logo-heading

ฟุตบอล “ไทยลีก 2019” เพิ่งเตะไป 5 นัดยังไม่ทันถึงโค้งแรกของฤดูกาลที่ต้องเตะกัน 30 เกม แต่มีกุนซือที่ตกเก้าอี้ไปแล้ว 2 ราย หากนับตั้งแต่เตรียมทีมตัวเลขจะขยับเป็น 4 คน !!!

ย้อนกลับไปปี 2018 จาก 18 ทีมมีถึง 11 สโมสรที่โค้ชอยู่ไม่ครบเทอมจนจบฤดูกาล รวมแล้วมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้ฝึกสอนไปถึง 20 ครั้ง บางทีมใช้โค้ชเปลืองถึง 4 คน บางทีม 3 คนบ้าง 2 คนบ้าง และหลายทีมเปลี่ยนอย่างน้อย 1 คน อาจเป็นเพราะปีที่แล้วเป็น “ฤดูกาลหฤโหด” มีการตกชั้นถึง 5 ทีม อย่างไรก็ดี “ไทยลีก” ได้ชื่อว่าเป็น “ลีกกินโค้ช” มาหลายฤดูกาลแล้ว ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลมักมีการคาดหมายกันเล่นๆว่าปีนี้จะมีโค้ชตกงานเยอะกว่าเดิมหรือไม่ พอเตะไปจริงๆ แค่ 2-3 เกมเริ่มมีถามกันว่า “ใครจะไปคนแรก ?” สำหรับ “ไทยลีก 2019” หากนับคนแรกกันจริงๆอาจบอกได้ว่าเริ่ม “กินโค้ช” ตั้งแต่ยังไม่เปิดฤดูกาลด้วยซ้ำ ไทยลีก 2019 (เริ่ม) กินโค้ช !!! ประเดิมที่ มานูเอล มาโนโล มาร์เกวซ กุนซือใหม่ชาวสเปนที่แยกทางกับ “ราชบุรี มิตรผล” เป็นรายแรกหลังรับงานคุมทีมเพื่อฤดูกาล 2019 ได้แค่ไม่กี่วัน ตามข่าวระบุว่า “มาโนโล” ได้งานใหม่ที่ยุโรปเลยเท “ราชันมังกร” ดื้อๆ แต่หลังไมค์มีการลือกันเสียงดังว่าเป็นเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน !!! ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร แต่ถือได้ว่า “มาโนโล” บ๊ายบายเป็นรายแรก ไทยลีก 2019 (เริ่ม) กินโค้ช !!! รายต่อมาเป็น โจเซ อัลเวส บอร์จีส กุนซือบราซิลที่ถูก “สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด” ปลดหลังพาทีมพ่ายใน “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ 2019” กรณีของ “โจเซ” ถือว่าสร้างความงุนงงพอสมควร เพราะช่วงปรีซีซั่น “กว่างโซ้ง” ทำผลงานถือว่าโอเคคว้าแชมป์ “ลีโอ ปรีซีซั่นคัพ 2019” รับการเปลี่ยนแปลงทีมใหม่ แต่ไม่กี่วันต่อมาใน “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ 2019” ทัวนาเมนต์เริ่มต้นสู่ฤดูกาลใหม่ “โจเซ” พาทีมพ่าย บุรีรัมย์​ ยูไนเต็ด 1-3 หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ก็ถูกปลด !!! ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆต่อการปลดโค้ชในช่วงไม่กี่วันก่อนเตะ “เอเอฟซี แชมเปียนลีก 2019” รอบคัดเลือก แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่ระบุชัดเจนถึงการแยกทางกันในครั้งนี้ “โจเซ” ไม่ได้คุมทีมลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย และเป็นการถูกปลดก่อน “ไทยลีก” ฤดูกาลใหม่จะเริ่มไม่ถึง 2 สัปดาห์ ทั้ง “มาโนโล” และ “โจเซ” เริ่มต้นนับ 1 เตรียมทีมทีมเพื่อเข้าสู่ “ไทยลีก” ฤดูกาลใหม่ แต่กลับต้องโบกมือลาตั้งแต่ยังไม่เริ่มเตะนัดแรก !!! ไทยลีก 2019 (เริ่ม) กินโค้ช !!! สำหรับโค้ชที่ตกเก้าอี้เป็นรายแรกหลังเปิดสนามคือ ฟรานเชส บอช กุนซือสเปนของ ราชบุรี มิตรผล ที่คุมทีมไปได้แค่ 4 เกม จริงๆแล้ว “บอช” ไม่ใช่ตัวเต็งที่จะกระเด็นรายแรกในช่วงต้นฤดูกาลเพราะพาทีมซิว 3 แต้มในนัดเปิดสนาม แต่หลังจากนั้นอีก 3 เกม “ราชันมังกร” กลับแพ้รวดจนเริ่มมีการวิเคราะห์กันว่า “บอช” จะอยู่รอดหรือไม่ กระทั่งถึงช่วงหยุด “ฟีฟ่าเดย์” ทางสโมสรได้สร้างความฮือฮาเปิดตัว มาร์โค ซิโมเน อดีตนักเตะดังของ เอซี มิลาน มาเป็นกุนซือคนใหม่ ส่วน “บอช” ถอยไปเป็นทีมงานผู้ฝึกสอน ราชบุรี มิตรผล ใช้โค้ชไปถึง 4 รายเมื่อปี 2018 ข้ามมาถึงปี 2019 ใช้ไปแล้ว 2 คน แต่การมาของ มาร์โค ซิโมเน ถือว่าเปิดตัวสวยชนะทีมใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สถานการณ์ของ “ราชันมังกร” ดีขึ้นเยอะหลังเก็บ 3 แต้มหยุดสถิติแพ้ติดต่อกันไว้ที่ 3 นัด แต่ตรงกันข้ามกับ “กิเลนผยอง” ที่ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนได้ ไทยลีก 2019 (เริ่ม) กินโค้ช !!! “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ที่ถูกจับตามองมาตลอดว่า “ไม่น่าอยู่ครบฤดูกาล” ตัดสินใจลาออกรับผิดชอบผลงานหลังพาทีมไปแพ้ที่ มิตรผล สเตเดียม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชเบ๊” มีสถิติเตะ 5 นัด ชนะ 2 แพ้ 3 เก็บได้ 6 แต้ม อยู่อันดับ 10 ของตารางคะแนน ผลงานแบบนี้หากเป็นทีมอื่นอาจไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่สำหรับอดีตแชมป์ไทยลีก 4 สมัยแล้วคงไม่ใช่ “โค้ชเบ๊” ที่ถูกกดดันมาตั้งแต่พาทีมแพ้รวด 2 นัดแรกจึงต้องโบกมือลา สิ่งที่น่าสนใจหลังจากนี้คือ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเลือกใครมากุมบังเหียน เปลี่ยนโค้ชแล้วผลงานจะดีขึ้นหรือไม่ เหล่าสาวก “กิเลนผยอง” ต้องคอยติดตามกันต่อไป รวมถึงแฟนลูกหนังไทยต้องตามลุ้นกันด้วยว่าใครจะเป็นรายต่อไปที่ต้องตกเก้าอี้กุนซือก่อนเวลาอันควร ถึงตรงนี้คาดเดาลำบากเพราะสถานการณ์หลายๆทีมเริ่มคลี่คลาย

แต่ขึ้นชื่อว่า “ลีกกินโค้ช” อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ลองมาลุ้นกันดูว่าปีนี้สถิติ “กินโค้ช” จะมากหรือน้อยกว่าเดิม ?

“บับเบิ้ล”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline