logo-heading

มนุษย์มักชอบยึดติดกับความเชื่อแบบเดิมที่ว่าอะไรที่ผ่านมามันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปได้

ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆในวงการฟุตบอลก็คือสถิติเคยข่มยังไงมันก็เป็นอยู่แบบนั้นแหละ ตรรกะแบบนี้มันแค่สิ่งที่หลงระเริงเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างของวงการหมากเตะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีสิ่งไหนจีรังยั่งยืน ไม่มีทีมไหนจะเก่งได้ตลอดรอดฝั่ง เฉกเช่นเดียวกับเหตุการณ์ลูกหนังไทยที่มันชอบบอกย้ำเตือนอยู่เสมอว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันย่อมเป็นในรูปเดิม อวยกันเองปรุงแต่งด้วยคำพูดที่เลิศหรูแต่สุดท้ายพอเจอของจริงก็เข้าอีรอบเดิมที่จบด้วยความว่างเปล่าแบบช้ำๆ ขอบสนามคัดสรร 5 เหตุการณ์ที่ชักนำให้วงการลูกหนังไทยกลับมาสู่ความจริงไม่ใช่โลกที่อุปโลกน์อีกต่อไป เนื้อหาทุกอย่างพร้อมเสิร์ฟอยู่ด้านล่างแล้วครับพี่น้อง 1.ปรีโอลิมปิก 1995 5 เหตุการณ์สะกิดบอลไทยกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ธวัชชัย สัจจกุล นักธุรกิจที่เติบโตจากการทำบริษัทรับเหมาก่อสร้าง มีความคิดอยากทำฟุตบอล จนขันอาสาขอปลุกปั้นทีมชาติไทยที่กระแสซบเซาให้กลับมาอีกครั้ง “บิ๊กหอย” จัดการเฟ้นหาแข้งดาวรุ่งโนเนมฝีเท้าดีจากทั่วประเทศ ผสมผสานกับพวกดาวรุ่งตัวสำรองจากสโมสรใหญ่ในเวลานั้นที่ไม่มีโอกาสได้เล่นบอลถ้วยพระราชทานก. มาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่สนามของตัวเองในย่านเม๋งจ๋าย มีแคมป์ที่พัก พร้อมเบี้ยเลี้ยงซ้อมให้ เป้าหมายของชายหนุ่มจากนราธิวาสคือการปรุงแต่งทีมชุดนี้ไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลชายกีฬาโอลิมปิก เกมส์ 1996 ที่แอตแลนต้า ในสหรัฐ ดรีมทีมนั้นเริ่มต้นด้วยการตกรอบรองชนะเลิศฟุตบอลคิงส์คัพ พ.ศ.2536 ก่อนที่ปีต่อมาทีมชุดนั้นจะก้าวไปคว้าแชมป์ในปีถัดมาแบบชนิดหักปากกาเซียน แกนหลักทีมชุดนั้น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน, พัฒธนพงศ์ ศรีปราโมช ฯลฯ แข้งชุดนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจสุดขีด ลงเล่นด้วยความมุ่งมั่น พวกเขาถูกบ่งเพาะฝีเท้าโดย”โค้ชจอมฟิต” ชัชชัย พหลแพทย์ จนประสบความสำเร็จในการจบที่ 3 เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย19 ปีที่อินโดนีเซีย และแชมป์ฉลองเอกราชที่ดินแดนอิเหนาในปีเดียวกัน ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างจบลงด้วยโศกนาฏกรรมในวันที่ 26 พฤษภาคม 1995 (พ.ศ.2538) เกมคัดเลือกปรีโอลิมปิกที่สุพรรณบุรี พวกเขาโดนญี่ปุ่นสอนเชิงไปด้วยสกอร์ท่วมท้น 5-0   โชจิ โจ, มาซาคิโยะ มาเอโซโนะ คือดาวเด่นในดับซ่าไทย และเกมนัดนั้นถือเป็นการสิ้นสุดทีมชาติไทยชุดดรีมทีมไปโดยปริยาย โดยข้อคิดที่เกิดขึ้นในเกมวันนั้นสำหรับทีมไทยเรามัวแต่มองแต่ตัวเองคิดว่าตัวเองเก่งจริง แต่ไม่ได้มองย้อนดูคู่แข่งหรือศึกษาฟอร์มพวกเขาจนสุดท้ายความประมาทย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง 2.คัดเลือกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 5 เหตุการณ์สะกิดบอลไทยกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง “โกลเด้น เจเนเรชั่นส์” ชื่อที่สื่อไทยทั้งเว็ปไซต์และออนไลน์บ้างค่ายต่างให้สมญานามให้แก่ กลุ่มทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในยุคของอเล็กซานเดร กาม่า ที่มีชื่อติดทีมไปทำการแข่งขันคัดเลือก 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่เวียดนาม เด็กชุดนั้นหลายๆคนก้าวมาเป็นตัวหลักให้สโมสรตั้งแต่อายุยังน้อย อาทิเช่น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ศุภขัย ใจเด็ด, สุรโชค สารชาติ, วิศรุต อิ่มอุระ, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ฯลฯ “กาม่า” ได้วัตถุดิบชั้นพรีเมี่ยมที่เขาคิดว่าดีสุดในสายตาตัวเองจากบอลลีกและเลือกตัดเด็กฝีเท้าดีชุดรองแชมป์22 ปีอาเซียนออกเกือบทั้งทีม แน่นอนว่าเด็กแทบไม่มีความคุ้นเคย ประกอบกับเวลารวมทีมน้อย ซ้อมกำหนดแท็คติกจึงทำได้ไม่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่ทีมชุดนี้จะเล่นด้วยทีมเวิร์คและสุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาแค่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการหาพื้นที่จบสกอร์ 2 เกมไทยขยี้อินโดนีเซีย 4-0 ล้างตาจากการแพ้ในรอบชิงอาเซียน22 ปี, ตามด้วยการสอนบอลบรูไน 8 เม็ด แน่นอนว่ามันไม่ใช่ดัชนีชื้วัดว่า “ข้าคือของจริง” เกมนัดสุดท้ายไทยโคจรมาเจอกับเจ้าภาพ เวียดนาม ที่ชนะ 2 เกมรวดมาเช่นกัน มันคือการตัดสินหาแชมป์กลุ่มเค และอีกมุมหนึ่งคือการวัดคุณภาพทั้ง 2 ชาติที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองคือเบอร์1 ของอาเซียน เด็กๆในคาถากาม่า พยายามเล่นคุมโซน หาจังหวะสวนกลับ แต่ดูเหมือนว่าเวียดนามจะดูออกจัดการเล่นบอลหนักใส่ผู้เล่นไทย แถมใช้สปีดบอลที่เร็วเข้าโจมตี ขุนพลญวนเล่นด้วยทีมเวิร์คใส่ความมุ่งมั่นกระหายที่จะล้มไทยให้ได้ บทสรุปสกอร์บอร์ดเมื่อสิ้นสุดเข็มนาฬิกาในสนามกีฬาแห่งชาติฮานอย จบลงที่ 4-0 มันบ่งบอกเลยว่าเด็กชุดที่ว่าดีสุดในสายตาสื่อมวลชนและแฟนบอลที่ต่างอุปโลกน์ เป็นฝ่ายล้าหลังลูกหลานโฮจิมินส์อยู่1 ก้าว 3.โดนอิรักถล่มยับคัดบอลโลก ยุคซิโก้ 5 เหตุการณ์สะกิดบอลไทยกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผู้ชายที่ชื่อเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นำทีมชาติไทยกลับมาครองแชมป์อาเซียน คัพ ในปี 2014 เรียกศรัทธาจากแฟนบอลไทยให้เข้ามาดูบอลไทยแน่นสนามอีกครั้ง เมื่อผลงานสวยหรูอย่างต่อเนื่องในรอบคัดเลือกบอลโลก 2018 โซนเอเชีย รอบ 40 ทีมสุดท้ายไปได้สวย 6 เกมแรกไทยจบด้วยเป็นแชมป์กลุ่มเอฟ มี 14 แต้ม เหนืออิรัก 2 แต้ม แถมพวกเขาเกือบเป็นฝ่ายชนะทีมจากแบกแดดเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าในเวลานั้นกุนซือจอมตีลังหาชะล่าใจอยู่ไม่น้อยที่นำทีมปาดหน้าอิรักเข้ารอบไปได้ ทว่าหลังจากนั้นอิรักมีการโละนักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชใหม่ทั้งหมด โดยผลักดันดาวรุ่งจากทีมชุดอันดับ 4 เยาวชนโลก 20 ปีที่ประเทศตุรกี เมื่อปี 2013 ขึ้นมาเล่นในทีมชาติแทน ในที่สุดอิรักได้โคจรกลับมาเจอทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบ 12 ทีมสุดท้าย โดยก่อนเกมยอดโค้ชขวัญใจแฟนบอลชาวไทยประกาศจะเก็บแต้มจากเกมนี้ออกมาให้ได้  แต่นั้นคือวาทะก่อนแข่ง เกมคัดบอลโลก นัดที่ 4 ในสายบี ลูกหลานชาวเมโสโปเตียเมีย จัดการบอมบ์ใส่แบบทบต้นทบดอก โจมตีจุดบอดในเรื่องเกมรับทางฝั่งขวา เล่นงานคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟไทย และตัดการขึ้นเกมทางริมเส้นของทีมไทยจนหมดสิ้น ผลการแข่งขัน 4-0 แสดงให้เห็นเลยว่าคู่แข่งไม่เคยมองผลงานเก่าๆ  หากยึดติดกับเรื่องเดิม ไม่หากลยุทธ์ใหม่มาสู้คุณจะเป็นฝ่ายปราชัยแบบหมอไม่รับเย็บ 4.17 ปีชุดแชมป์เอเชียปี 1998 โกงอายุ 5 เหตุการณ์สะกิดบอลไทยกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 17 ปีของ”โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ประสบความสำเร็จในการคว้ารองแชมป์เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ปี 1996 (พ.ศ.2539) จนได้โควต้าไปฟุตบอลเยาวชนโลก 1997ที่ประเทศอียิปต์ แม้ผลงานรอบสุดท้ายจะแพ้รวดแต่ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์วงการลูกหนังไทย เมื่อประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งชุด ดูเหมือนว่าองค์กรลูกหนังไทยในเวลานั้นอยากสานต่อความสำเร็จ “น้าติ๊ก” สมชาติ ยิ้มศิริ , “โค้ชก็อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ถูกตั้งเป็นกุนซือ โดยมีแบ็คอัพจากกลุ่มชลบุรี ที่ทำหน้าที่ซัพพอร์ทเรื่องเงิน ไทยผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่กาตาร์ ในปี 1998 (พ.ศ.2541)  ไปได้แบบไม่ยากเย็น รอบ10 ทีมสุดท้ายไทยผ่านชาติอาหรับตัวเก็งทั้งอิหร่าน, อิรัก, บาห์เรน จนเข้าชิงเจอกับเจ้าภาพคือกาตาร์ ก่อนจะเบียดชนะไปในช่วงการยิงจุดโทษคว้าแชมป์ไปครอง พร้อมกับสิทธิ์ไปเยาวชนโลก 1999 ที่นิวซีแลนด์ แข้งตัวหลักในทีมชุดนั้น มาโนช ปัญญาคง,ธนสิทธิ์ ทองอินทร์, สถิต แพงมา, นิคม ไสยสิทธิ์ และ สุริยันต์ แจ่มแจ้ง ที่เป็นดาวซัลโว 6 ประตู และนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ เรื่องราวประดุจดั่งเทพนิยายกำลังไปได้สวย แต่เหมือนเทวดาเกือบตกสวรรค์ ชาติอาหรับที่แพ้ไทย ต่างยื่นประท้วงต่อเอเอฟซีในข้อหาโกงอายุ ผลพ่วงดังกล่าวทำให้ไทยโดนปรับเงิน และเด็กโข่งชุดนี้นถูกโละทิ้งไปในที่สุด 5.ฟุตบอลถ้วยสโมสรเอเชีย 5 เหตุการณ์สะกิดบอลไทยกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ประวัติศาสตร์ลูกหนังไทยอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในทวีปมากหนัก แต่บทบันทึก1 เรื่องที่น่าประทับใจคือความสำเร็จของทีมธนาคารกสิกรไทย ทีมลูกหนังองค์กรเงินทุนระดับประเทศไทยที่หาญกล้า สยายปีกขึ้นมาเป็นแชมป์แชมป์พระราชทาน ก. จนต่อยอดสู่ความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์ฟุตบอลเอเชี่ยน คลับ แชมเปี้ยนชิพ (เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก) 2 สมัยติดต่อกัน ในช่วงปี 1994 (พ.ศ.2537), 1995  (พ.ศ.2538) แต่ปัจจัยอย่างหนึ่งที่เอื้อประโยชน์ให้ขุนพลร่วงข้าวเป็นแชมป์คือ ระบบการแข่งขันสมัยก่อนของบอลสโมสรเอเชีย ยังไม่เป็นมืออาชีพเท่าที่ควร เนื่องจากยุคก่อน จะใช้การแข่งขันแบบหาชาติเจ้าภาพ โดยที่ไม่มีระบบเหย้าเยือน นั้นจึงทำให้เราแทบไม่เห็นมาตรฐานที่แท้จริงของคุณภาพทีมสโมสรเมืองไทยเวลาเจอสถานการณ์กดดัน เฉกเช่นเดียวกันเมื่อมีการปฏิรูปฟุตบอลสโมสรเอเชียใหม่ เมื่อปี 2002-2003 (พ.ศ.2545-2546),  แต่ยังมีกฏเตะรอบแบ่งกลุ่มในประเทศไทย บีอีซี เทโรศาสน จึงอาศัยข้อได้เปรียบตรงนี้ ปราบเซี่ยงไฮ้ เซิ่นหั่ว, แดจอน ซิตี้เซ่น, และยันเสมอคาชิม่า แอนธ์เลอรส์ ผ่านเข้าสู่รอบรอง ก่อนจะไปพ่ายอัล-ไอน์ ในรอบชิงที่น่ากังขา 5 เหตุการณ์สะกิดบอลไทยกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง หลังจากที่ทีมเจ้าทุ่มบุญเมืองไทย ก้าวไปถึงการเป็นรองแชมป์สโมสรเอเชียในหนนั้น เอเอฟซี จึงทำเลือกจัดการแข่งขันให้ดูสากลขึ้น เตะเหย้าเยือน รอบแบ่งกลุ่มขึ้นในปี2004 ซึ่งทำให้สโมสรจากเมืองไทยได้รับผลกระทบเต็มๆ เมื่อต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือน และกลายเป็นเพียงทีมที่ได้แค่เข้าร่วมการแข่งขันจนหลุดโผโควต้าในจัดค่าสัมประสิทธิ์ขององค์กรลูกหนังเอเชียไปร่วมๆ3 ปี ก่อนจะกลับมาได้โควต้ารอบแบ่งกลุ่มอีกครั้งในปี 2012 ปัจจุบันไทยลีกมีคะแนนสะสมของเอเอฟซี อยู่ที่อันดับ 6 ได้สิทธิ์ลงแข่ง1+2 (รอบแบ่งกลุ่ม, เพลย์ออฟ)

เอ็มเร่

[email protected]

**ขอบคุณภาพประกอบ : แฟนเพจรูปฟุตบอลไทยในอดีต tommy bar, นิตยสารฟุตบอลสยาม, มนต์ชัย สุขโข
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline