logo-heading

นับตั้งแต่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจประกาศปลด โชเซ่ มูรินโญ่ แบบกลางคัน เพื่อไม่ทำให้บรรยากาศของสโมสรแย่ลงไปกว่านี้ ก็มีกระแสพุ่งเป้าแทบไปในทิศทางเดียวกันว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เฮดโค้ช ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีโอกาสได้เข้ามากุมบังเหียนแบบเต็มตัวช่วงซัมเมอร์หน้า เพราะ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นเหมือนโค้ชที่ไว้ใช้คั่นหนังสือรอเวลาเท่านั้น

แน่นอนว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้ไม่มากก็น้อย เพราะ โปเช็ตติโน่ พิสูจน์ฝีมือให้แฟนบอลได้เห็นเป็นขวัญตาแล้ว กับการทำให้ "ไก่เดือยทอง" ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ตลอด ทำทีมสไตล์ฟุตบอลเกมบุก เรียกว่า DNA ตรงกับ "ปีศาจแดง" เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ "พอช" อาจไม่คิดที่จะย้ายไปกุมบังเหียนทีมอื่น และ เลือกปักหลักทำงานให้กับ "สเปอร์ส" ต่อไป ซึ่งเหตุผลที่ว่านั้นมีดังนี้

1. ความแข็งแกร่งของบรรดานักเตะอนาคตไกล ถ้าหากจะบอกว่า "สเปอร์ส" ชุดนี้ คือชุดแห่งอนาคต ที่พร้อมจะไล่ล่าถ้วยมาประทับไว้ที่สนามแห่งใหม่ ก็พูดได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ได้สร้างขุมกำลังที่แข็งแกร่ง กับ ผู้เล่นที่อายุไม่ถึง 25 ปี หรือเลยวัยเบญจเพส มาเพียงแค่ไม่นานเท่านั้น แฮร์รี่ เคน (25 ปี), คริสเตียน อีริคเซ่น (26 ปี), เดเล่ อัลลี (22 ปี), ซน-ฮึง มิน (26 ปี), ลูคัส มูร่า (26 ปี) และ เอริค ลาเมล่า (26 ปี) ไม่รวมกองหลังที่มีแค่ แยน แฟร์ต็องเก้น กับ อูโก้ ยอริส ผู้รักษาประตตัวหลัก ที่มีอายุแตะหลักเลข 30 (ในตัวแหน่งตัวจริง) เห็นไหมครับว่าอย่างน้อยๆชุดนี้ยังไปได้อีก 3-4 ปี ถ้าไม่มีใครย้ายไปเสียก่อน ขนาด "ไก่เดือยทอง" แทบจะไม่ได้ใช้เงินซื้อนักเตะมาเสริมทัพเลยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ โปเช็ตติโน่ ก็ทำให้เห็นเลยว่า "ทีมกูดีอยู่แล้ว จะใช้เงินซื้อไปทำไม" เรียกว่านักเตะแต่ละคน ดูดีกว่าหลายๆคนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ด้วยซ้ำ ฉะนั้นเมื่อพิจารณากับขุมกำลังอันแข็งแกร่ง ที่ โปเช็ตติโน่ ขุนสร้างมากับมือ บวกกับ อนาคตที่วางเอาไว้ บางทีนี้อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เฮดโค้ชชาวอาร์เจนติน่า เลือกอยู่กับสโมสรต่อไปยาวๆ 2. ปรัชญาการทำทีม และ ความกดดัน ผลงานของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มันเป็นการสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดแจ๋วเกี่ยวกับการทำทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ตลอด 4 ปีกว่าๆ หากนึกภาพไม่ออก ก็ขอเอาเกมล่าสุดที่ "ไก่เดือยทอง" บุกไปเอาคืน อาร์เซน่อล คู่อริตลอดกาล 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ โดยเกมนัดนั้น "สเปอร์ส" ครองบอลได้มากถึง 66 เปอร์เซ็นต์ ช่วงออกสตาร์ท 25 นาทีแรก ไล่เพรสซิ่งสูงตั้งแต่แดนหน้า, ปิดช่องว่างของคู่แข่ง ไล่บี้แบบหายใจรดต้นคอ โปเช็ตติโน่ เป็นคนที่มีตัวตนไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือการให้โอกาสกับผู้เล่นเยาวชน อย่างข้อ 1 ที่ได้กล่าวไว้ พัฒนาให้ผู้เล่นคนนั้นแข็งแกร่ง และ คิดถึงการทำทีมระยะยาวอยู่เสมอ ซึ่งมันทำให้ "สเปอร์ส" มีลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวสักทีในซีซั่นนี้ .. แน่นอนเรื่องประวัติศาสตร์ "ไก่เดือยทอง" เป็นรอง แมนฯ ยูไนเต็ด หลายขุม ฉะนั้นเรื่องความกดดันอาจมีไม่เท่ากับ "ปีศาจแดง" ต่อให้จะมีเป้าหมายคือแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหมือนกัน แต่กับ แมนฯ ยูไยเต๋ด เป็นสิ่งที่แฟนบอลอาจอดใจรอไม่ไหง เพราะนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป ก็ยังไม่มีโค้ชคนไหนเสกแชมป์ลีกมายังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เลย ฉะนั้นเรื่องความกดดันอาจะมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจ เพราะถ้า 2 ปีขึ้น โปเช็ตติโน่ ไม่อาจตอบโจทย์ "เร้ด เดวิลส์" มีโอกาสที่จะไม่ได้ไปต่อ ผิดกับทางสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ผ่านมา 4 ปี ถึงแม้ยัง พอช ไร้แชมป์ แต่ไม่มีข่าวเรื่องความกดดันเกี่ยวกับตำแหน่งกุนซือเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีแต่ทีมนั้น ทีมนี้ อยากจะได้ตัว บางครั้งสุภาษิต "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก" อาจจะเลือกอยู่ "สเปอร์ส" ต่อไป เพราะเขาทำงานได้อย่างสบายใจ และ ก็ได้ลุ้นแชมป์เหมือนเดิม 3. สนามแห่งใหม่ กับ อนาคตที่สดใสรออยู่ ถึงแม้ว่าสนามแห่งใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มันจะดูล่าช้าไปกว่ากำหนดเยอะ ซึ่งอาจจะลากยาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า แต่กระนั้นเมื่อใดก็ตามที่สังเวียนแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ ก็จะทำให้ "ไก่เดือยทอง" เข้าสู่บทใหม่อันน่าตื่นเต้น ด้วยความจุราวๆ 62,000 ที่นั่ง มันจะช่วยเพิ่มสถานะของสโมสร ให้ดูมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น แฟนบอลไหลมาเทมามากขึ้น เพราะผลงานพวกเขากำลังลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ กรุยทางสู่รอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากจะมีสิ่งที่ขาดหายไป ก็คงเป็นถ้วยแชมป์ที่รอมาวางประดับไว้เท่านั้น แต่ด้วยการทำทีมของ โปเช็ตติโน่ นั้น ทำให้ความรู้สึกการคว้าโทรฟี่สักใบ ก็ไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อม ซึ่ง คาราบาว คัพ ดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ เมื่อสนามเสร็จแล้ว สถานะทางการเงินก็จะดีขึ้นตามลำดับ และ ถ้าหากผลงานกระฉ่อนตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเกมลีก หรือ ฟุตบอลถ้วย ยิ่งเป็นโทรฟี่ "ยูซีแอล" มันจะทำให้การดึงดูดนักเตะง่ายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อถึงเวลานั้น โปเช็ตติโน่ อาจจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในการไล่ล่าซื้อนักเตะมาเพิ่มความแข็งแกร่ง และ อาจไม่จำเป็นจะต้องไปขวนขวายความสำเร็จกับสโมสรไหนอีกแล้ว

- ฮาย ฮาวดี้ -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline