สถิติแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ!จารึก 4 ทีมอังกฤษ เสียแค่ 6 ประตู จาก 15 เกม

จากการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ ต้องบอกเลยว่ามีหลายทีมที่ทำผลงานได้ดีเกินคาด เก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ หรือ บางทีมก็โชว์ฟอร์มได้ห่วยแตก ตารางคะแนนร่วงไปแบบน่าตกใจ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปแล้ว 15 นัด ได้มีอีก 1 ทีม ที่ถูกจารึกเข้าไปในสถิติของวงการลูกหนังแดน "ผู้ดี" ว่า เสียประตูไปเพียงแค่ 6 นัด ซึ่งเกิดขึ้นมาแค่ 5 ครั้ง เท่านั้น

เอาเป็นว่าไปดูกันทีมไหนเคยสร้างผลงานเสียประตูอันน้อยนิดไว้บ้าง เมื่อออกสตาร์ทไปแล้ว 15 เกม

5. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1985-86 ก่อนที่ เซอร์ อเล็กเซอร์กูสัน จะเข้ามารับงานคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1986 และ ได้สร้างความยิ่งใหญ่บนเวทีลูกหนังแดน "ผู้ดี" นั้น คนที่ได้ทำงานคุมทีม "ปีศาจแดง" ก่อนหน้า ก็คือ รอน แอ็ตกินสัน เมื่อซีซั่น 1985-86 รอน แอ็ตกินสัน มีโอกาสพา "ปีศาจแดง" กลับมาทวงบัลลังค์แชมป์ลีก ดิวิชั่น 1 อีกครั้ง เพราะออกสตาร์ท 10 นัดแรกชนะรวด และ ผ่านไป 15 นัด ยังไม่แพ้ใคร อีกทั้งเสียแค่ 6 ลูกเท่านั้น เรียกว่าเป็นทีมแรกๆที่ทำแบบนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้ขึ้นนำจ่าฝูงแบบชิลล์ๆ อย่างไรก็พอเข้าสู่ช่วงปลายปี ลากยาวเข้าสู่ศักราชใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ รอน แอ็ตกินสัน ฟอร์มตกดื้อๆ จากจ่าฝูง สุดท้ายจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 และ ปล่อยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ไป 4. อาร์เซน่อล 1990-91 หลายๆคน อาจจะเกิดมาทันดูฟุตบอล อาร์เซน่อล ในแบบฉบับของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่เล่นฟุตบอลสวยงาม เน้นการต่อบอลกับพื้น และ ชิ่งตามช่อง เขาเป็นคนมาปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ทั้งหมด แต่ทว่าความจริงแล้วมีอดีตโค้ช "ไอ้ปืนใหญ่" ที่มีชื่อว่า จอร์จ เกรแฮม เคยจารึกเสียประตูน้อยสุด เมื่อผ่านไป 15 นัดแรก ในฤดูกาล 1990-91 ยังคงใช้ชื่อในแบบฉบับ ดิวิชั่น 1 เดิม และ อาร์เซน่อล ในยุค จอร์จ เกรแฮม จะบอกว่าเป็นเจ้าพ่อเกมรับเลยก็ว่าได้ ทรงบอลเล่นน่าเบื่้อ ยิ่งถ้าขึ้นนำคู่แข่งล่ะก็ ใช้วลีปิดไฟนอนได้เลย เพราะเน้นผลการแข่งขัน ดึงเกม ถ่วงเวลา แต่ชัวร์ถึง 3 คะแนน เพราะมีแผงแบ็คโฟร์ในตำนาน แต่ในความน่าเบื่อ สุดท้ายแล้ว จอร์จ เกรแฮม ก็นำพาแท็คติคเกมรับของเขา คว้าแชมป์ลีกในปีนั้นได้สำเร็จ 3. เชลซี 2004-05 การมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เขย่าวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สั่นสะเทือนมากจริงๆ เพราะก่อนที่ โรมัน อบราโมวิช จะเข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี แบบเต็มตัว เหมือนจะมีแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล เท่านั้น ที่ตบตีเรื่องการคว้าแชมป์ จนกระทั่งการปรากฏตัวของ "เดอะ สเปเชียล วัน" มูรินโญ่ ได้เดินหน้าโมเครื่อง เชลซี หลายๆตำแหน่ง โดยเฉพาะเกมรุก พร้อมรักษาตัวเก่งของทีมต่อไป ซึ่งทุกอย่างมันดูกลมกลืนเหลือเกิน และ ออกสตาร์ทได้อย่างสุดหรู เริ่มจากเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ก็มีชนะ ลิเวอร์พูล ถึงแม้ 15 นัดแรก มูรินโญ่ ไม่ได้ทำทีมแบบยิงคู่แข่งกระจาย แต่กระนั้นเรื่องเกมรับสุดติ่งมาก เพราะเสียไปแค่ 6 ลูก โดยเป็นการเก็บคลีนชีต 9 นัด พร้อมกับจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรก 2. เชลซี 2008-09 หลังจากที่ เชลซี ได้มีการปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่ง ก็ได้มีการแต่งตั้ง หลุยซ์ เฟลิปเป้ สโคลารี่ อดีตเฮดโค้ชผู้พา บราซิล คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2002 เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ ต้องบอกเลยว่าตอนที่ "บิ๊กฟิล" เริ่มคุมทีม เชลซี เข้าสำนวนที่ว่า "เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน" สโคลารี่ เปิดตัวกับ เชลซี ได้อย่างสวยงาม ชนะ 3 จาก 5 นัด ซึ่ง 2 นัดที่เหลือเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกทั้ง 15 เกมแรก ก็เสียประตูแค่ 6 ลูกเท่านั้น แต่ยิ่งเล่นไป เหมือนทองยิ่งลอก ฟอร์มออกทะเลไปไกล โดยเฉพาะช่วงส่งท้ายปี 2008 เข้าสู่ปี 2009 สโคลารี่ ทำผลงานเกมเยือนได้แย่มาก ไม่เสมอก็แพ้ ทำให้สุดท้ายแล้ว "เสี่ยหมี" สั่งปลดในเดือนกุมภาพันธ์ หลังแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 และนำ กุส ฮิดดิ้งค์ เข้ามาแทน ก่อนที่ในลีกจะจบอันดับ 3 1. ลิเวอร์พูล 2018-19 เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล ก็อาจจะไม่เชื่อสายตาทีมตัวเองเหมือนกัน ว่าจะมีเกมรับที่เหนียวแน่นมากขนาดนี้ เพราะหากย้อนกลับไปเอาแค่สัก 3-4 ปี "หงส์แดง" ยังคงเป็นทีมที่เสียประตูอย่างง่ายดาย จนเคยมีวลีเด็ดว่า "เสียเตะมุมเหมือนเสียจุดโทษ" เพราะมักลงโทษอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยเม็ดเงินที่ ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มทุนลงไป ทั้งคว้าตัว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังค่าตัว 75 ล้านปอนด์ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตู 65 ล้านปอนด์ ที่แฟนบอลทีมอื่นบอกว่าแพงนักแพงหนา มาวันนี้คำตอบก็เห็นว่า ทุกเพนนีกำลังคุ้มค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้ง 2 คน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ทำให้ ลิเวอร์พูล มีลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้เต็มตัว หลังเสียไปเพียงแค่ 6 ประตู จาก 15 เกมแรก เท่านั้น และ ยังไร้พ่าย