เมื่อวานนี้ได้ดูกันไปแล้ว สำหรับ 8 คีย์แมน สำคัญของ 8 อันดับแรกในไทยลีกเมื่อปีที่แล้ว
วันนี้ "ทีมงานขอบสนามบอลไทย" จะมาต่อให้กับอีก 8 ทีมที่เหลือ โดยมี 3 ทีมน้องใหม่เป็นทีมปิดท้าย ...
https://k8s.khobsanam.com/column/70074 : บทความ 16 คีย์แมน ตอนที่ 1
ชลบุรี เอฟซี
ทุกคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉลามชล ในยุคใหม่คงต้องแบกความหวังทั้งหมดไว้ที่ "เจ้ายิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ดาวเตะดีกรีทีมชาติไทยชุดเล็ก ที่ฟอร์มเปรี้ยงปร้างมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนมาถึงตอนนี้ก็ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อปีที่แล้วทั้งปั้นเกม , จ่ายบอล , ยิงประตู เรียกได้ว่าครบเครื่องที่สุดคนนึงของไทยลีก ดังนั้นปีนี้ เจ้ายิม กับ ชลบุรี ก็คงจะเหมือนๆ เดิม
สุพรรณบุรี เอฟซี
ชื่อนี้ไม่ได้มีดีแค่ สาลี่ แน่นอน เพราะปีนี้ "ช้างศึกยุทธหัตถี" เอาจริงมากขึ้น เสริมทัพได้น่าสนใจมากขึ้น
แต่ไม่ว่าใครจะเข้ามาใหม่คงจะสำคัญไปกว่า เคลตัน ซิลวา ไม่ได้จริงๆ เพราะตั้งแต่เลกที่ 2 ของปีที่แล้วที่ "ดาวยิงบราซิล" รายนี้ย้ายมาเล่นให้กับ สุพรรณ ก็กลับไปเป็น เคลตันคนดีคนเดิมอีกครั้ง แถมในปีนี้ได้คู่หูใหม่อย่าง โจนาธาน เฮส ดูแล้วเกมรุกของ สุพรรณ น่าจะดุ เด็ด เผ็ด มันส์ ขึ้นแน่นอน
สุโขทัย เอฟซี
เป็นอีก 1 ทีมที่แฟนๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันแน่นอนว่า "คีย์แมน" ประจำทีมคือ จอห์น บาจโจ้ ราโคโตโนเมนจาฮานารี่ ดาวเตะทีมชาติมาดาร์กัสก้า โดยทุกๆ ปีไม่ว่าฟอร์มของ สุโขทัย เอฟซี จะแย่หรือดีแค่ไหน แต่คนที่ไม่เคยฟอร์มหายไปเลยนั่นก็คือ "พ่อหนุ่มมะขามข้อเดียว" คนนี้นี่แหละ โดยเฉพาะอาวุธเด็ดกับความเร็วทะลุนรกของเขา รวมไปถึงการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู ที่ทำได้ดีอยู่ตลอด ดังนั้นคิดว่าปีนี้ บาจโจ้ ก็ยังจะเป็นแบบเดิมอีกแน่นอน
ราชบุรี มิตรผล
ขยับมาที่ ราชบุรี มิตรผล กันบ้าง หลายคนอาจจะไปโฟกัสที่กองหน้าอย่าง ยานนิค โบลี่ ที่น่าจะเป็นคนแบกความหวังทีมไว้ แต่ที่ทีมงานได้รับข้อมูลและความสำคัญของ อามิน นาซารี่ มิดฟิลด์ฟิลิปปินส์ ที่ได้เล่นไทยลีกปีนี้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
น่าจะเป็นกำลังสำคัญที่สุดในการปั้นเกมรุกให้กับทีม เพราะ ราชันมังกร หวังกับเขาไว้มาก จึงทำให้ต้องทำทุกทางเพื่อให้เขาได้เล่นและสุดท้ายก็สมหวังในที่สุด
ชัยนาท ฮอร์นบิล
ปีนี้แม้ว่า ชัยนาท ฮอร์นบิล จะเสริมเข้ามาเยอะทั้งตัวไทยและตัวต่างชาติ แต่เมื่อกวาดสายตาดูภาพรวมๆ แล้ว ยังเชื่อว่านักเตะเก่าๆ น่าจะเป็นคีย์แมนเหมือนเดิม
โดยเราขอยกให้กับ ปริญญา อู่ตะเภา ที่จะเป็นตัวสำคัญของทีมต่อไปอีก 1 ปี โดยปีที่ผ่านมาเขาก็เป็นตัวหลักให้กับทีมมาตลอด แถมในปีนี้ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็น "กัปตันปริญญา" แห่ง "รังนกใหญ่" อีกด้วย ซึ่งดูแล้วยิ่งเพิ่มความสำคัญของเขาไปในตัว
พีทีที ระยอง
น้องใหม่ไทยลีกทีมแรกเเราขอพูดถึง พีทีที ระยอง เพราะช่วงเปิดตลาดในการช็อปปิ้งนักเตะ "พลังเพลิง" ทุ่มไม่อั้น ทั้งยืม ทั้งซื้อขาด นักเตะใหม่ๆ เพียบเลย โดยเราขอยกตำแหน่ง "คีย์แมนพลังเพลิง" ให้กับ อาเรียล โรดิเกวซ กองหน้าตัวเก่งที่พวกเขายืมตัวมาจาก บีจีพียู ซึ่งปีที่แล้วในเลกที่ 2 ที่เขากลับมาอยู่กับบีจีก็ยิงอยู่ตลอด และปีนี้กับต้นสังกัดใหม่ เพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ น่าจะช่วยให้เขามีแรงกระตุ้นในการเล่นไทยลีกมากขึ้นแน่นอน
ตราด เอฟซี
ช้างขาวจ้าวเกาะ กับการแข่งขันไทยลีก (ลีกสูงสุด) ครั้งแรกของสโมสร ทำให้ปีนี้พวกเขาเสริมทัพเข้ามาเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น "ตัวเทศ" หรือ "ตัวไทย"
แต่ที่น่าสนใจที่สุดและน่าจะเป็นดีลที่เข้ามาแล้วใช้ได้เลยนั่นคือ ดียุฟ บีรัม กองหน้ากึ่งปีกความเร็วจัดที่ย้ายจาก ชัยนาท มาเล่นที่ ตราด ในปีนี้ ซึ่งด้วยประสบการณ์และความสามารถของเขายังพอจะเล่นงานกองหลังได้แน่ๆ และที่สำคัญเขาน่าจะช่วยเปิดทางให้เพื่อนๆ ได้เล่นง่ายขึ้นด้วย
เชียงใหม่ เอฟซี
ถ้าพูดถึง เชียงใหม่ เอฟซี น้องใหม่ทีมสุดท้ายที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ไทยลีกในปีนี้ได้เป็นครั้งแรก พวกเขาไม่ต่างจาก 2 ทีมด้านบน เพราะเสริมทัพกระจายไม่ว่าจะเป็นแข้งไทยหรือแข้งต่างชาติ แต่ดีลที่น่าสนใจที่สุดคหนีไม่พ้น เอกนิษฐ์ ปัญญา
เพราะด้วยผลงานขวบปีที่ผ่านมากับ พยัคฆ์ล้านนา ที่เจ้าตัวโดนยืมมาเล่นและลงสนามในไทยลีก 2 ที่เป็นตัวจริงเกือบทุกนัด ด้วยวัยเกือบๆ 20 ปี ซึ่งแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเขาสำคัญกับทีมมากขนาดไหน ดังนั้นในปีนี้ก็คงสำคัญเหมือนเดิมแน่นอน
บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)
