Team of the week : ทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์พรีเมียร์ลีก นัดที่ 30

จบลงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก นัดแมตช์เดย์ที่ 30 ประจำสัปดาห์นี้ ซึ่งวีคนี้จ่าฝูงยังคงเป็นของ แมนฯ ซิตี้  ที่มีคะแนนำหน้า ลิเวอร์พูลอยู่ 1 คะแนน และเหลือการแข่งขันอีกเพียง 8 นัดเท่านั้น ส่วนตำแหน่งอันดับที่ 4 มีการเปลี่ยนแปลงเป็น อาร์เซน่อล ได้ขึ้นมายึดบัลลังก์บ้างหลังเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0

ในส่วนของนักเตะ ก็มีหลากหลายคนโชว์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในทุกๆ ตำแหน่งเช่นเดิม วันนี้ทาง ขอบสนาม เราจึงได้ทำการจัดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ขึ้นมาเหมือนเคย จะมีใครเข้ามาติดบ้าง ติดตามรับชมกันได้เลย

ผู้รักษาประตู :

แบร์นด์ เลโน่ (อาร์เซน่อล) โดดเด่นพอสมควร และยังมีซุเปอร์เซฟสวยๆ ให้ชมกันอีก 2-3 จังหวะ นอกจากนั้นยังไหวพริบดีออกมาตัดบอลนอกเขตโทษได้อย่างสวยงามอีกด้วย

กองหลัง :

ลูอิส ดังค์ (ไบร์ทตัน) ปราการหลังวัย 27 ปีได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากในเกมที่บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ 1-2 นอกจากเกมรับที่สามารถบล็อกลูกยิงคู่แข่งได้ถึง 4 ครั้งแล้ว ยังสามารถทำ 1 แอสซิสต์ได้อีกด้วย วิลลี่ โบลี่ (วูลฟ์แฮมป์ตัน) ถือว่ามีฟอร์มที่โดดเด่นเลยทีเดียวทั้งการสกัดบอลได้ถึง 10 ครั้ง ไหนจะชนะ 100% ในเรื่องของการดวลกลางอากาศ ถ้าจะมีเสียอย่างเดียวก็คือทีมไม่สามารถรักษาคลีนชีตและ 3 คะแนนไว้ได้ เพราะต้องมาเสียประตูช่วงทดเจ็บท้ายเกม เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล) ถึงแม้ทีมจะเสียไป 2 ประตู แต่ ฟาน ไดค์ ก็ยังคงมาตรฐานความยอดเยี่ยมไว้ได้เหมือนเดิม เก็บกินได้หมดแทบจะทุกจังหวะโดยเฉพาะลูกเปิดจากด้าข้างของคู่แข่ง ซึ่งสถิติได้บอกว่าเจ้าตัวเอาชนะจากการปะทะคู่แข่งได้ถึง 7 ครั้งด้วยกัน

กองกลาง :

เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (เซาแฮมป์ตัน) ซัดฟรีคิกอย่างเฉียบคมจนทำให้ทีมเก็บชัยชนะเหนือ สเปอร์ส ได้สำเร็จ นอกจากนั้นยังเป็นการทำประตูจากลูกฟรีคิกได้ 2 นัดติดต่อกันอีกต่างหาก มากไปกว่านั้นในช่วง 9 นัดหลังสุด เจ้าตัวไปได้ถึง 6 ประตูเลยทีเดียว อดัม ลัลลาน่า (ลิเวอร์พูล) ไม่แน่ว่านี้อาจจะเป็นเกมที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้ เพราะวิ่งเป็นม้า ใส่แบบไม่มีหมด ขยันไล่บอลจนมีส่วนร่วมกับทีมในจังหวะประตูขึ้นนำ 2-1 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ฟอร์มโคตรเฉียบ! สำหรับ สเตอร์ลิ่ง ในเกมล่าสุด โดยแฮตทริกที่เจ้าตัวทำได้นั้นเกิดขึ้นโดยใช้เวลาไปเพียง 13 นาที 12 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดนับตั้งเดือนกันยายน 2016 ที่ ลูกากู ทำไว้ที่ 11 นาที 37 วินาที เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส (อาร์เซน่อล) ฟอร์มเด่นเลยทีเดียวโดยเฉพาะในช่วงครึ่งเวลาหลัง เป็นกำลังสำคัญในแนวรับของทีม และปิดเกมรุกทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ แมนฯ ยูไนเต้ด ได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเซอร์ไพร์สพอสมควรเลยกับฟอร์มของเจ้าหนูวัย 21 ปี ในเกมนัดนี้

กองหน้า :

ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) ยังคงยิงประตูให้กับทีมได้เรื่อยๆ โดยจบเกมนัดนี้ทำให้ยอดรวมประตูในลีกของ มาเน่ ไปอยู่ที่ 16 ประตูเข้าให้แล้ว ซึ่งที่จริงมันน่าจะบวกเพิ่มได้อีก 1 ประตูด้วยถ้าจังหวะชาร์ตจ่อๆหน้าโกล บอลไม่กระเด้งไปชนคานเสียก่อน อโยเซ่ เปเรซ (นิวคาสเซิล) จัดการเหมาคนเดียว 2 ประตู ในช่วงเวลาเพียง 5 นาที นอกจากนั้นยังเป็นคนแอสซิสต์ประตูตีไข่แตกอีกด้วย ทำให้ทีมพลิกสถานการณ์ของทีมให้กลับมาเก็บชัยชนะได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-2  หลังจากที่โดน เอฟเวอร์ตัน บุกมานำไปก่อนถึง 2-0 ในช่วงครึ่งเวลาแรก เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้) 2 ประตู ที่ทำได้ในเกมล่าสุดส่งผลให้ เจมี่ วารืดี้ กลายเป็นแข้ง เลสเตอร์ ที่สามารถทำประตูให้ทีมได้ครบ 100 ประตู ซึ่งเป็นนักเตะที่คนแรกที่ทำได้ันับตั้งแต่ แกรี่ ลินิเกอร์