3 ช่องทางเอาตัวรอด ถ้าขรี้จะออกในสนาม

ฟุตบอลเตะกัน 90 นาที จะว่าเป็นเวลาที่นาน ก็นานอยู่ ลงไปเตะๆ วิ่งๆ กันด้วยเวลาขนาดนั้น เกิดนักฟุตบอลเจ้ากรรมดันปวดขี้อยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาตอนนั้นจะทำยังไง

เมื่อวานถ้าใครได้ดูการแข่งขันฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ระหว่าง เออิบาร์ กับ เรอัล มาดริด จะเห็น เซร์คิโอ รามอส กัปตัน "ราชันชุดขาว" วิ่งหน้าบิดหน้าเบี้ยวระหว่างประกบคู่แข่งในสนาม ท่าทางดูไม่สบายตัว สักพักไปขออนุญาตผู้ตัดสินออกไปนอกสนาม แป๊ปๆ ก็กลับเข้ามาเล่นต่อ

Sergio Ramos leaves field to go to toilet... (via @casadelfutbol) pic.twitter.com/FpDfzmvX7X

— Photos of Football (@photosofootball) 10 มีนาคม 2561

ไอ้เราก็นึกว่ามีธุระด่วน ที่ไหนได้ หลังจบเกมกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน ก็มาไขปริศนาให้กระจ่าง บอกว่าแนวรับทีมชาติสเปน โดนข้าศึกบุกประตูหลัง ต้องรีบออกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยปลาวาฬลงโถให้สบายเนื้อสบายตัว กลับมามีสมาธิเล่นต่อได้ ไอ้อาการแบบนี้เป็นเรื่องสุดวิสัย จะห้ามกันคงไม่ได้ รามอส คือหนึ่งในกรณีศึกษา แต่มีวิธีอื่นไหมที่จะจัดการปัญหานี้ได้ ข้อเสนอแนะที่ 1 เอาอย่าง รามอส นั่นแหละ ดีที่สุดแล้ว ออกไปก็แป๊ปๆ ก็รีบกลับมาช่วยเพื่อน เขาไม่ใช่คนแรกมองว่านี่คือวิธีแก้ปัญหา ก่อนหน้านี้ก็เคยมี หลุยส์ ซัวเรซ ที่ลงเล่นกับทีมชาติ อุรุกวัย กระชับมิตรกับ คาซัคสถาน เมื่อปี 2014 เขาก็อดรนทนไม่ไหว โดนข้าศึกจ่ออยู่หน้าประตู ต้องขออนุญาตผู้ตัดสินไปทิ้งบอมบ์ระหว่างแข่ง อีกคนคือ เจสัน พันเชี่ยน ของ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกมเจอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2013 เขาก็เคยหายหน้าไปในช่วงครึ่งหลัง ก่อนจะกลับมาในเวลาไม่นาน เพราะขรี้แตกเช่นกัน https://www.youtube.com/watch?time_continue=204&v=3acP86xtGbE ข้อเสนอแนะที่ 2 การกระทำอย่าง รามอส ก็ถือว่าโอเค แต่ปัญหาคือระหว่างนั้นต้องเล่นกัน 10 คน ถ้าเราอยู่ฝั่ง เรอัล มาดริด อีกฝั่งเป็น เออิบาร์ ก็คงไม่เป็นไร ออกไปไม่นาน เพื่อนก็แบกกันไปก่อนได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็น บาร์เซโลน่า ล่ะก็อาจกลายเป็นวิกฤติที่ทำให้ทีมต้องเสียเปรียบก็ได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ ขอผู้จัดการทีมเปลี่ยนตัวออกไป ให้เพื่อนมาแทนเลย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ครั้งหนึ่ง ซินิซ่า มิไฮโลวิช เปลี่ยนตัว อาเดม ลายิช ออกในเกมพบกับ อินเตอร์ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา และอธิบายเรื่องนี้หลังเกมว่า อาเดม มีอาการท้องเสีย เขาต้องออกจากสนาม เขาปวดท้อง และถ้าไม่ปล่อยให้มันไป มันบอกว่าจะปล่อยแม่งในสนามนี่แหละ ก็เลยต้องเปลี่ยน" อีกกรณีคือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ ปาทริช เอวร่า สองนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ขอ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนตัวเพื่อไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน ข้อเสนอแนะที่ 3 บางครั้งคิดจะขออนุญาต ก็กลัวทีมเสียเปรียบ จะขอเปลี่ยนตัว ก็กลัวเสียแท็คติกกุนซือ หรือเปลี่ยนตัวครบแล้ว หรือไม่ก็ไม่ทันจริง ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลยละกัน ยุคนี้คงไม่ค่อยเห็นแล้ว คงไม่มีใครไม่ไหวขนาดนั้น หรือไม่ก็ยอมทำอย่างอื่นดีกว่า แต่สมัยก่อนยุคที่ฟุตบอลคือแพสชั่น ทุกคนทุ่มเทกล้าได้กล้าเสียมันไม่ใช่ ย้อนกลับไปในฟุตบอลโลก 1990 ที่ อิตาลี มีสองเหตุการณ์ที่ว่ากันว่านั่นคืออาการของคน "ขรี้แตก" คาสนาม หนึ่งคือ แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ เขาสร้างวีรกรรมไว้ในเกมกับ ไอร์แลนด์ จังหวะที่โดนปะทะล้มไป ก็เอาตูดไถพื้นไปแบบไม่มีเหตุผล 2-3 ที กว่าจะยอมลุก https://www.youtube.com/watch?time_continue=1&v=2R1QABw5v_w อีกเหตุหนึ่งคือในทัวร์นาเมนต์เดียวกัน กับ โอมาร์ อาเรยาโน่ นักเตะทีมชาติ เม็กซิโก ในนัดที่พบกับ อเมริกา กล้องจับภาพได้ในจังหวะที่เขาก้มตัว จู่ๆ ก็มีอะไรไม่รู้เหลืองๆ ไหลออกมาเปื้อนกางเกงสีขาว ให้คนดูได้นั่งวิเคราะห์กันไประหว่างทานข้าวว่ามันคือน้ำอะไรแน่ สุดท้ายแล้วการเลือกว่าจะไปจัดการธุระด้วยวิธีไหน เชื่อว่าก็แล้วแต่สถานการณ์ แต่ก็มีวิธีการที่ทำได้รองรับอยู่ แล้วแต่ตัวนักเตะจะตัดสินใจก็แล้วกัน เพราะการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ข้าศึกทำลายหน้าด่านบางระจันนี้ เชื่อว่าทุกคนที่เคยรถติดปวดขี้บนทางด่วนน่าจะเข้าใจกันดี

- เทพเฟี๊ยต -