8 นัดสุดท้าย ชิงเก้าอี้ท็อปโฟร์

พรีเมียร์ลีก ใกล้จบแล้ว เรื่องแชมป์ คงไม่พลิกโผ แต่ท็อปโฟร์นี่แย่งกันมันยิ่งกว่าเก้าอี้ดนตรี นาทีสุดท้ายใครจะได้ตีตั๋วไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปวิเคราะห์กัน

ศึก พรีเมียร์ลีก เข้าสู่ช่วงสุดท้าย 8 นัดต่อจากนี้ก็จะถึงปลายทาง เรื่องของแชมป์คงได้แต่ปล่อย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันไป ตอนนี้ก็มือจับหูถ้วยอยู่ข้างหนึ่งแล้ว จุดที่สนุกจริงๆ คือการลุ้นแย่งตำแหน่งท็อปโฟร์กันมากกว่า นี่คือพื้นที่ที่เหมือนทำเลทองค้าขาย ใครๆ ก็อยากได้ไปครอบครอง เพื่อโอกาสไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า นี่คือเดิมพันใหญ่ และสูงที่ทุกๆ ทีมอยากได้เพื่อไปตามล่าความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรป รวมถึงเงินรางวัลที่ได้ในแต่ละรอบ ยิ่งปีหน้าอันดับ 4 ไม่ต้องเพลย์ออฟอีกต่อไปแล้ว ยิ่งทำให้ใครๆ ก็อยากชิงมาไว้ในครอบครอง ดั้งนั้นถ้าเราตัด แมนฯ ซิตี้ ออกไป ทีมชิงท็ปโฟร์ก็เลยอีกแค่ราวๆ 5 ทีม ไปดูโปรแกรมอีก 8 นัดที่เหลือ จะได้วัดกันไปเลยว่า ใครมีโอกาสตีตั๋วได้มากที่สุด   โปรแกรมที่เหลือ vs สวอนซี (เหย้า) vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) vs เวสต์บรอมฯ (เหย้า) vs บอร์นมันธ (เยือน) vs อาร์เซน่อล (เหย้า) vs ไบรท์ตัน (เยือน) vs วัตฟอร์ด (เหย้า) vs เวสต์แฮม (เยือน) ณ ปัจจุบันพวกเขาเป็นอันดับ 2 มีแต้ม 65 คะแนน ห่างจากทีมอันดับ 5 อย่าง เชลซี อยู่ถึง 9 แต้ม โอกาสจะหลุดวงโคจร ท็อปโฟร์ ยังคงเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ความเป็นจริงก็คงจะหลุดได้ยากในทางปฏิบัติ จากโปรแกรมที่เหลือ มีเกมเยือนและเหย้าอย่างละครึ่ง มี 2 ทีมใหญ่ที่ต้องเจอ แต่ทีมอื่นก็ยังไม่นับว่าเหนือบ่ากว่าแรงที่จะเก็บ 3 คะแนนต่อไป ต่อให้ยังมีเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่ก็ยังเชื่อว่าไม่น่าหลุดเกินที่ 4 ไปได้   โปรแกรมที่เหลือ vs นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) vs เชลซี (เยือน) vs สโต๊ค (เยือน) vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า) vs ไบรท์ตัน (เยือน) vs วัตฟอร์ด (เหย้า) vs เวสต์แฮม (เยือน) vs เลสเตอร์ (เหย้า) "สเปอร์ส" อยู่อันดับ 3 ของตาราง มีคะแนนห่างจากอันดับ 5 อยู่ 5 คะแนน เป็นระยะที่พร้อมจะพลิกได้ถ้าผิดพลาด ยังถือว่าอันตรายไม่น้อย แต่ยังมีโอกาสเพราะยังมีเกมเยือน เชลซี รออยู่ ถ้าสามารถตัดแต้มกันไปได้ โอกาสก็สูงที่จะไม่พลาดอันดับ 4 เป็นอย่างน้อย เกมที่เหลือยังมีเหย้าเยือน พอๆ กัน แต่กับ "ไก่เดือยทอง" ไม่ใช่ปัญหา เพราะเล่นที่ไหนผลงานซีซั่นนี้ก็ไม่ต่างกันมาก แถมพวกเขาตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว โฟกัสกับการชิงพื้นที่ได้เต็มที่   โปรแกรมที่เหลือ vs วัตฟอร์ด (เหย้า) vs เอฟเวอร์ตัน (เยือน) vs บอร์นมันธ (เหย้า) vs เวสต์บรอม (เยือน) vs สโต๊ค (เหย้า) vs เชลซี (เยือน) vs ไบรท์ตัน (เหย้า) สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ยังดีอยู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่หลังจากแพ้ แมนฯ ยูฯ อันดับตก แถมโดนทีมที่ตามหลังไล่ทำแต้มจี้มาอีก ตอนนี้พวกเขาแต้มห่าง เชลซี แค่ 4 คะแนนเท่านั้น เป็นระยะที่เรียกว่าห้ามพลาด ห้ามประมาทแม้แต่นิดเดียว ปัจจัยสำคัญคือโปรแกรม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังเหลือ และการตัดแต้มกับ เชลซี ทั้งหมดจะเป็นคีย์ที่คอยตอบว่าพวกเขาจะพลาดหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่น่าจะเป็น แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เก่งกับทีมใหญ่ ไปแพ้ทีมเล็กให้เห็นบ่อยๆ และโปรแกรมที่เหลือมีทีมเล็กเหลือเยอะเสียด้วย   โปรแกรมที่เหลือ vs เบิร์นลีย์ (เยือน) vs สเปอร์ส (เหย้า) vs เวสต์แฮม (เหย้า) vs เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) vs ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า) vs สวอนซี (เยือน) vs ลิเวอร์พูล (เหย้า) vs นิวคาสเซิ่ล (เยือน) เชลซี รั้งตำแหน่งอันดับ 5 ตามหลัง ลิเวอร์พูล 4 คะแนน แถมมีเกมที่ได้โอกาสตัดกันในมือ เพียงแต่ก่อนจะถึงเกมนั้น ต้องพยายามขยับช่องว่างให้เข้าใกล้มากขึ้นให้ได้ ที่ผ่านมาพวกเขาอยู่ในฟอร์มที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่ แม้เกมล่าสุดจะชนะเก็บ 3 คะแนนได้ แต่คู่แข่งก็เป็นแค่ คริสตัล พาเลซ เท่านั้น ถ้าเรียกฟอร์มเก่งกลับมาแบบถาวารในช่วงโค้งสุดท้ายไม่ได้ งานงอกแน่ ไม่ใช่แค่งานงอกยังไม่เท่าไหร่ แต่น่าจะส่งผลถึงเก้าอี้ของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ด้วย   โปรแกรมที่เหลือ vs เลสเตอร์ (เยือน) vs สโต๊ค (เหย้า) vs เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า) vs นิวคาสเซิ่ล (เยือน) vs เวสต์แฮม (เหย้า) vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน) vs เบิร์นลีย์ (เหย้า) vs ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เยือน) อาร์เซน่อล ดูจะเป็นทีมที่มีลุ้นน้อยที่สุด เพราะต้อนนี้มีแค่ 48 แต้ม ตามหลังอันดับ 4 ลิเวอร์พูล 12 คะแนน ในทฤษฎียังเป็นไปได้ แต่ความเป็นจริงคือแทบไม่ได้แล้ว ยิ่งเป็นทีมที่เก็บแต้มนอกบ้านได้สุดห่วยแตกด้วย ยิ่งยาก เพราะนี่มีเกมเยือนเหลืออยู่ครึ่งต่อครึ่ง แถมมีเจอทีมใหญ่อีก ความจริง อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ยอมรับแล้วว่ามันยากจะคว้าท็อปโฟร์ คงต้องเปลี่ยนเส้นทางไปเน้น ยูโรปา ลีก เพราะหากเป็นแชมป์ได้ ก็ได้ตั๋วเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีกเหมือนกัน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกฟุตบอล ใครจะรู้ถ้า อาร์เซน่อล ไม่ทิ้ง โอกาสจะแซงในท้ายฤดูกาลอาจมีเข้ามาก็ได้

- เทพเฟี๊ยต -