logo-heading

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วแบบที่เราไม่ทันคิดและตั้งตัว เผลอแป๊ปเดียวเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2018

ฟุตบอลในดินแดนยุโรปกำลังโรมรันฟาดแข้งกันอย่างหนักหน่วงยัดเหยียดโปรแกรมอย่างบ้าคลั่งตลอดเดือนธันวาคม สวนทางกลับลูกหนังเอเชียที่บอกลาซีซั่น 2018 เฉกเช่นเดียวกับเจลีก ญี่ปุ่นที่ปิดฉากขวบปีที่ 26 ไปแบบสุดมันส์ แม้ทีมแชมป์จะจบไปก่อน 3 นัด เมื่อคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ป้องกันโทรฟี่ลีกที่ว่ากันว่ายากจะคาดเดาเอาไว้ได้ รวมถึงการดิ้นรนหนีให้พ้นอันดับ 16 ตำแหน่งที่ไม่มีใครอยากครอบครอบ เพราะต้องไปเหนื่อยเพลย์ออฟกับทีมจากเจลีก2เพื่อลุ้นชิงความอยู่รอด เจลีก 2018 ในหมู่คนไทย คงไม่มีประเด็นอื่นใดที่สร้างความน่าสนใจได้เท่ากับการที่มี 3 ผู้เล่นดีกรีทีมชาติไทย ได้ไปโลดแล่นต่อสู้กับพ่อค้าแข้งชาวปลาดิบ ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซึ่งจะว่าไปนี่คือขวบปีที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตกับการผจญภัยในเจลีก ขอบสนามจัดการผ่าฟอร์มผลงานทั้ง 3 คนในรอบ 10 เดือน ว่ารุ่งหรือร่วงกันบ้าง เนื้อหาทั้งหมดพร้อมแล้ว ไม่รอช้าคลิกเมาท์ไปดูกันเถอะ 1.ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซล โกเบ) รุ่งหรือร่วง! ผ่าฟอร์ม 3 แข้งไทยในเจลีก ปี2018 นี่คือผู้เล่นชาวไทยที่มีข่าวกับสโมสรในเจลีกมายาวนานมาก ตั้งแต่สมัยเล่นอยู่กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ย้ายทีม ”อุ้ม” เฝ้ารอโอกาสกับการไปสัมผัสชีวิตลูกหนังยังต่างแดน และสุดท้ายกลายเป็นทางวิสเซล โกเบ ยื่นข้อเสนอยืมตัว 1 ซีซั่นเข้ามา แน่นอนว่านี่คือเรื่องยากที่จะปฏิเสธ ธีราทร เก็บข้าวของไปร่วมทีมดังแห่งจังหวัดเฮียวโงะ ที่มีลูคัส โพดอลสกี้ เป็นเพื่อนร่วมทีม ด้วยรูปร่างที่ใกล้เคียงกับแข้งยุ่นน่าจะไม่เป็นปัญหาในการปรับตัว เพราะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่ตลอดทั้ง 10 เดือน ผลงาน 28 เกมในเจลีก ทำได้เพียงแค่ 2 แอสซิสต์ ใช้เวลาอยู่ในในสนาม 2,104 นาที เรียกว่าฟอร์มไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจ และทางฝั่งโกเบ เมินเฉยในการหยิบยื่นสัญญาถาวรให้ ประเมินฟอร์ม : สอบไม่ผ่าน 1 ซีซั่นผ่านไปดูเหมือนความมั่นใจของ “บุญจัง” ในเจลีกจะหายไป ฟอร์มการเล่นสวนทางกับการเล่นให้ทีมชาติไทย รวมถึงสมัยค้าแข้งในไทยลีก เราแทบไม่เห็นทีเด็ดทีขาดจากปลายสตั๊ด”อุ้ม” ทั้งฟรีคิกหรือจังหวะการเปิดบอลที่แม่นยำไม่สามารถแผลงฤทธิ์ออกมาได้อย่างที่วิสเซล โกเบคาดหวัง แถมช่วงแรกหลุดไปเป็นสำรองบ่อยๆ  กลายเป็นนักเตะที่ขาดความมั่นใจไปซะอย่างงั้น ก่อนจะฮึดกลับมาเป็นตัวจริงในภายหลัง แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นให้น่าจดจำ ถ้าหากธีราทร ได้อยู่ค้าแข้งในเจลีกต่อ คงมี 2 เหตุผลคือ 1.ฆวน มานูเอล ลิโญ่ กุนซือชาวสแปนิช ที่เข้ามารับงานวิสเซล โกเบ ช่วงท้ายซีซั่นมองว่าหมอนี่ยังมีประโยชน์อยู่กับทีมอาจมีการต่อสัญญายืมตัว หรือ2.มองหาสโมสรใหม่เจลีกที่ขนาดทีมไม่ใหญ่และขาดแคลนแบ็คซ้าย 2.ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า) รุ่งหรือร่วง! ผ่าฟอร์ม 3 แข้งไทยในเจลีก ปี2018 หัวหอกหมายเลข 1 ทีมชาติไทยที่ปักหลักในตำแหน่งนี้ยาวนานมาเกือบ 10 ปี เขาคือนักเตะไทยที่ได้ไปโลดแล่นในยุโรปกับอัลเมเรีย มาแล้ว แถมเมื่อสักประมาน 5 ปีก่อน จูบิโล่ อิวาตะ ก็เคยให้ความสนใจในตัว “มุ้ยซัง” มาก่อนด้วยเช่นกัน ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งโอกาสไปเล่นบอลอาชีพในญี่ปุ่น แวะเวียนมาหาอีกครั้งในช่วงชีวิตที่กำลังเข้าใกล้เลข 30 บอร์ดบริหารซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อยื่นข้อเสนอยืมตัว 1 ฤดูกาล ก่อนจะตกลงดีลเรียบร้อยแล้ว เปิดตัวชูเสื้อหมายเลข 31 ทันที ศูนยหน้าผู้เงียบขรึมรายนี้ เปิดหัวได้สวยหรู เบิกสกอร์แรกได้สีเสื้อทีมใหม่ตั้งแต่เกมแรก ในนัดที่ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า เฉือนชนะคอนซาโดเล่ ซัปโปโร 1-0 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นทุกสปอร์ตไลท์จับจองไปที่”มุ้ย” เต็มที่ เนื่องจากเริ่มต้นได้งดงาม แต่จากการที่ฮิโรชิม่า เป็นบอลเน้นเกมรับแล้วโต้กลับ มันไม่ใช่สไตล์ถนัดของกองหน้ารายนี้ จนแทบนับครั้งได้ที่จะอยู่ครบ 90 นาที เมื่อนับตัวเลขผลงาน 32 เกม ทำ 6 ประตู และ 3 แอสซิสต์ ค่าเฉลี่ย 1 ประตูจะเกิดขึ้น 251 นาที และอยู่ในสนาม 1,582 นาที ประเมินฟอร์ม : ธีรศิลป์ มาอยู่ในทีมที่ระบบการเล่นไม่เอื้อประโยชน์ที่จะดึงความสามารถที่แท้จริงออก การที่ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า เลือกเล่นกองหน้า 2 คน แต่ 1 คนต้องไปเล่นหน้าต่ำเพื่อวิ่งไล่บอลจากคู่แข่ง ที่สำคัญเขาถูก ฮิโรชิ โจฟูคู สอนเสมอในเวลาซ้อมว่า คุณไม่มีบอล คุณต้องวิ่งกดดันเพื่อแย่งบอลมาอยู่ในการครอบครองให้ จะยื่นอิสระ ไม่ช่วยเพื่อนร่วมทีม มันเป็นไปไม่ได้ สไตล์การเล่นของกองหน้าชาวไทยวัย 30 ปีจึงแตกต่างจากสิ่งที่เขาแสดงออกในไทยลีกและทีมชาติ แม้ภาพรวม “มุ้ย” จะเป็นนักเตะอันดับ 2 ภายในทีมที่ยิงประตูได้มากสุด เป็นรองแค่แพทริค แต่เมื่อดูฟอร์มแล้ว ในฐานะคนที่เป็นกองหน้าก็ควรจะยิงให้เตะหลัก 10 ประตูให้ได้เป็นอย่างน้อยขึ้นไป ซึ่งเมื่อเอาข้อมูลสถิติมาพูดกัน ธีรศิลป์ แดงดา ทำผลงานไม่เข้าเป้าที่ซานเฟรซเซ่ ตั้งเอาไว้ จนเรื่องสัญญาซื้อขายเป็นอันเงียบกริบไป 3..ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร) รุ่งหรือร่วง! ผ่าฟอร์ม 3 แข้งไทยในเจลีก ปี2018 จอมทัพร่างเล็กหมายเลข 18 ผู้ที่มาชิมลางเจลีกร่วงหน้า 6 เดือนเมื่อปี 2017 มันจึงให้”ชนาคุง” เข้าใจรสชาติที่แท้จริงบอลอาชีพในแดนอาทิตย์อุทัย ด้วยอุปนิสัยที่ร่าเริงเฮฮานั้นจึงทำให้ หมอนี่ปรับตัวได้สบายไร้ปัญหา สนิทชิดเชื้อกับเพื่อนร่วมทีมในสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร แทบทุกคน ปี2018 “คอนซะ” มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือได้ มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือประสบการณ์สูงเข้ามาทำทีม ก่อนที่จะมอบความไว้วางใจให้แข้งชาวไทยหมายเลข 18 ได้ปักหลักเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหลังกองหน้า การประสานงานเป็นแนวรุกร่วมกับ เจย์ โบธรอยด์, เคน โทกูระ,โคจิ มิโยชิ เคมีของทั้ง 4 คนลงตัวจนฟอร์มในสนามของซัปโปโร ยกระดับจากเดิมคือทีมหนีตายกลายเป็นหัวแถวเจลีก เมื่อ “ชนาคุง” เล่นได้โดดเด่นสร้างความแตกต่างให้แก่ซัปโปโร จนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ ทีมดังแห่งเกาะฮอกไกโด ไม่รอช้ายื่นเงินมหาศาลดึงแข้งชาวไทยเป็นร่วมทีมแบบถาวร ประเมินฟอร์ม : ด้วยสไตล์การเล่นที่แตกต่างกว่าผู้เล่นชาวญี่ปุ่นที่มีในตลาดเจลีก แม้รูปร่างเล็กแต่ถูกทดแทนด้วยทักษะการครอบครองบอล แถมยังเลี้ยงบอลจี้กินตัวใส่คู่แข่งได้เยี่ยม  จนยากที่จะมาคนมาจับทางได้  แถมยังขยันวิ่งไล่บอลออกจากเท้าคู่แข่งได้แบบไม่มีหยุด ผลงาน 30 เกม ยิงไป 8 ประตู พร้อมกับ 2 แอสซิสต์ พาทีมขึ้นจบอันดับ 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงสุดนับตั้งแต่เล่นเจลีก เรียกว่า “ชนาคุง” สอบผ่านทุกประการในการเป็นผู้เล่นคนสำคัญของสโมสรแห่งนี้

เอ็มเร่

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline