หงส์มีเสียวสันหลัง! รวมพวกนำโด่งแต่ชวดแชมป์พรีเมียร์ลีก

ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ยังคงนำเป็นจ่าฝูงตารางคะแนน แต่ทว่าพวกเขากลับทำแต้มหล่นไป 4 แต้มจากผลเสมอ 2 เกมติด นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือระยะห่างเพียง 3 แต้มเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยห่างถึง 7 แต้มด้วยกัน วันนี้เราได้รวมพวกนำห่างแต่สุดท้ายชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกมาให้อ่านกัน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1995/96 "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เควิน คีแกน เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาถูกยกย่องว่าเป็นทีมที่เล่นได้เร้าใจคนดูมากที่สุดในช่วงนั้น มี เลส เฟอร์ดินานด์ และ อัสปริย่า เป็นคู่หัวหอกคอยล่าตาข่าย ซึ่งทางด้าน เลส เฟอร์ดินานด์ ทำไปคนเดียวถึง 28 ประตู โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งในฤดูกาล ลูกทีมของ คีแกน นำจ่าฝูงห่างถึง 12 คะแนน ในช่วง เดือนมกราคม แต่หลังจากนั้นปรากฎว่า คีแกน เริ่มจะประสาทกิน จนทำให้ทีมของเขาที่เคยมีคะแนนนำห่างอันดับสองถึง 12 แต้ม ค่อย ๆ พลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับแซงขึ้นมานำ และคว้าแชมป์โดยทิ้ง นิวคาสเซิ่ล 4 ตะแนน อาร์เซน่อล 2002/2003 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล อยู่ถึง 6 แต้มด้วยกัน ในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามเหมือนว่าเหล่านักเตะ ปีศาจแดง ไม่ยอมแพ้และตั้งสติกันได้ เพราะนับตั้งแต่ที่พวกเขาพ่ายให้กับ มิดเดิลสโบรช์ ในปีนั้นเป็นต้นมา พวกเขาไม่แพ้เกมลีกเลยแม้แต่เกมเดียว โดยเป็นการชนะถึง 15 เกม จาก 18 เกม ที่เหลือเป็นผลเสมอ ซึ่งผลงานเหล่านี่ของพวกเขา มันเป็นแรงกดดันทัพ อาร์เซน่อล ได้เป็นอย่างดี เมื่อพวกเขาสะดุดเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เสมอกับ โบลตัน และ พ่าย ลีดส์ ยูไนเต็ด คาบ้านไปอีก นั่นทำให้พวกเขาทำถ้วยหลุดมือไปทั้งที่นำอยู่ ลิเวอร์พูล 2008/2009 ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ เบียดใกล้คำว่าแชมป์มากที่สุด พวกเขานำจ่าฝูงหลังจบปี 2008 โดยนำห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 10 แต้ม แต่แข่งมากกว่า ผีแดง 3 นัด อย่างไรก็ตาม ทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ มีโอกาสเก็บแต้มห่างออกไป แต่กลับสะดุดเสมอเยอะขึ้น จนกระทั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยรั้งอันดับ 3 ตาราง เริ่มเร่งเครื่องในเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม แซง ลิเวอร์พูล มาเป็นจ่าฝูง แต่ ลิเวอร์พูล ไม่ยอมแพ้ พวกเขาก็พยายามเร่งเครื่อง ก่อนคว้าแชมป์โดยมีแต้มมากกว่า ลิเวอร์พูล 4 คะแนน ในท้ายที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2011/2012 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี โรแบร์โต้ มันชินี่ คุมทีมอยู่ในเวลานั้น เคยบอกยอมแพ้การไล่ล่าแชมป์กับ อริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้วด้วยจากการที่มีแต้มตามหลังถึง 8 แต้ม ในช่วงเดือนเมษายน แต่เรื่องราวดราม่าก็มาบังเกิดขึ้น เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ให้กับ วีแกน หน้าตาเฉย แถมยังทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ทั้งที่นำ 4-2 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็กุมโอกาสไว้ในมืออีกครั้ง เมื่อศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ พวกเขามีชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้ายจะต้องตัดสินโดยที่หาก ซิตี้ เก็บ 3 แต้มได้จะเป็นแชมป์ทันที ไม่ต้องลุ้นคู่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งในวันนั้นเอง ผีแดง เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ไป 1-0 แล้วจบลงไปก่อน แต่ลูกทีมของ มันชินี่ โดน คิวพีอาร์ เล่นงานอย่างหนักโดยนำพวกเขา 2-1 และพวกเราก็สร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงจากการที่พลิกแซง ควีนส์ปาร์ค ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3-2 จากการทำประตูของ อเกวโร่ กุน เป็นแชมป์เหนือทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าและมีแต้มเท่ากันที่ 89 คะแนน ลิเวอร์พูล 2013/2014 เกมนี้เป็นอีกสุดยอดความทรงจำของแฟน ๆ เรือใบสีฟ้า ที่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง หลังจากที่ทำได้เมื่อปี 2011/2012 โดยปีนี้พวกเขามีคู่แข่งที่อยู่เหนือพวกเขาอย่าง ลิเวอร์พูล ที่หลาย ๆ ฝ่ายมองว่าเหล่า เดอะ ค็อป นั่นมีโอกาสในการคว้าแชมป์มากที่สุดแล้ว เพราะหลังจากเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 3-2 พวกเขานำเป็นจ่าฝูงห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 7 แต้ม แม้ว่าจะแข่งมากกว่า 2 นัด แต่คนก็ยังมองว่า ลิเวอร์พูล ไม่น่าพลาดต่อจากนี้ แต่เห็นการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้หกล้มบริเวณกลางสนาม ทำเอาผู้เล่นของ เชลซี อย่าง เดม บาบา ฉกบอลเข้าไปยิงเป็นประตูให้ เชลซี เก็บ 3 แต้มไปได้ ยังไม่พอพวกเขายังสะดุดเสมอกับ คริสตัล พาเลซ ในเกมต่อมา นั่นเล่นเอาน้ำตาลูกผู้ชายของ หลุยส์ ซัวเรซ ไหลออกมาเลยทีเดียว เพราะโอกาสของพวกเขาแทบจะหมดลงไปแล้ว ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เร่งฝีเท้าหลังจากแพ้ให้ ลิเวอร์พูล 3-2 พวกเขาก็ชนะรวด แซงเข้าวินเป็นแชมป์เหนือ ลิเวอร์พูล ไป ด้วยคะแนนมากกว่า ลิเวอร์พูล 2 คะแนนเท่านั้น

- เปี๊ยกบางใหญ่ -