ไทม์ไลน์ สเตอร์ลิ่ง... จากเด็กทรยศ สู่แข้ง ชาวอังกฤษ ที่มีค่าเหนื่อยสูงสุด

หลังจากจรดปากกาขยายสัญญากับ แมนชสเตอร์ ซิตี้ เป็นที่เรียบร้อย ก็ทำให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มจากเดิม 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็น 300,000 ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งเขาได้กลายเป็นนักเตะอังกฤษที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดอีกด้วย

ว่าแล้วเราก็ย้อนกลับไปดูไทม์ไลน์ของแข้งวัย 23 ปี รายนี้กันหน่อยว่า กว่าจะมายืนในจุดนี้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

แจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่งแห่ง "หงส์แดง"

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ย้ายเข้ามาสู่ทีมสำรองของ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ด้วยค่าตัวเพียง 600,000 ปอนด์เท่านั้น ก่อนจะฝึกปรือฝีเท้าในทีมชุดเล็กอยู่ 2 ปีก่อนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่และประเดิมในสนามในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกเมื่อปลายฤดูกาล 2011-12 ในเกมที่พ่าย วีแกน 1-2 ซึ่ง สเตอร์ลิ่ง ลงสนามมาในช่วง 6 นาทีสุดท้าย และฤดูกาลหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ก้าวขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่มากขึ้นได้มีโอกาสเล่นเคียงข้าง หลุยส์ ซัวเรส, ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ หรือฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำให้ฝีเท้าได้พัฒนาก้าวไปอีกขั้น

เด็กทรยศแห่งถิ่น แอนฟิลด์

หลังจากเริ่มมีฟอร์มที่กระฉูดแตกกับเครื่องแบบ "หงส์แดง" ทำให้เกิดอาการงอแงขึ้นมาแบบเฉียบพลัน ในฤดูกาล 2014-15 เจ้าตัวปฏิเสธที่จะต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปและขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเพื่อย้ายไปร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ ทำให้สถานการณ์ตอนนั้นของเขากับต้นสังกัดเข้าขั้นวิกฤตเป็นอย่างมาก ก่อนที่ซัมเมอร์ฤดูกาล 2015-16 สเตอร์ลิ่ง จะได้ย้ายทีมสมใจอยากด้วยค่าตัว 49 ล้านปอนด์ แต่มันต้องแลกมาด้วยเสียงก่นด่าของแฟนบอลและกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของแฟน ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ชนะใจ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ฤดูกาลแรกของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในฐานะนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ มานูเอล เปเยกรี่นี่ ก่อนที่กุนซือชาวชิลีจะถูกปลด และเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มารับงานต่อ ซึ่ง เป๊ป ได้เรียกหัวหอกชาวอังกฤษผู้นี้ไปคุยเป็นการส่วนตัวว่ายังอยู่ในแผนการทำทีม เพื่อเสริมสร้างความมั่นจใจให้แก่นักเตะ และ สเตอร์ลิ่ง ก็ไม่ทำให้ผิดหวังหลังซัดไปทั้งสิ้น 10 ประตู กับอีก 21 แอสซิสต์ตลอดฤดูกาล 2016-17 และแน่นอนด้วยฟอร์มโหดแบบนี้เขาได้ชนะใจนายใหญ่คนใหม่ผู้นี้เป็นที่เรียบร้อย

จุดสูงสุดของชีวิตค้าแข้ง

หลังจากโดนวิจารณ์อย่างหนักในฟุตบอลโลก 2018 จากฟอร์มที่ค่อนข้างห่วยแตก แต่แล้วเสียงวิจารณ์เหล่านั้นไปสามารถทำอะไรหัวหอกผู้นี้ได้ เพราะในเกมเปิดสนามฤดูกาลนี้พลันที่เจ้าตัวซัดประตูได้ก็ได้ทำท่าป้องหูเพื่อเป็นการตอบโต้เสียงก่นด่าเขา หลังจากนั้นฟอร์มของ สเตอร์ลิ่ง ก็กระฉูดมากขึ้นเรื่อยๆ จากผลงานลงสนามในฤดูกาลนี้ 14 นัด ยิงไปแล้ว 7 ประตู และทำไปอีก 7 แอสซิสต์ จนมีข่าวว่า เรอัล มาดริด ต้องการตัวของเขาไปลากเลื้อยที่สเปน ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะสยบทุกอย่างด้วยการจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีม "เรือใบสีฟ้า"เพิ่มอีก 3 ปี ซึ่งทำให้เจ้าตัวรับค่าเหนื่อยสูงถึงสัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์ กลายเป็นแข้งชาวผู้ดี ที่ได้ค่าเหนื่อยสูงที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ

ผลงานของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ แมน ฯ ซิตี้

ฤดูกาล 2015-16 ลงสนาม : 47 นัด ยิง : 11 ประตู แอสซิสต์ : 10 ครั้ง ฤดูกาล 2016-17 ลงสนาม : 47 นัด ยิง : 10 ประตู แอสซิสต์ : 21 ครั้ง ฤดูกาล 2017-18 ลงสนาม : 46 นัด ยิง : 23 ประตู แอสซิสต์ : 17 ครั้ง ฤดูกาล 2018-19 ลงสนาม : 14 นัด ยิง : 7 ประตู แอสซิสต์ : 7 ครั้ง