ทีมชาติไทย ประเดิมสนามในศึกอาเซียน คัพ 2018 ได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ด้วยการถล่มติมอร์ เลสเต 7-0 แต่ดูเหมือนเกมดังกล่าวมันจะยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้มากนัก ซึ่งของจริงคงจะรอทีมชาติไทยอยุ่ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (17 พ.ย.)
การปูพรมถลุงติมอร์ 7-0 ดูเหมือนเป็นสกอร์ที่ขาดลอย และเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับทัวรืนาเม้นท์นี้ โดยเฉพาะกองหน้าอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร ที่กดไปคนเดียว 6 ประตู กลายเป็นนักเตะที่ยิงได้มากสุดต่อหนึ่งเกมของทีมชาติไทยไปทันที และน่าจะเป็นดาวซัลโวของซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ด้วย
การชนะติมอร์ เลสเต แบบถล่มทลายไม่ใช่ผลการแข่งขันที่เกินความคาดหมาย เพราะฟุตบอลมันห่างชั้นกันจริงๆ ยิ่งติมอร์เอาเด็กยู 23 มาเล่นเป้นส่วนใหญ่ด้วย มันทำให้เหมือนเป็นบอลเด็กเล่นกับผู้ใหญ่ ยังไงมันก็สู้กันไม่ได้ แต่ต่อให้เอาชุดใหญ่มาก็คงจะไม่ต่างกัน อาจจะแพ้น้อยกว่านี้ แต่ก็โดนยิงเยอะอยู่ดี
ดังนั้นเมื่อจบเกมแรกเลยมีกระแสบางส่วนจากแฟนบอลว่า
"จะดีใจ ทำไมแค่ชนะติมอร์" จริงอยู่ครับว่ามันไม่ได้วัดมาตรฐานอะไรของเรามาก แต่บอลชนะอะ แล้วเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ มันก็ต้องดีใจปะวะ จะให้เสียใจ หรือจะให้แสดงอาการอะไรออกมา ช่วยบอกหน่อยอยากรู้จริงๆ
จริงๆ ก็ไม่จำเป้นต้องสนใจพวกขวางโลกหรอกครับ ถ้าจะไม่เชียร์ ไม่ชอบฟุตบอลไทย ไม่ชอบทีมชาติไทยก็เรื่องของมรึง ก็ไม่ต้องดู ไม่ต้องเชียร์ เอาที่สบายใจ
เอาละกลับมาเข้าเรื่อง พูดถึงเกมกับติมอร์ จริงอยู่มันยังวัดอะไรไม่ได้ชัด โดยเฉพาะในรูปเกมที่เกิดขึ้นเราก็ไม่ได้ถึงกับว่าขึงคุ่ต่อสู้แบบตลอดทั้ง 90 นาที ก็ยังมีจังหวะที่ติมอร์ บุกเข้าใส่มาป้วนเปี้ยนในกรอบเขตโทษได้อยุ่ครั้งสองครั้ง
แต่ก็อาจจะเป็นด้วยแท็คติกของผู้เป็นกุนซืออย่าง ราเยวัช ที่ต้องการจะทดลองดูเกมรับของลูกทีมด้วยว่าเป้นอย่างไร และด้วยสกอร์มันขาดก็เลยไม่ได้โหมบุกบ้าเลือดอะไรขนาดนั้น บอลยังมีอีกหลายแมตช์
สำหรับเกมต่อไปที่จะเจออินโดนิเซีย นี่แหละดูจะเป็นคุ่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อในอาเซียนเราหน่อย หลายคนอาจจะคิดว่า
โหพี่!! ในอาเซียน ทีมไหนก็อ่อนกว่าไทยทั้งนั้นแหละ สู้ไทยไม่ได้หรอก
นั่นเป็นความคิดที่เรามโนขึ้นมาเอง ถามว่าจริงๆ เราเหนือกว่าคู่แข่งในอาเซียนอย่าง
เวียดนาม,สิงคโปร์,มาเลเซีย,อินโดฯ,ฟิลิปปินส์ จริงๆ เหรอ ผมว่ามันยังไม่ขนาดนั้นนะ เราอาจจะเอาชนะทีมเหล่านี้ได้ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้เป็นการชนะแบบขาดลอย ไม่ได้ชนะแบบที่คู่ต่อสู้ทำอะไรเราไม่ได้เลย จริงๆ มันยังคงสูสีกันอยู่
โดยเฉพาะถ้าเราออกไปเล่นเป็นทีมเยือน เจอพวกทีมเหล่านี้ บอกเลยเราไม่ได้จะเอาชนะพวกเขาได้ง่ายๆ แน่นอน อย่างนัดชิงซูซูกิ คัพ สองครั้งหลังสุด ในเกมเยือนที่เราเจอทั้งมาเลย์ และอินโดฯ เกมนอกบ้านเรายังแพ้พวกเขาอยู่เลย ดังนั้นอย่าเพิ่งคิดว่าเราเหนือกว่าทุกทีม
โชคดีที่เกมนี้ที่เราจะเจออินโดนิเซีย เราได้เล่นที่ราชมังฯ ก็ยังพออุ่นใจได้ว่ามีโอกาสจะเอาชนะได้ไม่ยาก แต่ลองคิดกลับกันถ้าเกมนี้ไปเยือนบอกเลยว่างานหนักและอาจจะไม่ชนะก็เป็นได้
ยิ่งทีมชาติไทยชุดนี้จะว่าไปก็ไม่ใช่ชุดใหญ่แบบฟูลทีมเพราะเรายังขาดตัวหลักอีก 4 คนที่เล่นอยู่ต่างประเทศ ดังนั้นเกรดบอลมันจึงดูไม่ต่างกัน แต่ถ้ามี 4 ตัวที่ว่ามาอยุ่ในทีมละก็ โอเคมีความห่างชั้นเพิ่มขึ้นมา
ถ้าจะให้มองเห็นภาพชัดก็ให้ลองนึกถึงทีมฟุตซอลของเรา ที่เพิ่งจะไปคว้าแชมป์อาเซียนมาหมาดๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นแหละเรียกว่าห่างชั้นกันโดยชัดเจน ขนาดเราเอาชุดเล็กนักเตะหน้าใหม่ๆ ไปก็ยังคว้าแชมป์กลับมาได้
อย่างในฟุตซอลของเรานั้นเป็นทีมระดับโลกไปแล้ว ดังนั้นในอาเซียนเจอใครมันก็ชนะ
ดังนั้นถ้าทีมชุดใหญ่จะบอกว่าเรานั้นก้าวข้ามอาเซียนไปแล้ว ตามที่ท่านนายกฯ เคยบอก เราต้องไปอยู่ในระดับเอเชีย หรือระดับโลกให้ได้เสียก่อน ถึงจะพูดคำนั้นได้ ถามว่าตอนนี้มันไปได้หรือยัง มันก็ยังเก่งอู่ในอาเซียนนี่แหละ
ส่วนในระดับเอเชีย เราก็แค่ได้เข้าไปร่วมแข่งขัน และก็เป็นไม้ประดับเท่านั้น ซึ่งในเอเชี่ยน คัพ 2019 ต้นปีหน้า ที่ยูเออี ก็คงจะได้พิสูจน์ฝีเท้าของทีมชาติไทยอีกครั้งว่าจะเลื่อนชั้นเข้าไปอยู่ในระดับเอเชียได้หรือไม่
แต่ก่อนจะไปจุดนั้น ในซูซูกิ คัพ ก็ต้องป้องกันแชมป์ให้ได้เสียก่อน มิเช่นนั้นก็เลิกพูดถึงเอเชี่ยน คัพ จะดีกว่า ถูกไหมครับ
เกมวันเสาร์นี้กับอินโดนิเซีย น่าจะเป็นเกมที่สนุกและหวังว่าแฟนบอลจะเข้ามากันมากกว่านัดแรก อย่างน้อยเจอก็ทีมที่ดูมีชื่อชั้นมากกว่าติมอร์ และยิ่งเป็นอินโดฯ แฟนบอลก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นคู่ปรับในอาเซียนของเรามาอย่างยาวนาน แถมยังเป็นรองแชมป์เก่าด้วย
และเกมนี้ก็เล่นกันในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดก็น่าจะทำให้แฟนบอลมาเชียร์กันได้ง่ายกว่าเกมแรก และเกกมนี้รับรองความมันสืในสนามที่น่าจะใส่กันเต็มร้อย เพราะอินโดฯ ซึ่งคาดว่าคืนนี้จะชนะติมอร์ ได้ ทำให้มี 3 แต้มเท่ากับทีมชาติไทย เกมที่จะเจอกันเสาร์นี้จึงมีเดิมพันที่สูง
อย่างผู้มาเยือนเป็นเกมที่สามแล้ว ถ้าบุกมาแพ้ไทยอีก โอกาสตกรอบสูง ดังนั้นเขาคงไม่ยอมมาแพ้ทีมชาติไทยง่ายๆ แน่นอน ก็เอาเป็นว่าอยากจะเชิญชวนแฟนบอลไทยทุกคน ที่มีเวลาว่าง และสะดวกในการไปเชียร์ทีมชาติไทยที่สนาม ให้ไปเชียร์กันเยอะๆ เพื่อเป็นกำลังใจกับนักฟุตบอลของเรา
ถ้าคุณไม่ได้ไปเชียร์ที่สนาม ก็อย่ามาปากเก่งในโลกโซเชี่ยล บอลไทยใครไม่เชียร์ กูเชียร์
มูซาชิ
