logo-heading

กลายเป็นประเด็นร้อนเลยทีเดียวสำหรับเก้าอี้กุนซือของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ หลังจากเริ่มพา เชลซี มีผลงานที่ดิ่งลงเหวอย่างชัดเจนในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมันยิ่งตอกย้ำลงไปอีกเมื่อเขาพาทีมตกรอบ เอฟเอ คัพ

สืบเนื่องมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้วหลังจากบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เละเทะ 6-0 กระแสปลด ซาร์รี่ ออกจากตำแหน่งก็เริ่มถูกจุดไฟขึ้นมาเป็นครั้งใหญ่ และแน่นอนว่าเมื่อถึงตรงนี้แฟนบอล "สิงห์บูล" เริ่มไม่พอใจกับสไตล์การทำทีมของกุนซือวัย 60 ปี ผู้นี้แล้ว ว่าแล้ววันนี้ทาง ขอบสนาม เราจึงนำ 5 เหตุผลที่ทำให้ เชลซี ของ ซาร์รี่ เริ่มมีผลงานที่ดรอปลงไปและมีโอกาสสูงที่กุนซือชาวอิตาลีผู้นี้จะได้กลายเป็นอดีตกับ "สิงห์โตนำเงินคราม" จะมีเหตุผลอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย 1.) แท็คติกเริ่มถูกจับทางได้ ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กับการเริ่มต้นงานในเกาะอังกฤษมันช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเจ้าตัวใช้ จอร์จินโญ่ เป็นศูนย์กลางในแผงกองกลาง แต่ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปแท็คติกที่เคยทำได้ดีกลับไม่เป็นอย่างที่เคย ซึ่งแน่นอนเจ้าตัวก็ต้องถูกวิจารณ์ในเรื่องของการปรับบทบาทตำแหน่งการเล่นของผู้เล่นในทีม 2.) ใช้งาน ก็องเต้ ผิดรูปแบบ อย่างที่กล่าวไปในข้อแรกว่าแท็คติกของ ซาร์รี่ คือการดัน ก็องเต้ ขึ้นสูงมากขึ้นจริงอยู่ที่มิดฟิลด์แชมป์โลกจะมีอิสระในการเล่นและเติมขึ้นไปทำประตูได้บ่อยครั้งมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าความจริงแล้วธรรมชาติของ ก็องเต้ ก็คือมิดฟิลด์ตัวตัดเกมหาใช่กองกลางเชิงรุกแบบที่ ซาร์รี่ ปรับให้ไปเล่นอย่างทุกวันนี้ ซึ่งแน่นอนเมื่อเป็นเช่นนั้นประโยชน์ในตัวของ ก้องเต้ ก็ถูกดึงออกมาใช้งานได้อย่างไม่เต็มที่ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วประสิทธิภาพของนักเตะก็ถูกจำกัดไปในตัวด้วย และทีมก็ไม่ได้ประโยชน์จากนักเตะแบบ 100% หรือเรียกได้ว่ามีของดีอยู่กับตัวแล้วแต่กลับไม่ยอมใช้ประโยชน์ให้มันถูกวิธี 5 สาเหตุที่ ซาร์รี่ (อาจ) ล้มเหลว และกลายเป็นอดีตกับ เชลซี 3.) การแก้เกมที่ซ้ำจำเจ ถ้าใครที่ได้ติดตาม เชลซี จะเห็นได้ว่า ซาร์รี่ มักจะเปลี่ยนตัวในรูปแบบซ้ำๆ เดิมๆ ไม่ได้มีมิติใหม่ที่แปลกตาหรือทำให้คู่แข่งหรือแฟนบอลต้องร้องว้าว ซึ่งในตอนนี้ทุกคนแทบจะเดาออกแล้วว่าใครในสนามบ้างที่จะถูกถอดออก และใครที่ม้านั่งสำรองที่จะลงสนามไปแทน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นมีหรือที่กุนซือฝั่งตรงข้ามจะจับทางและเดาแท็คติกไม่ได้ 4.) แนวรุกหวังพึ่ง อาซาร์ มากเกินไป กลายเป็น 'เดอะ แบก' ของทีมไปแล้วสำหรับ เอเด็น อาซาร์ โดยฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ตัวเลขอยู่ที่การลงสนาม 34 นัด ซัดไป 15 ประตู กับทำอีก 10 แอสซิสต์ ซึ่งนี้ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งนี้เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า อาซาร์ มีอิทธิพลต่อแนวรุกของ "สิงห์บูล" มากขนาดไหน และมันจะเป็นตัวชี้อีกว่าในบรรดาแผงเกมรุกนักเตะในรายอื่นๆ ยังไม่สามารถหวังพึ่งได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับที่ อาซาร์ จะเป็นคนกำหนดผลการแข่งขันของทีมถ้าเล่นดียิงได้โอกาสที่ทีมชนะก็สูง แต่ถ้าวันไหนเล่นออกยิงไม่ได้โอกาสพ่ายแพ้อาจมากกว่าครึ่งไปแล้วด้วยซ้ำ 5 สาเหตุที่ ซาร์รี่ (อาจ) ล้มเหลว และกลายเป็นอดีตกับ เชลซี 5.) บารมีของ ซาร์รี่ แน่นอนว่าการที่กุนซือสักคนนึงจะก้าวขึ้นมาคุมสโมสรใหญ่บารมีคือสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าฝีมือ โดยเฉพาะเมื่อคุณจะก้าวเข้ามารับงานที่ สแตมฟอรืด บริจด์ สิ่งที่ต้องเจอคือการคุมนักเตะในทีมให้อยู่ ซื้อใจให้ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมันอาจจะเกี่ยวกับชื่อเสียงที่สะสมมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะหรือเป็นกุนซือที่เคยพาทีมประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่ทว่ากับ ซาร์รี่ กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวมา จริงอยู่ว่าที่ นาโปลี เจ้าตัวอาจพาทีมก้าวขึ้นไปสู่หัวตารางแต่ก็ไม่ได้มีความสำเร็จอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน รวมไปถึงบารมีที่นักเตะต้องเกรงกลัว
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline