logo-heading
"ราชันชุดขาด" คงเป็นฉายาที่ใช้เรียกแทน เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว เพราะล่าสุด พวกเขาโดน อาแจ็กซ์ เขี่ยตกรอบเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เรียบร้อย หลังพ่ายคาบ้าน 1-4 สกอร์รวม อาแจ็กซ์ ชนะ 5-3 จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้นั่นหมายความว่า ฤดูกาลนี้พวกเขาหมดลุ้นแชมป์แล้วทุกรายการ เพราะเพิ่งโดน บาร์เซโลน่า ถล่มคาบ้านเขี่ยตกรอบรองชนะเลิศในศึก โกปา เดล เรย์ และกลับมาย้ำแค้นในบ้านได้อีก ในเกม ลาลีกา ทำให้คะแนนตามหลัง บาร์ซ่า ถึง 12 แต้ม เข้าไปแล้ว และทำสถิติแพ้คาบ้านติดต่อกันเป็นเกมที่ 4 รวมทุกรายการอีกด้วย เรียกว่าเป็นความพังพินาศมากสุดในรอบหลายปีของราชายุโรปเลยก็ว่าได้ และนี่คือความพังของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ รวมความพังของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ 1. ขายขีปนาวุธซื้อหนังสติ๊ก ตอนแรกดูเหมือนว่าการขาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากทีมไปด้วยเงินมหาศาล กับสิ่งที่พวกเขาได้กลับมาไม่คุ้มกันเอาเสียเลย ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายมองว่า เรอัล มาดริด จะเป็นเล่นกันเป็นทีมมากขึ้น และแนวรุกที่อยู่ในทีมจะได้โชว์ศักยภาพมากขึ้น แต่ไม่เลยกลับกลายเป็นพวกเขาไม่สามารถฝากความหวังไว้ได้เลย ทั้ง แกเร็ธ เบล และ คาริม เบนเซม่า เมื่อ เรอัล มาดริด เสีย โรนัลโด้ ไป แทนที่พวกเขาจะทุ่มคว้าสตาร์ศูนย์หน้าเข้าทีม กลับไปทุ่มคว้า ผู้รักษาประตู ทั้งที่พวกเขามีมือดีอยู่แล้ว และได้กองหน้าลูกหม้อเก่าอย่าง มาเรียโน่ ดิอาซ ที่ดูแล้วยังไม่พร้อมจะมาแบกรับภาระสานต่องานเบอร์ 7 ด้วยซ้ำ ไม่ได้ซื้อคนที่เก่งในระดับใกล้เคียงกันมาร่วมทีม ซึ่งสุดท้ายเจ้าตัวลงเล่นให้กับทีมรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ไปเพียง 543 นาทีเท่านั้น รวมความพังของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ 2. พังตั้งแต่เริ่มฤดูกาล ดูเหมือน ฆูเลน โลเปเตกี ทำทีมอย่างไม่มีความสุขมาตั้งแต่เริ่มแล้ว จากการที่ เรอัล มาดริด แถลงว่า โลเปเตกี จะมาเป็นกุนซือใหม่ของทีม ทั้งที่ในเวลานั้นเจ้าตัวกำลังเตรียมทีมลุยศึกฟุตบอลโลกอยู่ เรื่องนี้ทำเอาทีมชาติสเปนไม่พอใจ สุดท้ายสหพันธ์ฟุตบอลสเปนเด้ง โลเปเตกี ออกทั้งที่เหลือเวลาอีกเพียง 1 วัน ศึกฟุตบอลโลกก็จะฟาดแข้งกันแล้ว สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องเก็บของออกจากแคมป์ทีมชาติและเปิดตัวกับ เรอัล มาดริด ในวันที่ฟุตบอลโลกเริ่มฟาดแข้ง ท้ายที่สุด โลเปเตกี ได้คุม เรอัล มาดริด แต่ไปไม่รอด เจ้าตัวดูไร้ความสุขกับการทำทีม และต้องการเวลาในการทำทีมมากกว่าแค่ 14 เกม แม้ขาโจ๋อย่าง รามอส จะดูเหมือนเข้าข้างอดีตโค้ช สเปน รายนี้ แต่สุดท้าย โลเปเตกี โดนเด้งในเดือนตุลาคม ปี 2018 ที่ผ่านมา หลังทำทีมแพ้ในเกมลาลีกา เป็นนัดที่ 4 ใน 5 นัดหลัง โดยเฉพาะนัดล่าสุดก่อนโดนปลดพ่ายบาร์ซ่าแบบหมดสภาพถึง 1-5 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เรอัล มาดริด ทำผิดและมันพังมาตั้งแต่เริ่มแล้ว หลังจากนั้น เรอัล มาดริด ต้องไปดึง ซานติอาโก้ โซลารี่ ตำนานของทีมที่รับบทโค้ชเยาวชนขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทน แต่ทว่าผลงานยังห่างไกลจาก ซีเนดีน ซีดาน อีกหลายขุม รวมความพังของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ 3. แพ้ บาร์เซโลน่า ใน เอล กลาซิโก้ เป็นความพังที่แฟน ราชันชุดขาว แทบไม่อยากนึกถึงมัน เพราะนี่คือการแพ้คู่ปรับตลอดกาลแบบพังยับเยิน คาบ้าน 2 นัดติดต่อกัน ทำให้ตอนนี้กล่าวกันว่า ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นสนามซ้อมที่ 2 ของ บาร์ซ่า ไปแล้ว นั่นทำให้ฤดูุกาลนี้ทั้ง 4 เกม เอล กลาซิโก้ เรอัล มาดริด สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลย เสมอ 1 แพ้ 3 นอกจากนี้จากผลที่ เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 0-1 ใน ลาลีกา เกมล่าสุด ทำให้ บาร์เซโลน่า สร้างสถิติเก็บชัยชนะมากกว่า เรอัล มาดริด ใน เอล กลาซิโก้ ในรอบ 87 ปี ด้วยการเอาชนะ ไป 96 เสมอ 51 ส่วน เรอัล มาดริด เอาชนะไป 95 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลวที่ใหญ่มากของ ราชันชุดขาว เพราะ บาร์เซโลน่า ตัดโอกาสพวกเขาในการคว้าแชมป์ในประเทศทุกรายการในฤดูกาลนี้ไปเรียบร้อย รวมความพังของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ 4. การล้างใบเหลืองของ รามอส เรียกได้ว่าเสียหายร้ายแรงมาก สำหรับการจงใจล้างใบเหลืองของกัปตันทีม เพราะหวังว่าจะเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมแบบสบายใจ แต่กลายเป็นว่าคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว คงต้องรอไปเล่นในฤดูกาลหน้าแทน เพราะ เรอัล มาดริด กระเด็นตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018/2019 เรียบร้อย ซึ่งในเกมกับ อาแจ็กซ์ เมื่อคืนที่ผ่านมาหากมีเขาลงช่วยทีมอะไรมันคงดีกว่านี้ รามอส หลุดปากให้สัมภาษณ์ว่าเขามีเจตนาแอบแฝงต้องการรับใบเหลืองหลังจบเกมที่บุกไปชนะ อาแจ็กซ์ 2-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดแรก นั่นทำให้ ยูฟ่า สอบสวนเพิ่มและแบนเขาเพิ่มจากเดิม 1 นัด เป็น 2 นัด ทั้งนี้ เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา นาโช่ เฟร์นานเดซ ต้องลงมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คคู่ ราฟาแอล วาราน ซึ่ง นาโช่ เฟร์นานเดซ กลายเป็นจุดรั่วของทีม และเขาโดนใบเหลืองแดงไล่ออกในเกมนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าเสียหายสุด ๆ หากย้อนกลับไปได้เจ้าตัวคงอยากลงช่วยทีมในนัดนี้และยอมที่จะโดนแบนในรอบถัดไปดีกว่าเพราะอย่างน้อยทีมก็เข้ารอบล่ะนะ รวมความพังของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ 5. มือเปล่า อดลุ้นแชมป์ทุกรายการ จากการตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้พวกเขาแทบจะหมดลุ้นแชมป์ทุกรายการแล้วในปี 2019 ในทางทฤษฎีพวกเขายังมีลุ้นแชมป์ ลาลีกา สเปน เพราะตามหลัง บาร์เซโลน่า อยู่ 12 แต้ม แต่ในทางปฏิบัติมันยากมากที่ บาร์เซโลน่า จะพลาดท่าในอีก 12 เกมลาลีกาที่เหลือในฤดูกาลนี้ อีกทั้งก็ไม่แน่นอนว่าหาก บาร์เซโลน่า พลาดพวกเขาจะได้แชมป์ ลาลีกา ไปครอง เพราะ แอตเลติโก มาดริด ทีมอันดับ 2 ตารางคงไม่ปล่อยโอกาสนั้นลอยนวล ส่วนรายการอื่น ๆ โกปา เดล เรย์ ก็โดน บาร์เซโลน่า เขี่ยตกรอบเรียบร้อย เช่นเดียวกับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ไม่มีโอกาสป้องกันแชมป์แล้วในฤดูกาลนี้ นานเท่าไหร่แล้วนะที่พวกเขามือเปล่าไร้ถ้วยติดมือ

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline