logo-heading
"ขาย คอสต้า เพื่อซื้อ โมราต้า, ขาย มาติช เพื่อซื้่อ บากาโยโก้, ปล่อย บาตชัวยี่ เพื่อซื้อ ชิรูด์", "บาตชัวยี่ แม่งยิงเอา ยิงเอา ส่วน เชลซี มันมีกองหน้าไหมว่ะเนี่ย?" นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นกับความรู้สึกของบรรดาแฟนบอล "สิงห์บลูส์" เมื่อเห็น มิตชี่ บาตชัวยี่ กำลังโชว์ฟอร์มฮอตปรอทแตกให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยเฉพาะการเพิ่งซัด 2 ประตู ให้ "เสือเหลือง" เปิดบ้านเฉือน แฟร้งเฟิร์ต 3-2 กุมความได้เปรียบพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก [caption id="attachment_6780" align="aligncenter" width="1000"] เทียบฟอร์ม บาตชัวยี่ ผู้กำลังขยี้ โมราต้า ลงมาเป็นฮีโร่ซัด 2 ประตู เกมชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 3-2[/caption] ย้อนกลับไปช่วงต้นซีซั่น บาตชัวยี่ ยังคงมีสถานะเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง เชลซี เท่านั้น และจะมีค่าขึ้นมา เมื่อ อัลบาโร่ โมราต้า ได้รับบาดเจ็บจนลงสนามไม่ได้ ด้วยความที่ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลี่้ยน ไม่เห็นค่า และคิดว่าทำประตูเป็นกอบเป็นกำให้กับ เชลซี ไม่ได้ จึงตัดสินปล่อยตัวให้กับ "เสือเหลือง" ยืมใช้งาน ก่อนจะไปซื้อ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เข้ามาแทนด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ เมื่อวันเดดไลน์ตลาดซื้อขายเดือนมกราคม และนั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งความหายนะ เชลซี แต่กลับกลายเป็นแสงสว่างที่ปล่อยอุโมงค์ให้กับ ดอร์ทมุนด์ จากนักเตะที่นั่งสำรองตูดด้าน ได้แต่ชายตามองดูเพื่อนวิ่งไปมาอยู่ที่ข้างสนาม จนได้มาเป็น "ฮีโร่" ผู้พาทีมเก็บชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับมีแฟนบอล "เยลโล่ วอลล์" ตะโกนชื่อเรียก บาตชัวยี่ จนดังสนั่นสนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ตัดภาพมาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีแต่เสียงก่นด่า และ การตั้งคำถามข้อสงสัยว่า "ซื้อพวกแม่งมาทำไมว่ะ" ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากได้ดูการเทียบสถิติระหว่าง บาตชัวยี่ กับ โมราต้า หรือต่อให้รวมร่างนับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ มาอีกคน บาตชัวยี่ แสดงให้เห็นว่าเขาเก่งในร่าง "เสือ" มากกว่าในร่าง "สิงห์" ด้วยการประเดิมซัด 5 ตุงจากการลงเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ เพียงแค่ 3 นัด เท่านั้น ผิดกับ โมราต้า เขายิงประตูครั้งล่าสุดให้กับ เชลซี คือต้องย้อนไปถึงวัน "บ็อกซิ่ง เดย์" 26 ธ.ค. 2017 ในเกมชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-0 เท่ากับผ่านมาแล้ว 75 วัน หรือคิดเป็น 12 นัด ที่ดาวยิงทีมชาติสเปน ยังตีนบอด อย่างที่บอกว่า บาตชัวยี่ กำลังทำให้สโมสร เชลซี รู้สึกคิดผิดขึ้นเรื่อยๆ เพราะถึงแม้จะไร้สกอร์มา 5 นัด หลังประเดิมเปิดตัวได้อย่างสวยงาม แต่ทว่าเจอ แฟร้งเฟิร์ต ลงมาเป็นซูเปอร์ซับ งัดฟอร์มเทพยิง 2 ประตู โดยเฉพาะการหมุนตัวยิงช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ให้ ดอร์ทมุนด์ พลิกกลับมาแซงคู่แข่งไปอย่างดราม่า 3-2 "นั่นเท่ากับ บาตชัวยี่ ยิงไปแล้ว 7 ลูกให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนประตูเทียบเท่าการยิงรวมกันของบรรดาแนวรุก เชลซี ไม่ว่าจะเป็น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อัลบาโร่ โมราต้า, เปโดร โรดริเกซ และ วิลเลี่ยน" ?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.101greatgoals.com%2Fnews%2Fchelsea-fans-fuming-board-batshuayi-decision%2F "หรือถ้าจะให้ขยี้ไปกว่านั้นคือ บาตชัวยี่ ทำ 2 ประตู ในเกมชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต แค่นัดเดียวก็เป็นจำนวนที่มากกว่าทั้ง โมราต้า และ ชิรูด์ ซึ่งรวมกันได้แค่ 1 ประตูเท่านั้น นับเฉพาะหลังห้วงเวลาตลาดหน้าหนาวปิดตัวลง" ขณะที่ โมราต้า กลายเป็นตัวสำรองไปในบัดดล ไม่ได้รับความไว้วางใจเหมือนครั้งเก่า ตำแหน่งศูนย์หน้าที่เขาถนัด กลายเป็น เอแด็น อาซาร์ ต้องอาสาไปยืนด้วยความจำเป็น เพราะ 12 นัด ที่ผ่านมา โมราต้า ลงสนาม 594 นาที 0 ประตู, 1 แอสซิสต์ กับอีก 6 ใบเหลือง [caption id="attachment_6783" align="aligncenter" width="1000"] เทียบฟอร์ม บาตชัวยี่ ผู้กำลังขยี้ โมราต้า นักเตะที่ได้รับใบเหลืองมากกว่าจำนานประตูนับตั้งแต่ปี 2018[/caption] บางทีบรรดาทีมสตาฟฟ์โค้ช หรือ แมวมอง และผู้บริหาร อาจต้องไปทบทวนทำการบ้านกันใหม่อีกครั้งว่าพวกเขาผิดพลาดประการใด และการบ้านที่ต้องคิดให้หนักเลยคือจะดึง "บาตชัวยี่" กลับมาสู่ทีมหรือไม่ กลับมาแล้วยังจะให้โอกาสกันหรือเปล่า

คำตอบอาจเร็วไป สำหรับเรื่องของอนาคต แต่ที่สามารถบอกได้ตอนนี้เลยคือ "บาตชัวยี่" กำลังโชว์ฟอร์มร้อนแรงกว่า "โมราต้า" ทุกอณูรูขุมขน และยังไม่เห็นหนทางที่ "โมราต้า" จะกลับมาข่มขวัญได้เลย หากยังนั่งเป็นตัวสำรอง

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline