logo-heading

พรุ่งนี้ (10 ม.ค.62) แล้วที่ทีมชาติไทย จะลงสนามเกมที่สองของเอเชียน คัพ 2019 พบกับทีมชาติบาห์เรน ซึ่งเป็นเกมที่หลายคนต่างเฝ้ารอ เพื่อดูผลงานของทีมช้างศึก ที่ไม่มีลุงแก่ๆ ชาวเซอร์เบีย ยืนอยู่ข้างสนามแล้วนั้น มันจะเป็นอย่างไร

ไม่มีใครรู้หรอกว่าผลการแข่งขันของวันพรุ่งนี้ จะออกมาแบบไหน ซึ่งเมื่อบอลมันยังไม่เตะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้ผมว่ามันออกได้ทั้งสามหน้า ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติไทย เอาชนะคู่แข้งได้แบบเซอร์ไพรส์ หรืออาจจะมายันขอแค่หนึ่งแต้ม หรือไม่ก็อาจจะแพ้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากสุด แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่าเกมวันพรุ่งนี้ เราจะได้เห็นอะไรที่แตกต่างไปจากที่เราดูทีมชาติไทย ยุคลุงวัช กันมาปีกว่าๆ ผมว่าเราจะเล่นได้ดี บอลจะมีทรง กว่าเกมที่แล้วแน่นอน ส่วนจะชนะได้หรือไม่นั้น คงต้องรอลุ้นกัน เอาเป็นว่าเกมพรุ่งนี้เล่นดีแน่นอน หลายคนคงสงสัยว่าพี่ไปเอาความมั่นใจว่าจากไหน ผมไม่ได้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนหรอกครับ เพียงแต่มันเป็นความเชื่อเล็กๆ ว่าจะเป็นแบบนั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว การเปลี่ยนโค้ช หรือบอลเปลี่ยนโค้ช โดยเฉพาะกับทีมชาติไทยเนี้ยะ เปลี่ยนทีไร มันจะเล่นดีขึ้นมาทันที ซึ่งผมก็คิดว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน อย่างน้อยเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว มั่นต้องมีอะไรดีขึ้นมั่งสินะ ถ้าเล่นแย่เหมือนเดิมก็เท่ากับว่า ไอ้ที่ทำกันมาเมื่อวันก่อนนั้นมันล้มเหลว อย่างน้อยเกมนี้ก็เชื่อว่านักเตะและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคน รวมทั้งแฟนบอลอย่างเราๆ เนี้ยะ จะรวมใจกันเชียร์ทีมชาติไทย กันอย่่างเต็มที่ ผลจะเป็นอย่างไรให้มันเป็นไป ขอเพียงแค่เล่นให้ประทับใจแฟนบอลก็พอ พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทีมชาติไทยตอนนี้ ก็อดที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษไม่ได้ ซึ่งแฟนบอลหลายๆ คนก็คิดแบบนี้เช่นกัน อย่างแรกเลยคือฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทย ในยุคลุงวัชที่ผ่านมา มันเป็นบอลน่าเบื่อ เน้นผลการแข่งขัน เหมือนกับแมนฯ ยู ที่มูมู่ คุมไม่มีผิด นักฟุตบอลหลายๆ คน โดยเฉพาะตัวรุกก็ไม่แฮปปี้ เริ่มมีปัญหากับตัวกุนซือ สุดท้ายเรื่องถึงหูผู้บริหาร หรือผู้ใหญ่ในทีม จนมาถึงเกมนัดพิพากษา ไทยแพ้ อินเดีย ลุงวัช โดนปลด แมนฯ ยู แพ้ลิเวอร์พูล น้ามู ก็โดนปลดทุกอย่างมันดูคล้ายๆ กัน จนมาถึงการหาคนเข้ามาคุมทีมชั่วคราว ซึ่งของผีแดงก็เลือกเอาเด็กเก่าอย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชา เข้ามา ซึ่งสุดท้ายก็ปลุกวิญญาณปีศาจผีแดงขึ้นมาได้จริงๆ และการที่สมาคมฟุตบอลฯ ให้ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กับ "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ ที่เป็นอดีตนักเตะทีมชาติทั้งคู่ เป็นคนไทยแท้ๆ เข้ามาขัดตาทัพในเวลานี้ มันก็ลักษณะคล้ายๆ กันกับผีแดงก็ว่าได้ คือเอาคนที่รู้จักทีมมากที่สุดมาก่อน ซึ่งหลายคนก็คงคิดว่า เออ มึงคงเพ้อแล้วละ เอาไปเทียบกับแมนฯ ยู จะว่าเพ้อก็ได้ครับ แต่อะไรๆ มันก็เหมือนกันจริงๆ โดยเฉพาะสีหน้านักเตะในการฝึกซ้อม และบรรยากาศในแคมป์วันสองวันนี้ ผมว่ามันสดใส และดูมีชีวิตชีวากว่าตอนลุงวัช คุมทีมอยู่มาก สีหน้านักเตะดูไม่มีความเครียด และทุกคนก็ใจสู้ และมีความตั้งใจที่จะสู้เพื่อชาติ ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะได้คำตอบกับผลงานในสนามของทีมชาติไทย ในวันพรุ่งนี้ อย่างที่บอก มันคงไม่ถึงขั้นเอาชนะบาห์เรน ได้แบบสวยหรูอะไรขนาดนั้น แต่อย่างน้อยผมว่าการเล่นของทีมชาติไทยจะดูมีชีวิตชีวาขึ้น และถ้าพูดถึงคู่ต่อสู้อย่างบาห์เรน แน่นอนการเป็นทีมจากตะวันออกกลาง ดูจะเป็นของแสลงของทีมชาติไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่บาห์เรนว่ากันตามจริง ก็เป็นทีมอาหรับเกรดบี ไม่ใช่เกรดเอ ไม่ได้น่ากลัวเหมือนพวก ซาอุ,อิรัก,อิหร่าน อะไรพวกนั้น ผมว่าทีมระดับนี้ ถ้าเราเตรียมตัวกันดีจริงๆ เล่นได้ดีจริงๆ เราก็เอาชนะได้ แต่อยู่ที่ว่าสภาพจิตใจเมื่อลงสนามไปแล้ว นักเตะไทยจะทำได้ดีแค่ไหน ซึ่งถ้าเกมนี้ปลดล็อก ผลงานออกมาดี ทำให้เราได้ลุ้นเข้ารอบต่อไป ก็อาจจะกลายเป้นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เรียกศรัทธาแฟนบอลกลับมาได้เช่นกัน จะอย่างไรก็แล้วแต่ วันพรุ่งนี้ 6 โมงเย็น ใครที่เป็นแฟนบอลชาวไทย และรักทีมชาติไทยของเรา ก็อย่าลืมส่งใจไปเชียร์ทีมช้างศึก กันเยอะๆ นะครับ ผมคิดว่าเรายังมีโอกาส และเราจะทำผลงานได้ดีในสองเกมที่เหลือ ไทยแลนด์ สู้ๆๆๆๆ

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline