อำลาตำนาน! รวม 10 โมเมนต์เด็ด ของ เชส ฟาเบรกาส บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก

จากน้ำตาลูกผู้ชายของ เชส ฟาเบรกาส เมื่อคืนนี้ในเกม เอฟเอ  คัพ ที่เอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บวกกับอีกหลายอิริยาบถ มันค่อนข้างชัดเจนว่านั่นคือเกมสุดท้ายในสีเสื้อของ เชลซี แล้ว

เชส ฟาเบรกาส จากแข้งระดับเวิลด์คลาสกลายเป็นแค่ตัวอะไหล่สำรองเท่านั้นในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ และพักหลังมีกระแสข่าวโหมหนักมากว่าในตลาดมกราคมนี้พี่แกได้ตัดสินใจเตรียมย้ายไปค้าแข้งให้กับ โมนาโก ซึ่งการปิดดีลน่าจะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้ ดังนั้นการแสดงของ เชส ในเกมล่าสุดนั่นคงเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าทุกอย่างนั้นคือเรื่องจริง เพื่อเป็นการส่งท้ายและทิ้งทวนถึงยอดมิดฟิลด์จอมเทคนิคคนนี้ก่อนจะอำลาสังเวียน พรีเมียร์ลีก ทาง 'ขอบสนาม' เลยจัดมาให้สำหรับ 10 โมเมนต์สำคัญของ เชส ฟาเบรกาส กับการผจญภัยใน อังกฤษ

ผู้เล่นอายุน้อยสุดที่ได้เปิดตัวกับ อาร์เซน่อล

Thank you Cesc Fabregas Pizza Pepperoni.
Glad you won what you couldn't with Arsenal.#cesc500 #FabregasIsMagic pic.twitter.com/EcrNue4Vrn

— Nurdin (@Ndnsk) January 5, 2019

ปัจจุบัน เชส ฟาเบรกาส อายุก็ปาเข้าไป 31 ปีอยู่ในช่วงที่เริ่มโรยรา แต่ในเรื่องของอายุมันก็มีสถิติที่น่าจดจำสำหรับตัวเขาซึ่งมันยังคงเป็นสถิติในขั้นสุดจนถึงตอนนี้ เพราะพี่แกคือเจ้าของสถิติผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล หลังจากย้ายมา บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2003 โดยได้ลงเล่นในเกม ลีก คัพ ที่เจอกับ ร็อทเธอร์แฮม ยูไนเต็ด กับตัวเลขอายุ 16 ปีกับอีก 177 วัน

ปา พิซซ่า ใส่ ป๋าเฟอร์กี้

https://t.co/IlFMTCC7Qx - Misteri 13 Tahun Terungkap! Fabregas Lempar Pizza ke Sir Alex pic.twitter.com/1igzIZs3cG

— Bola (@Bolanet) October 5, 2017

ย้อนเวลากลับไปสมัยยังเป็นดาวรุ่งแจ้งเกิดใหม่ๆ ของ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2004 ในวันที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นวันที่ 'ไอ้ปืนใหญ่' ถูกหยุดสถิติไร้พ่ายเอาไว้ที่ 49 เกมหลังโดนยัดเยียดความปราชัยด้วยสกอร์ 0-2 แมตช์นั้นเป็นเกมที่ดุเดือดมากเหล่าบรรดาผู้เล่นเตะใส่กันไม่มียั้ง แถมยังมีเหตุยกพวกตะลุมบอนกันอีกต่างหากในอุโมงค์หลังจบเกม ก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผู้บัญชาทัพ 'ปีศาจแดง' จะโดนมือดีปาพิซซ่าใส่ ซึ่งในปี 2017 หรืออีก 13 ปีต่อมา เชส ฟาเบรกาส ออกมายืดอกรับสารภาพว่าเขาคือมือดีที่ปาพิซซ่าในวันนั้น

กัปตันทีมของ อาร์เซน่อล

Thanks for the memories Cesc ⚽️?⚪️ #arsenal #Fabregas pic.twitter.com/B1IfeqNq1B

— BenRoberts (@elverdaderosBR) January 5, 2019

ถึงแม้จะเป็นชาวกาตาลันโดยสายเลือดแต่ เชส ฟาเบรกาส ก็ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ตั้งแต่อายุ 15 ปี และใช้เวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นในการพัฒนาและยกระดับตัวเองจนก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่วัย 17 ปี และเมื่อถึงคราวที่ ปาทริซ วิเอร่า ยอดมิดฟิลด์กัปตันทีมได้ลาจากไปอยุ่กับ ยูเวนตุส ทาง ฟาเบรกาส ก็ถูกผลักดันส่งเสริมจนกลายเป็นจอมทัพของทีมอย่างเต็มตัวพร้อมสืบทอดตำนานเสื้อหมาย 4 จาก วิเอร่า จนกระทั่งในปี 2008 เขาก็กลายเป็นกัปตันทีมของ 'ไอ้ปืนใหญ่' ในที่สุดแถมยังได้รับการยกย่องในเรื่องความอัจฉริยะในการผ่านบอลตั้งแต่อายุแค่ 21 ปีอีกด้วย

โซโล่เดี่ยวใน นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้

เชส ฟาเบรกาส ได้โอกาสลงเล่นในศึก นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ มาเยอะในช่วงเวลาที่ยังเป็นนักเตะของ อาร์เซน่อล และถ้าจะให้พูดช่วงเวลาที่น่าจดจำสุดของพี่แกที่เจอกับคู่อริตลอดกาลอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็คงเป็นแมตช์ที่เจอกันวันที่ 31 ตุลาคม 2009 หลังจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำนาที 42 ตอน สเปอร์ส เอาบอลมาเขี่ยลูกเล่น วิลสัน พาลาซิออส เสียบอลให้ อาร์เซน่อล ก่อนที่ เชส จะโซโล่เดี่ยวจากกลางสนาม โดยกระชากแหวกผ่าน พาลาซิออส กับ ทอม ฮัดเดิลสตัน ถัดมาก็แตะผ่านตัว ด่านสุดท้ายอย่าง เลดลี่ย์ คิง อย่างง่ายดายก่อนหลุดเข้าไปยิงไม่พลาด ช่วยให้ อาร์เซน่อล หนีเป็น 2-0 ใน 2 นาที ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยสกอร์ 3-0

สังหารโทษทีมเก่าด้วยความเจ็บปวด

อาร์เซน่อล มีโอกาสได้เจอกับ บาร์เซโลน่า บ่อยครั้งในช่วงยุคปี 2000 แต่สำหรับ เชส ฟาเบรกาส หนึ่งในโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดตอนเจอ บาร์ซ่า ทีมเก่าก็คงเป็นปี 2010 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ช่วงท้ายเกมตอน อาร์เซน่อล โดนนำ 1-2 ฟาเบรกาส โดน การ์เลส ปูโยล ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะลุกมาสังหารจุดโทษเป็นประตูตีเสมอ 2-2 แต่หารู้ไหมว่าก่อนพี่แกจะลุกขึ้นมาซัดจุดโทษนั้นกระดูกน่องข้างขวามันได้แตกไปแล้วส่งผลให้ เชส อดเล่นเกมที่เหลือของซีซั่นทันที

เรื่องวางบอลแม่นๆ ขอให้บอก

ไม่แปลกใจเลยที่ เชส ฟาเบรกาส จะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่วางบอลแม่นที่สุดในโลก ถ้าใครได้ชมเกมที่ เชลซี แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-3 ช่วงปลายซีซั่น 2014-15 ในจังหวะที่หยุดและผู้เล่นทั้ง 2 ทีมได้ไปรุมประท้วงผู้ตัดสิน ด้วยความที่ เชส ว่างจัดก็เลยลองชิพบอลเล่นๆ แต่ลูกบอลนั้นมันดันลอยเข้ามาในวงที่คนกระจุกอยู่เยอะๆ ไม่รู้ว่าพี่แกตั้งใจหรือไม่แต่ลูกบอลนั้นมันลอยไปโดนศีรษะของ คริส บรันท์ เต็มๆ ก่อนที่ผู้เล่น 'เดอะ แบ็กกี้ส์' จะแห่กันวิ่งไปเอาเรื่อง ก่อนที่เหตุการณ์จะสงบลงและ เชส โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก

อยู่กับ อาร์เซน่อล มานานถึง 8 ปีไม่เคยได้โอกาสชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก (ตอนฤดูกาล 2003-04 เชส เป็นดาวรุ่งเพิ่งย้ายมา และได้ลงเล่นไปแค่ 3 นัดเท่านั้นเลยไม่ได้เหรียญแชมป์รวมถึงการจดบันทึก) แต่การคัมแบ็กสังเวียน พรีเมียร์ลีก ครั้งที่ 2 ด้วยมือของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่กระชากตัวจาก บาร์เซโลน่า มา เชลซี ปีนั้น เชส ฟอร์มฮ็อตมากๆ กับการทำไป 18 แอสซิสต์ และสุดท้ายก็ได้ชูถ้วยแชมป์สมใจ

ประตูที่สาวก เดอะ กันเนอร์ส เจ็บปวดใจมากสุด

เชส ฟาเบรกาส เป็นเด็กปั้นจากสโมสร บาร์เซโลน่า แต่ช่วงชีวิตส่วนใหญ่มักถูกจดจำในฐานะแข้งลูกหม้อของ อาร์เซน่อล มากกว่า เพราะอยู่มานานหลายปี อย่างไรก็ตามพี่แกกลับเลือกย้ายไป เชลซี ตอนกลับมา อังกฤษ รอบ 2 ในปี 2014 ทั้งที่มีข่าวเชื่อมโยงกับ 'ไอ้ปืนใหญ่' เหมือนกัน และนั่นก็ได้สร้างความเจ็บปวดใจให้กับแฟนๆ 'เดอะ กันเนอ์ส' ไม่ใช่น้อย แต่มันเจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อได้เห็น เชส ฟาเบรกาส ยิงประสุดสวยใส่ทีมเก่าของเขา โดยเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2017 เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก เคลียร์บอลพลาดไปเข้าทาง เชส ยืนอยู่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะงัดบอลลอยโด่งและย้อยซุกตุงตาข่ายไปแบบสุดงาม ซึ่งนั่นคือประตูแรกและประตูเดียวในสีเสื้อ เชลซี ที่ยิงใส่ อาร์เซน่อล ได้ (เกมนั้น เชลซี ชนะ 3-1 ที่ เดอะ บริดจ์)

1 ในจอมแอสซิสต์แห่งประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

End of an era? legend #ChelseaFC #Fabregas good luck at As monaco pic.twitter.com/CeuYg95Nvj

— Kvnn.rg (@_kvnnrg) January 5, 2019

เชส ฟาเบรกาส ได้รับการยกย่องว่ามีคลาสระดับโลกเรื่องของการจ่ายบอลและวางบอลที่แม่นยำไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว เขาคือผู้เล่นคนแรกของศึก พรีเมยร์ลีก ที่ทำแอสซิสต์ได้ 6 เกมติดต่อกัน (2 เกมสุดท้ายกับ อาร์เซน่อล และ 4 เกมแรกกับ เชลซี) และปัจจุบันก็รั้งตำแหน่งดาวแอสซิสต์สูงสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ที่อันดับ 2 ที่ 111 ครึ่ง ส่วนอันดับ 1 อยู่คงกระพันมากนั่นคือ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ 162 ครั้ง

บ๊ายบาย เชลซี

ย้อนกลับไปยังพารากราฟข้างต้นอย่างที่ทราบกันว่า เชส อายุ 31 ปีแล้วเหลือเวลาในเส้นทางระดับสูงไม่มาก ดังนั้นการได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับเขา และในช่วงหลังพี่แกไม่ได้รับมันเลยในยุคของ อันโตนิโอ ก็องเต้ ตลอดจนปัจจุบันในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ฉะนั้นการย้ายทีมคือสิ่งที่เขาควรทำ และ โมนาโก ในยุคของ เธียร์รี่ อองรี ก็พร้อมมอบโอกาสนั้นให้ ดูแล้วมันคงเกิดขึ้นจริง ปฏิกิริยาของและน้ำตาของ เชส พาเบรกาส ตอนโดนเปลี่ยนตัวออกมันสัมผัสได้เลยว่าเขามีความสุขขนาดไหนกับชีวิตที่ เชลซี พี่แกเคยพูดอยู่ตลอดว่าการใช้ชีวิตใน ลอนดอน กับ เชลซี มันคือที่สุดแล้ว เพราะครอบครัวก็ชอบเหมือนกัน แต่ด้วยเรื่องของอนาคตมันทำให้เขาต้องตามความสุขครั้งใหม่