4 ลูก "ทีเด็ด" ทีมชาติไทยนัดปราบอิเหนา

จบลงไปด้วยชัยชนะของ ทีมชาติไทย ในเกมที่เปิดบ้านยิง อินโดนีเซีย ไปด้วยสกอร์ 4 - 2 ซึ่งเป็นการเก็บชัยชนะทั้ง 2 เกมของช้างศึกในเกม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 พร้อมกับโอกาสเข้ารอบที่มีกว่าครึ่งค่อนตัวไปแล้ว

แต่เมื่อวานที่ผ่านมาแม้เราจะยิงได้ 4 ประตูและจบลงด้วยชัยชนะ แต่ก็ไม่ถึงกับเล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่เราทำอะไรอินเหนาไม่ได้เลย ก่อนที่จะมาได้ลูกตีเสมอและลูกขึ้นนำจากลูกตั้งเตะทั้ง 2 ลูก

วันนี้ทีมงาน ขอบสนามบอลไทย ขอไปเจาะ 4 ลูกเด็ดๆ ที่ไม่ใช่การยิงประตู แต่เป็นทีเด็ดในเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้ ช้างศึก สามารถพลิกแซง อิเหนา กลับมาคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ

 

1. ลูกตั้งเตะ

นี่คือข้อแตกต่างของเกมนี้อย่างแท้ทรู ขนาด "โค้ชอินโด" ยังบอกหลังเกมเลยว่าทีมชาติไทยทำลูกตั้งเตะเกมนี้ได้ดีมากๆ ซึ่งถ้าคุณดูจะเห็นว่าการเปิดลูกตั้งเตะของเราแต่ละครั้งกดดันเขาได้ตลอด โดยเฉพาะเท้าซ้ายที่โคตรฉมังของ กรกช วิริยะอุดมศิริ ที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เราพลิกขึ้นนำในครึ่งแรก ซึ่งทำให้เราเล่นได้สบายขึ้น เพราะถ้าเราเสมอหรือตามหลังไปก่อน เชื่อเถอะครึ่งหลังจะโคตรกดดันแน่นอน เนื่องจากเกมนี้ครึ่งแรกเป็นเกมที่อึดอัดมากๆ เราต่อเกม ต่อบอล กันโคตรลำบาก แต่โชคดีที่เราได้ ลูกตั้งเตะ มาช่วยชีวิต และเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เราเอาชนะในเกมนี้ได้  

2. ลูกโต้กลับ

ข้อนี้ผมเขียนบอกไปตั้งแต่เกมแรก (ชนะ ติมอร์ฯ) แล้วว่ามันคือ "ของถนัดราเยวัช" กับเรื่องของ "ลูกรับแล้วโต้" ซึ่งครึ่งแรกเกมกับ อินโด ทีมชาติไทย พยายามทำเกมบุกและพยายามเล่นฉวยโอกาสทำประตูขึ้นนำให้ แต่ภาพรวมต้องยอมรับตรงๆ ว่าก่อนที่จะตีเสมอ 1 - 1 โอกาสของเราน้อยจริงๆ ใม่ใช่แค่เจาะไม่เข้าแต่ทำเกมไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามเหมือนที่บอกว่าเรามีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ และพอเรานำ 2 - 1 อะไรๆ มันเลยเข้าทาง ซึ่งการเล่นครึ่งหลังที่เรารอฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ อินโด และก็ทำได้ พอนำ 3 - 1 ชัดเลยว่าเรารับเต็มตัว แล้วรอโต้เต็มกำลัง ก่อนที่จะได้ประตูที่ 4 จากการประสานงานของ 2 ครั้ง บียู ที่เล่นแบบนี้ในสโมสรอยู่แล้ว พอมาเล่นด้วยกันในทีมชาติก็เลยจบแบบสวยพี่สวย ซึ่งเรื่องเกม "รับแล้วโต้" ต้องยอมรับว่า มิโล เขาเก่งจริงๆ นะ  

3. ลูกเฉียบขาด

ถ้า อินโด คมกว่านี้เราคงโดนนำไปตั้งแต่ต้นเกมแล้ว เพราะโอกาสของเขาแบบเหน่งๆ จากความผิดพลาดของเราเองแต่เขาไม่คมพอทำไม่ได้เอง และจาก "ความคม" ที่บอกตามหัวข้อนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ "สถิติ" เพราะเรามีโอกาสประมาณ 4 ครั้งในครึ่งแรกเราได้ 2 ประตู ส่วนในครึ่งหลังเราก็มีโอกาสไม่มากไปกว่า อินโด เท่าไหร่ แต่ความเฉียบขาดที่เรามีมากกว่าทำให้เรายิงได้อีก 2 ลูก ซึ่งอันนี้ขอชื่นชม "AK9" ที่ตอนนี้กำลังโคตรมั่นใจ ลูกที่ยิงใส่ อินโด เมื่อวานนี้นอกจากจะเป็นลูกที่ 7 ของเขาใน อาเซียน คัพ ครั้งนี้ ถ้าดูการยิงใส่เต็มข้อ ล่อเต็มแข้ง ขนาดนี้ มันแสดงออกว่าเข้าฝักเต็มที่แล้ว ซึ่งเกมนี้มันเข้าเหลี่ยมที่ว่าเล่นไม่ดีมาก แต่ความเฉียบขาดมากกว่าทำให้เราชนะได้  

4. ลูกเชียร์

37,570 คนคือจำนวนคนที่เขามาเชียร์ในสนามเมื่อวานนี้ แบ่งเป็นของ อินโด ตามสายตาประมาณแค่หลักร้อยกว่าชีวิต ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นของเรา ซึ่ง "ลูกเชียร์" ตรงนี้โคตรสำคัญ เพราะมันเหมือนไปเพิ่มความฮึกเหิมให้นักเตะที่อยู่ในสนาม แม้ช่วงที่โดนนำเสียงกองเชียร์เราจะหายไปบ้าง แต่ก็ค่อยๆ เรียกฟิลลิ่งกันกลับมาได้ จนสุดท้ายเราก็ช่วยกันทำสำเร็จกดดันจน อินโด พลาดเอง ก่อนที่จะจบด้วยชัยชนะของเราอย่างสวยงาม    

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)