ทัวร์นาเมนต์เอเชียน คัพ 2019 เดินทางมาถึงเกมนัดสุดท้าย คู่ชิงเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อน่าติดตามชมด้วยประการทั้งปวง เมื่อเป็น 2 ชาติที่มีระบบฝึกฟุตบอลที่แข็งแกร่งในเอเชีย โคจรมาเจอกันญี่ปุ่น และ กาตาร์ นอกจากนี้ยังมีการแซวกันในโลกโซเชียลว่า ชาบี เฮอร์นานเดซ เองแม่นวะที่ทำนายได้แม่นยำราวกับมีตาทิพย์
บทสรุปสุดท้ายใครจะคว้าแชมป์ไป 3 ทุ่มวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เฝ้าหน้าจอให้ดีอย่างกระพริบตา นอกจากนี้เอเชียน คัพ หนนี้มีหลายสิ่งที่แปลกใหม่ผิดหูผิดตา ทั้งมุมมองภาพการถ่ายทอดสด, การเพิ่มทีมที่มากขึ้นกว่า, ทีมที่ถูกมองว่าเป็นรองบ่อนยกระดับขึ้นมาสู่กับหัวแถวเอเชีย รวมถึงการเด้งโค้ชที่มีผลกระทบต่อผลการแข่งขันในสนาม
ขอบสนามจึงไม่รอช้ารวบรวม 7 โค้ชชื่อดังตกงานในเอเชียน คัพ
1.มิโลวาน ราเยวัช
เจ้าพ่อรถบัสเซอร์เบีย ผู้ที่โดนตราหน้าล้มเหลวชวดป้องกันแชมป์อาเซียน คัพ 2018 อย่างไรก็ดีฟ้ายังเป็นใจให้ "ลุงวัช" ได้มีโอกาสแก้ตัว ทว่าตาแก่หัวโบราณผู้หมกหมุ่นกับเกมรับ กลับสร้างผลงานงามหน้าประชาชีพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ โดนแขกอินเดียจากดินแดนภารตะไล่ถลุงยับเยินหมดสภาพ 1-4 เกมแรกเอเชียน คัพ 2019 จนมีเสียงก้นด่าจากแฟนบอลสนั่นเมือง ท้ายที่สุดเมื่อกระแสรุนแรงเกินจะต้านทาน สมาคมฟุตบอลฯ จึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดยกเลิกสัญญากับ ราเยวัช หลังจบเกมไม่ถึง 7 ชั่วโมง
2.แบรนด์ สตานเก้
ซีเรียเคยเป็นทีมที่น่าเกรงขามเล่นบอลเกมรุกที่รวดเร็วแพรวพราว หาญกล้าไปชิงตั๋วเพลย์ออฟบอลโลก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมกับออสเตรเลีย ทว่าใครจะไปคาดคิดว่าทีมเดียวกันคุณภาพนักเตะชุดเดิม มันจะมาพังทลายเพราะอดีตครูพละศึกษาจากเยอรมันตะวันออก ที่มีนามว่า แบรนด์ สตานเก้ ว่ากันตามตรงโปรไฟล์ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นหรือน่าจดจำ ทั้งการคุมทีมอย่างอิรัก,โอมาน หรือเบลารุส รวมถึงสิงคโปร์
ตอนที่ สตานเก้ มารับจ็อบซีเรีย ช่วงมกราคม 2018 เขารีไทร์จากชีวิตโค้ชไปแล้วด้วยซ้ำ และเมื่อมาทำทีมลุยทัวร์นาเมนต์ระดับเอเชีย สุดท้ายก็ไปไม่รอดเหมือนเช่นเคย 2 เกมแรก ขุนพลซีเรียน เสมอปาเลสไตน์ โนสกอร์ ตามด้วยปราชัยต่อจอร์แดน 0-2 ผลงานที่ออกมาก็เพียงพอแล้วว่าเขาไม่เหมาะกับการทำทีมแห่งนี้
3.สตีเฟน คอนสแตนติน
ระหว่างปี 2010-2015 อินเดียไม่มีอะไรให้น่าจดจำเกี่ยวกับฟุตบอลเลย แถมแรงกิ้งฟีฟ่าก็ไปเข้าที่ 170 กระทั่งการหวนกลับมารับงานเป็นคำรบที่ 2 ของชายจากลอนดอน นามว่าสตีเฟน คอนสแตนติน ด้วยความที่เป็นวิทยากรอบรมโค้ชของฟีฟ่า เขาจึงพยายามถ่ายทอดความรู้ให้คนในประเทศอินเดีย 3 ปีเศษ อันดับโลกขยับขึ้นมาอยู่ที่ 97 สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งกลับมาร่วมการแข่งขันเอเชียน คัพ 2019
แม้จะชนะไทย 4-1 ในเกมแรก ตามด้วยการแพ้ยูเออี 0-2 และปราชัยต่อบาห์เรน 0-1 แต่ตลอด 3 แมตซ์อินเดีย สู้ได้แบบมวยรองที่น่าประทับใจทุกเกม เพียงแต่พวกเขาดีไม่พอจะเข้าน็อกเอาท์และสุดท้าย คอนสแตนติน ไขก็อกลาทีมหลังตกรอบแรกทันที
4.มาร์เชลโล ลิปปี
กุนซือโปรไฟล์หรูที่สุดในเอเชียน คัพ 2019 พ่วงท้ายมาด้วยดีกรีแชมป์โลก ปี 2006 กับอิตาลี และเกียรติประวัติโทรฟี่แชมป์ในบ้านเกิดอีกนับไม่ถ้วนกับยูเวนตุส
ลิปปี มารับงานคุมจีน ในช่วงตุลาคม 2016 ทั้งที่เวลานั้น กุนซือชาวแคว้นทัสคานี่กำลังพักผ่อน แต่เมื่อเงินเดือนที่องค์กรลูกหนังแดนมังกรยื่นมาสูงถึง 65 ล้านบาทต่อเดือน เขาจึงหวนกลับมาทำทีมฟุตบอลอีกหน
อย่างไรก็ดีองค์ความรู้ของลิปปี้ จะชั้นยอดแค่ไหน แต่คุณภาพผู้เล่นจีนตัวเลือกน้อยแถมบรรดาดาวรุ่งก็มีให้หยิบจับน้อยเกินไป มันจึงส่งผลให้เขาแทบไม่มีปรุงแต่งทีมให้ได้ดั่งใจผู้บริหารฟุตบอลจีน และการตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังโดนอิหร่านถล่ม 3-0 แบบมวยคนละชั้น และกุนซือวัย 70 ปีก้าวลงจากตำแหน่งทันทีหลังจบเกมนัดดังกล่าว
5.สเวน โกรัน อิริคสัน
ยอดโค้ชชาวสวีดิชผู้ที่ชีวิตประสบความสำเร็จมากมายในการทำทีมฟุตบอล ทั้งในโปรตุเกสกับเบนฟิก้า, อิตาลีกับซามพ์โดเรีย,ฟิออเรนติน่า,โรม่า, ลาซิโอ ก่อนจะมาโยกมารับงานกุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษ ซึ่งพอพ้นจากตำแหน่งนายใหญ่ทรีไลออนส์ ดูเหมือนชีวิตเขาก็สาละวันเตี้ยลงทันที ไร้ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมแถมโดนไล่ออกอยู่บ่อยครั้ง
สเวน มารับจ็อบระยะสั้นกับดิ อัซคาลส์ ภายใต้ 3 เดือน นำทีมลูกครึ่งผสมเข้ารอบรองอาเซียน คัพ และไปต่อกรกับเกาหลีใต้ด้วยแท็คติกรับเน้นๆรอโต้ ในเอเชียน คัพ 2019 นัดแรก แต่ด้วยคุณภาพนักเตะที่เป็นรองทำให้ไม่อาจต้านทานความแข็งแรงของจีนและคีร์กีซสถาน จอดป้ายตกรอบไป ก่อนที่เขาจะยุติการทำทีมปินอยส์หลังจบทัวร์นาเมนต์ทันที
6.ฆวน อันโตนิโอ ปิซซี่
อดีตนักเตะชาวอาร์เจนไตน์ผู้ที่ตัดสินใจเลือกรับใช้ทีมชาติสเปน จนเมื่อถึงเวลาแขวนสตั๊ดแล้วผันตัวมาเป็นโค้ชอาชีพเขากลายเป็นจอมพเนจรตัวจริงเสียงจริง ทั้งในเปรู, เม็กซิโก, สเปน ตามด้วยการทำทีมชาติชิลี ทำแสบกับชาติบ้านเกิดในการชิงถ้วยโคปา อเมริกา เมื่อปี 2016
อย่างไรก็ดีแม้จะล้มเหลวในการพาลา โรฆ่าแห่งอเมริกาใต้ไปลุยบอลโลก 2018 แต่ปิซซี่ ได้โอกาสสำคัญในการถูกดึงไปทำซาอุดิอาระเบีย ที่รัสเซีย แม้จะตกรอบแรกแต่การพิชิตอียิปต์ในการนัดส่งท้าย ก็เพียงพอทำให้เขาได้โอกาสทำทีมต่อในเอเชียน คัพ 2019
ผลงานทีมเศรษฐีน้ำมันไปได้สวยทว่าการโคจรไปเจอกับญี่ปุ่น ในรอบ 16 ทีม เด็กในคาถาปิซี่ ครองเกมบุกใส่แข้งซามูไร เพียงแต่ไม่ได้พกความเด็ดขาดมาด้วย สุดท้ายความผิดพลาดแค่หนเดียว ส่งผลให้เสียประตู และหยุดเส้นทางไว้เพียงเท่านั้น และกุนซือวัย 49 ปี เลือกที่จะลาออกตำแหน่งไปแต่โดยดี
7.คาร์ลอส เคย์รอซ
โค้ชที่ปลุกปั้นหลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า ขึ้นมาเชิดฉายในวงการลูกหนังเมื่อ20 ปีก่อน ก่อนจะพเนจรย้ายไปรับงานร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทั้ง แอฟริกาใต้, ยูเออี, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, สเปน จนได้มาเรียนรู้หลักวิชาศาสตร์ลูกหนังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 ปี ตามด้วยการไปรับจ็อบทีมชาติโปรตุเกส แม้โปรไฟล์หลายๆที่จะไม่ประสบความสำเร็จ
เนื่องจาก เคย์รอซ ทำทีมไม่ค่อยเร้าใจเน้นเกมรับรอหาจังหวะโต้กลับ แถมเขายังเป็นคนที่อีโก้จัดอารมณ์ร้อนและมักมีปัญหาบานปลายอยู่หลายๆครั้งในสนามกับคู่แข่ง, ผู้ตัดสิน
อย่างไรก็ดีชื่อเสียงเก่าๆที่ขายได้อยู่ เคย์รอซ จึงได้รับจ็อบสำคัญในการคุมทีมชาติอิหร่าน ในช่วงแรกเขาพยายามเฟ้นหานักเตะเชื้อสายอิหร่าเนียนที่เติบโตในต่างแดนเข้าสู่ทำเนียบเพื่อมาผสมผสานกับกลุ่มผู้เล่นฟอร์มดีในลีก จนทีมเข้ารอบสุดท้ายบอลโลก 2014, 2018
แม้ตัวเคย์รอซ จะอยู่คุมทีมดังแห่งกรุงเตหะรานมายาวนานเกือบ 8 ปี แต่ดูเหมือนว่าโทรฟี่แชมป์ระดับทวีปที่คนในประเทศใฝ่หาไม่มาเสียที เอเชียน คัพ 2019 อิหร่าน โชว์ผลงานชั้นยอดตั้งแต่เกมแรกอัดเยเมน 5-0 , สอนเชิงเวียดนาม 2-0, เสมออิรักโนสกอร์ จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มดี, รอบ16 ทีมปราบโอมาน 2-0, รอบ 8 ทีมขยี้จีน 3-0 ทว่าดันมาตกม้าตายในเกมรอบรองฯ ความผิดพลาดแค่ครั้งเดียวจนเป็นที่มาของการโดนญี่ปุ่นสอยร่วง 3-0 ไปไม่ถึงดวงดาวอีกตามเคย และนั้นคือฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่โค้ชโปรตุกีสจะเก็บข้าวของออกจากดินแดนเปอร์เซียไปทันที
เอ็มเร่
[email protected]
