตช์ และคณะกรรมการผู้ตัดสินเองก็จัดตัวผู้ตัดสินไป แบบน่าสงสัย มันจึงไม่มีใครเชื่อใคร ยิ่งการทำหน้าที่ของกรรมการในสนามอีก มันไม่มีทางออกอื่นจริงๆ ครับที่จะให้เป็นที่ยอมรับ สุดท้าย "เสธ.ตุ้ม" พลเอก ชินเสณ ทองโกมล ประธานเชิ้นดำในตอนนั้นก็ต้องเอาวิธีการจับสลากผู้ตัดสิน โดยให้สื่อมวลชนเป็นคนจับ และมีการ ถ่ายวีดีโอบันทึกเก็บไส้เผื่อความโปร่งใสให้ดูด้วย ซึ่งก็ใช้วิธีนี้แก้ปัญหามาได้จนจบฤดูกาล 2015 พูดถึงเรื่องจับสลากก็ทำให้คิดถึงฤดูกาล 2016 ที่ต้องมาใช้การจับสลากหาทีมไปเตะเอเอฟซี ชปล. และฟุตบอลถ้วยรายการต่างๆ ก็ถือว่าเป็น สีสันบอลไทยแล้วกันครับ กับเรื่องที่ผ่านๆ มา https://www.youtube.com/watch?v=Q3DU3tBEqVE&t=12s https://www.youtube.com/watch?v=hHQ8OKJMpA0&t=13s   7.ราชนาวีใส่ชุดซ้อมลงแข่ง 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" มาดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันในสนามกันบ้าง มีเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่งคือ ในฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2010 ทีมราชนาวี ระยอง ใส่ชุดซ้อม ลงไปแข่งกับ เอสซีจี สมุทรสงคราม เฉยเลย ในเกมดังกล่าวเป็นการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2010 เลกแรก เมื่อวันที่ 24 เม.ย.53 ที่สนาม อบจ.สมุทรสงคราม ระหว่างเจ้าถิ่น "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม พบกับ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง ชื่อทีมในเวลานั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวมันมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่เล็กน้อย ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าชุดเหย้าทีม "ปลาทู" คือสีฟ้า กางเกงขาว ของทีมราชนาวี ชุดเหย้า เสื้อขาว กางเกงขาว ชุดเยือนน้ำเงิน กางเกงน้ำเงิน และชุดที่สามสีเหลือง (ซึ่งใช้เตะบอลถ้วย และช่วงต้นฤดูกาลยังไม่ได้มีทำออกมาเพราะเตรียมใช้เตะบอลถ้วยช่วงกลางปี) คราวนี้ทำให้เหลือ ขาว กับ น้าเงิน ซึ่งน้ำเงินมันก็จะไปกลมกลืนกับสีฟ้าของเจ้าถิ่น ถ้าใส่สีขาวก็จะคล้ายคลึงกันอยู่ดี เพราะสีมันเฉดเดียวกัน ก่อนเตะหนึ่งวันทั้งสองทีมจึงตกลงกันว่า เจ้าถิ่นก็ใส่ชุดเหย้าปกติไป ส่วนทีมเยือนจะใส่เสื้อขาว แต่กางเกงสีน้ำเงิน เพื่อให้มันเด่นขึ้นมาและไม่ทับกัน แต่ปรากฏว่าตอนประชุมผู้จัดการทีมก่อนเตะ 2 ชั่วโมง ผู้ควบคุมการแข่งขันไม่อนุมัติ เพราะเสื้อขาวของราชนาวีมีขลิปสีน้ำเงิน ทำให้มัน คล้ายคลึงกัน ตามกฎแล้วไม่ได้ คราวนี้ทีมเยือนต้องหาชุดสีอื่นมาใส่ แต่ไม่มีชุดแข่งสีอื่นที่เตรียมมาแล้ว เลยบอกให้เอสซีจี สมุทรสงคราม ใส่เสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นชุดทีมเยือนลง สนามแทน แต่เจ้าถิ่นก็ปฏิเสธเนื่องจากชุดสีส้มมีไม่ครบจำนวน สุดท้ายแมตช์คอมฯ จึงต้องอนุญาตให้ราชนาวี ใส่ชุดซ้อม ซึ่งเป็นเสื้อคอกลมสีเขียวลงสนามแทน ก่อนที่สมุทรสงครามจะชนะไปเกมนั้น 1-0 ผมก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละใส่ชุดซ้อมลงแข่ง บังเอิญเกมนั้นผมไปอยู่ในสนามด้วย [embed]https://www.youtube.com/watch?v=EastgBcZLJY&t=24s[/embed]   8.สมาคมทำถ้วยเก้อ 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" ต่อมาเป็นเรื่องของถ้วยแชมป์ที่ทำขึ้นมาพิเศษ ในปี 2017 เพื่อเตรียมมอบแชมป์ฤดูกาล 2016 ให้เอสซีจี เมืองทองฯ และ ไทยฮอนด้า ย้อนหลัง อย่างที่เราทราบกันดีถึงเหตุการณ์สำคัญในบ้านเราเมื่อปี 2559 ทำให้ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2016 ต้องยุติการแข่งขันลงตามประกาศของ สมาคมฯ ซึ่งแชมป์ก็ให้คิดตามอันดับคะแนน ณ เวลานั้น ถ้าจำไม่ผิดเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกไม่กี่เกมน่าจะ 3-4 นัด ถ้าผิดขอภัย เพราะนั่น ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะพูดถึง สำหรับไทยลีก ฤดูกาล 2016 แต่เดิมสมาคมฯ เตรียมที่จะนำถ้วยพระราชทาน ก. มาเป้นถ้วยรางวัล รวมทั้ง ดิวิชั่น 1 ก็จะใช้ถ้วยพระราชทาน ข. แต่หลังจากลีกยุติไป และการจะนำถ้วยพระราชทาน มาเป็นถ้วยแชมป์ติดปัญหา และทางสมาคมก็ยกเลิกถ้วยใบเก่าที่สั่งทำมาจากอังกฤษไป คราวนี้พอเข้าสู่ปี 2560 ก็จะมีการเตรียมมอบแชมป์ย้อนหลังให้กับ เอสซีจี เมืองทองฯ แชมป์ไทยลีก และไทย ฮอนด้าฯ แชมป์ ดิวิชั่น 1 ซึ่งก็ได้มีการไปสั่งทำถ้วยแชมป์เฉพาะกิจมาจากประเทศญี่ปุ่น เหมือนกันทั้งไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 แต่สุดท้ายทางกิเลนผยอง ไม่ขอรับถ้วยใบนี้ จึงไม่มีการจัดพิธีมอบถ้วยแต่อย่างใด ถ้วยนี้จึงไม่ได้ถูกใช้งานเก็บไว้ที่สมาคมฯ เป็นที่ระลึก และสุดท้ายก้ต้องไปเอาถ้วยใบเก่ามามอบให้เอสซีจี เมืองทองฯ [embed]https://www.youtube.com/watch?v=N7rX4bsiHFc&t=6s[/embed] 9.สารัช โดนแบนเพราะท่า "จุ๊ปาก" 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เรื่องนี้ก็สร้างความฮาได้ไม่น้อย กับบทลงโทษย้อนหลัง สารัช อยู่เย็น ด้วยการแบน 1 นัด จากการแสดงท่าดีใจด้วยการ "จุ๊ปาก" เหตุการณ์นี้มันเกิดมาจากเกมไทยลีก ฤดูกาล 2015 คู่ระหว่าง สระบุรี พบ เอสซีจี เมืองทอง ซึ่ง สารัช ยิงประตูได้แล้วไปสแดงท่าดีใจ "จุ๊ปาก" ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น โดยภายหลังทางไทยลีกได้มาลงโทษย้อนหลังปรับเงิน 10,000 บาท และแบน 1 นัด ด้วยข้อหาเป็นท่าดีใจที่แสดงถึง การยั่วยุกองเชียร์เจ้าถิ่น แม่เจ้า!! คิดได้เนอะ แต่สุดท้ายพอเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา ทางพีทีแอลก็มีการพิจารณาเรื่องนี้ใหม่และยกเลิกบทลง โทษดังกล่าวไป อืม มาตรฐานอยู่ตรงไหน? https://www.youtube.com/watch?v=d471eHHTZiQ 10.เปาหนอมกลับบ้านไม่ได้ 10 เหตุการณ์!! ที่อยากจะบอกว่า "ไทยลีกกูมี" เรื่องสุดท้ายไม่รู้จะฮาดีไหม เมื่อ ถนอม บริคุต ประกาศแขวนนกหวีดต่อหน้าแฟนบอลท่าเรือ หลังโดนล้อมไม่ให้กลับบ้าน 5555 เหตุการณืนี้มาจากเหมไทยลีกคู่ระหว่างการท่าเรือไทย เอฟซี กับ เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม เอฟซี ที่สนามแพท สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 29 ก.ย.55 ฤดู กาล 2012 โดยเกมนั้น ถนอม บริคุต ลงทำหน้าที่ตัดสินกลางสนาม และผลจบลงที่เจ้าถิ่นแพ้คาบ้าน 1-2 แน่นอนว่าท่าเรือแพ้ คนแรกที่จะโดนก็ คือผู้ตัดสิน ซึ่งในเกมผมจำไม่ได้ว่า เปาหนอม ทำหน้าที่เป็นอย่างไร แต่น่าจะหนักเอาเรื่องอยู่ จนเป็นเหตุให้หลังจบเกมแฟนบอลต่างมาล้อมปิดทางออก ของห้องผู้ตัดสิน ไม่ให้ไปไหน แล้วแพท สเตเดี้ยม ก็รู้กันอยู่ถ้าโดนล้อมแบบนั้นออกไปทางไหนไม่ได้แน่ ติดแง๊กอยู่อย่างเดียว นานกว่า 3 ชั่วโมง ที่แฟนบอลล้อมประตูทางออกอยู่แบบนั้น ตำรวจมาก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายไม่รู้ไปคุยกันท่าไหน เปาหนอมต้องออกมาพูดใส่โทรโข่ง ว่าจะขอเลิกเป็นผู้ตัดสิน และเลิกเป่าตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นไป ทำให้แฟนบอลยอมปล่อยตัวให้กลับบ้าน แต่แล้วฤดูกาลถัดมาเขาก็กลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง 5555 ตลกฉิบหาไม่เจอจริงๆ เรื่องนี้ https://www.youtube.com/watch?v=40rsg1AVxaE&t=2s ทั้งหมดก็เป็นเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทยลีกของเรา หลายคนอาจจะเคยรู้และเพิ่งจะรู้วันนี้ แต่ยังไงก็รู้ไว้เลยว่า

"ไทยลีกกูมี"

ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline