5 ยอดแข้งที่ดีที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ ในยุค ท่านชีค

นับตั้งแต่กลุ่มทุน "อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป" นำโดยท่าน "ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน" เข้ามาเทคโอเวอร์ฮุบกิจการสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2008 ก็ทำให้ทีมจากที่อยู่กลางตาราง กลายมาเป็นทีมยักษ์ใหญ่ ที่พร้อมคว้าแชมป์ทุกรายการที่ขวางหน้า ไปในพริบตา ด้วยการทุ่มเม็ดเงินมากมายเพื่อดึงบรรดานักเตะระดับท็อปมาค้าแข้งกับทีม

หลายคนโด่งดังเป็นพลุแตก และเตรียมกลายเป็นตำนานกับสโมสรในอนาคต หลังสามารถคว้าแชมป์มากมายมาประดับทีม ด้วยนักเตะที่ทำผลงานจนพาสโมสรผงาดขึ้นมามีมากมาย เราจึงขอคัดมา 5 คนเด่นๆที่ดีที่สุด ที่ถูกซื้อเข้ามาในยุค "ท่านชีค"

5. เควิน เดอ บรอยน์ "เคดีบี" กำลังเป็นแกนหลักคนสำคัญสร้างให้ แมนฯ ซิตี้ ดูไร้เทียมทาน ถึงแม้เขาเพิ่งจะย้ายจาก โวล์ฟสบวร์ก มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2015 และได้แค่แชมป์ "ลีก คัพ" มาครอง 2 สมัย แต่ตอนนี้ เดอ บรอยน์ คือเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะเขาคอยแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูครั้งแล้วครั้งเล่า รวมแล้ว 42 ครั้ง ในศึก พรีเมียร์ลีก ทั้งที่ยังเล่นไม่ถึง 100 นัด เรียกได้ว่าขาดใครก็ได้ แต่อย่าขาด เดอ บรอยน์ และต่อให้ "เรือใบสีฟ้า" จะมีผู้เล่นดีๆมากมายในอดีต แต่ทว่ามิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยม คือคนที่จะช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ทำลายสถิติทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยเฉพาะการเป็นแชมป์ลีกแบบทำคะแนนมากที่สุด 4. แว็งซ็องต์ ก็องปานี นับเป็นนักเตะรายแรกๆที่ย้ายเข้ามาร่วมทัพ "เรือใบสีฟ้า" ในเวลาไร่เรี่ยกับที่ท่าน "ชีค มานซูร์ " เทคโอเวอร์กิจการสโมสรเมื่อปี 2008 เขาถูกจดบันทึกว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของสโมสร เพราะถึงแม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง แต่ยามใดที่มีชื่อลงสนาม เขาเสมือนเป็นภูผาน้ำแข็งคอยปัดกวาดไม่ให้ แมนฯ ซิตี้ เสียประตู เหมือนที่เขาได้ทำให้เห็น พร้อมกับยิงประตูได้ในเกมชนะ อาร์เซน่อล 3-0 นัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ด้วยค่าตัวที่ถูกแสนถูกเพียง 6 ล้านปอนด์ นับว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าเกินราคาจนหาที่เทียบมิได้ นอกจากผลงานอันแข็งแกร่ง ก็องปานี คือกัปตันทีมคนแรกของ แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ชูถ้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 2 สมัย 3. ดาบิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติสเปน ย้ายจาก บาเลนเซีย มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ หลังคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2010 มาครอง และอยู่ในชุดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของสโมสร ซิลบา มีจุดเด่นในการจ่ายบอลทะลุทะลวง, เก็บบอลดีทักษะเยี่ยม และยังสามารถทำประตูได้อย่างเฉียบคมอีกด้วย แน่นอนเขาเป็นตัวกำหนดจังหวะการเล่นให้ทีมเล่นบอล ก่อนจะรังสรรค์แอสซิสต์ให้กับเพื่อนไปแล้ว 73 ครั้งในศึก พรีเมียร์ลีก พร้อมกับอีก 47 ประตู เสกแชมป์ลีกมาให้กับทีม 2 สมัย พร้อมกับ ลีก คัพ 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 1 สมัย จึงไม่แปลกที่เขาเตรียมกลายเป็นว่าที่ตำนานของสโมสร เพราะปัจจุบันก็ยังคงเป็นแกนหลักให้กับทีมอยู่เสมอ 2. ยาย่า ตูเร่ หากย้อนกลับไป 7-8 ปีก่อน ยาย่า ตูเร่ คือมิดฟิลด์คนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะขาดไปไม่ได้สักวินาทีเดียว โดยค่าตัวที่ซื้อมาจาก บาร์เซโลน่า 24 ล้านยูโร เมื่อปี 2010 กลายเป็นถูกแสนถูกไปเลย ซึ่ง ยาย่า คือฮีโร่ ของเหล่า "เดอะ ซิตี้ เซนส์" เพราะยิงประตูชัยดับคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ จากนั้นนัดชิงชนะเลิศก็ยังยิงซัดให้ "เรือใบสีฟ้า" เฉือนชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 เมื่อปี 2011 คว้าแชมป์มาครองเป็นโทรฟี่แรกให้กับสโมสร นับตั้งแต่ปี 1976 พร้อมกับเป็นกำลังหลักซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อีก 2 สมัย แต่ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น ความสำคัญในทีมจึงลดลงไป อย่างไรก็ตาม ยาย่า จะถูกจดจำในฐานะตำนานนักเตะของสโมสร 1. เซร์คิโอ อเกวโร่ หากพูดถึงความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ จะขาดชายที่ชื่อว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ ไปไม่ได้เลย นับตั้งแต่ที่ "กุน" เก็บข้าวของย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด ย่างก้าวมาล่าตาข่ายในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2011 ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ เขาก็กลายมาเป็นศูนย์หน้าเบอร์ 1 ของสโมสรทันที ทำประตูแตะหลัก 10 ทุกซีซั่น และซัดเกิน 20 ตุง มาแล้ว 4 ฤดูกาลติดต่อกัน พร้อมพาทีมคว้าแชมป์มากมาย โมเมนท์สำคัญที่กลายเป็นประวัติศาสตร์คือการยิงประตูชัยเฉือนเอาชนะ ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 ทดเจ็บนาทีสุดท้าย ปาดหน้าแซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011-12 ไปอย่างดราม่า ปัจจุบันเขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ "เดอะ ซิตี้ เซนส์" เรียบร้อย