logo-heading

ทุกคนคงทราบแล้วว่า เรอัล มาดริด ได้ประกาศปลด ฆูเลน โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งกุนซือเรียบร้อย หลังผลงานอย่างห่วย แพ้ต่อ บาร์เซโลน่า 1-5 และ สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้ว 5 นัดติดต่อกันในลีก ก่อนจะไปแต่งตั้ง ซานติอาโก้ โซลารี่ เข้ามารับงานแบบขัดตาทัพ

หลายคนก็ตั้งคำถามว่ามีโอกาสจะคุมแบบถาวรหรือไม่ แต่ในเมื่อยังไม่เห็นผลงานกับตา เอาเป็นว่าไปเช็คฟอร์มเหล่ากุนซือ "ราชันชุดขาว" ที่เคยเข้ามารับงานกลางฤดูกาลแถวๆปี 2000 กันดีกว่า จะมีใครเปรี้ยงและร่วงกันบ้าง

  • บิเซนเต้ เดล บอสเก้
เวิร์คไหม? เช็คผลงาน 6 กุนซือ มาดริด รับงานกลางคัน ใครเปรี้ยงใครร่วง ทุกครั้งที่ เรอัล มาดริด มีปัญหาเรื่องกุนซือ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ จะเป็นคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยอยู่ตลอด นับตั้งแต่ปี 1994, 1996 และ จนกระทั่งปี 1999 ช่วงนั้น ลอเรนโซ่ ซานซ์ เป็นประธานสโมสร และเพิ่งปลด จอห์น โตแช็ค ออกจากตำแหน่งกุนซือ หลังผลงานร่วงมาอยู่ที่ 8 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 1999 แต่ก็ประคองมาจบอันดับ 5 ไว้ได้ ซีซั่นต่อมา ถึงแม้ประธานสโมสรจะเปลี่ยนจาก ลอเรนโซ่ ซานซ์ มาเป็น ฟลอเรนติโน่ เปเรซ แต่ทว่า บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ก็ยังคงรั้งตำแหน่งกุนซือเช่นเดิม คราวนี้ผลงานกึกก้องไปทั่วปฐพี เพราะ เดล บอสเก้ ได้สร้าง มาดริด ยุคเกรียงไกรสนั่นวงการลูกหนัง เพราะเขาเสกแชมป์ ลา ลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาให้กับสโมสร อย่างละ 2 สมัย
  • มาเรียโน่ การ์เซีย เรม่อน
เวิร์คไหม? เช็คผลงาน 6 กุนซือ มาดริด รับงานกลางคัน ใครเปรี้ยงใครร่วง หลายคนอาจจะลืมเขาไปแล้วก็ได้ เพราะ มาเรียโน่ การ์เซีย เรม่อน อยู่กุมบังเหียน เรอัล มาดริด ได้เพียงแค่ราว 3-4 เดือนเท่านั้น โดยจริงๆแล้วเจ้าตัวได้เข้ามาเป็นมือขวาให้กับ โฆเซ อันโตนิโอ กามาโช่ ซึ่งเข้ามารับงานกุนซือ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2004 แต่ผลงานกลับไม่เป็นไปตามดั่งหวัง เพราะในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พ่ายต่อ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 0-3 และ อีก 4 วันต่อมา ก็ปราชัยให้ เอสปันญ่อล 0-1 ในเดือนกันยายน 2004 ทำให้ถูกปลดพ้นทีมทันที ขณะนั้น ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ได้เลือกให้ มาเรียโน่ การ์เซีย เรม่อน มือขวาของ กามาโช่ เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นกุนซือรักษาการณ์ แรกๆเหมือนจะไปได้ดี แต่พอเข้าถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน มีช่วงแพ้ 2 นัด ดันทะลึ่งไปแพ้ บาร์เซโลน่า 0-3 ทำให้ไม่นานจากนั้นก็โดนปลดออกจากทีมในช่วงพักเบรกหนีหนาว เดือนธันวาคม
  • วันเดอร์เลย์ ลุกช็อมเบอร์โก้
เวิร์คไหม? เช็คผลงาน 6 กุนซือ มาดริด รับงานกลางคัน ใครเปรี้ยงใครร่วง วันเดอร์เลย์ ลุกช็อมเบอร์โก้ ปัจจุบันอายุ 66 ปี โดยเจ้าตัวเข้ามารับงานคุมทีม เรอัล มาดริด กลางคัน ซึ่งเขานำ "ราชันชุดขาว" เก็บชัยชนะ 7 นัดรวดในเกมลีก ปลุกความหวังในการลุ้นแชมป์กลับมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เป็นรองแชมป์ให้กับ บาร์เซโลน่า เป็นรอง 4 คะแนน แต่ทว่าซีซั่นต่อมา เจ้าตัวเหมือนเลือกปรับระบบมาใช้ 4-2-2-2 แต่ไม่เวิร์ค สุดท้ายก็โดนปลดช่วงปลายปี 2005
  • ฆวน ราม่อน โลเปซ คาโร่
เวิร์คไหม? เช็คผลงาน 6 กุนซือ มาดริด รับงานกลางคัน ใครเปรี้ยงใครร่วง จากการปลด วันเดอร์เลย์ ลุกช็อมเบอร์โก้ ระหว่างฤดูกาล มาดริด ได้แต่งตั้ง ฆวน ราม่อน โลเปซ คาโร่ หลังจากทำงานคุมทีมชุดเบ มาราวประมาณ 4 ปี แต่อายุขัยของการรับงานกุนซือ "ราชันชุดขาว" ก็อยู่เพียงแค่จบซีซั่น 2006 เท่านั้น เพราะนัดเปิดตัวก็เล่นแพ้ให้กับ โอลิมเปียกอส 1-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ จบเป็นอันดับ 2 แต่ตาม บาร์เซโลน่า ห่างถึง 12 คะแนน
  • ฆวนเด้ รามอส
เวิร์คไหม? เช็คผลงาน 6 กุนซือ มาดริด รับงานกลางคัน ใครเปรี้ยงใครร่วง ในยุคที่ ขบถลูกหนัง แบรนด์ ชูสเตอร์ ออกสตาร์ทคุม เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2007 โดยเขาพา มาดริด ทำผลงานได้อย่างสุดติ่ง นำทีมรั้งหัวตาราง พร้อมเอาเกมรุกอันดุดัน กลับมาสู่ถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว อีกครั้ง พร้อมช่วยทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน พร้อมทำคะแนนสถิติ แต่ซีซั่นต่อมา ทุกอย่างกลับตาลปัตร ด้วยเอกลักษณ์ที่ชอบมีปัญหากับสื่อ และ เคยลั่นวาจาไว้ว่า "ทีมของเขา ไม่สามารถเอาชนะ บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป ได้" ก่อนจะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 9 ธันวาคม 2008 หลังจาก ชูสเตอร์ ออกทีมไปนั้น คนที่เข้ามาสานต่อก็คือ ฆวนเด้ รามอส ซึ่งมารับช่วงที่ต้องรอเจอกับ บาร์เซโลน่า พอดี ถึงแม้จะแพ้ไป 0-2 แต่ว่าหลังจากนั้นผลงานบอกเลยว่าโคตรเฉียบ พาทีมกลับมาลุ้นแชมป์แบบเหลือเชื่อ โดยเก็บไปถึง 52 คะแนน จาก 54 คะแนน ซึ่งเป็นการไร้พ่าย 18 เกมในลีกติดต่อกัน อย่างไรก็ตามสถิติก็ถูกหยุดไว้ด้วย "เจ้าบุญทุ่ม" อีกครั้งพร้อมกับโดนถลุง 2-6 จากนั้นปิดซีซั่นด้วยการแพ้ 5 เกมรวด จบอันดับ 2 ห่างจาก "เจ้าบุญทุ่ม" 9 คะแนน และ ฆวนเด้ รามอส ก็แยกทางกับ เรอัล มาดริด ไปในที่สุด
  • ซีเนอดีน ซีดาน
เวิร์คไหม? เช็คผลงาน 6 กุนซือ มาดริด รับงานกลางคัน ใครเปรี้ยงใครร่วง ก่อนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตกุนซือ เรอัล มาดริด จะอำลาตำแหน่งไปนั้น ก็ได้สร้างสถิติไว้มากมาย รวมถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ความกดดันถาโถมเข้ามาหา ราฟาเอล เบนิเตซ ซึ่งเข้ามารับงานในซีซั่น 2015 และ มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเริ่มโดนต่อต้านจากแฟนบอล, จากนักเตะในทีม รวมถึงสไตล์การเล่นที่ดูแสนน่าเบื่อ อยู่ได้ประมาณครึ่งฤดูกาล ก็โดนปลดทิ้ง สิ่งที่สาวก "ราชันชุดขาว" ใฝ่ฝัน ถึงแม้จะแฝงไปด้วยความกังวล ในที่สุดก็ได้เห็น ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานนักเตะของทีม ได้ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนให้กับทีมในช่วงหลังวันปีใหม่ 2016 และจากนั้นบทตำนานก็เริ่มต้นขึ้นทันที ด้วยโปรไฟล์ของ ซีดาน ได้รับความเคารพกับทั้งนักเตะในทีม และ บรรดาแฟนบอล จากผลงานที่เคยสร้างความยิ่งใหญ่สมัยเป็นนักเตะ ซึ่ง ซีดาน เข้ามากอบกู้ทำให้ "ราชันชุดขาว" แข็งแกร่งเหมือนเดิม โดยเฉพาะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นที่เข้ามาแทน ราฟาเอล เบนิเตซ พร้อมยังมีแชมป์ ลา ลีกา 1 สมัย และ สร้างประวัติศาสตร์เป็นสโมสรแรกที่ป้องกันถ้วย "ยูซีแอล" ได้สำเร็จ รวมเป็น 3 สมัยซ้อน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline