รวมทีมแต้มเยอะแต่จบแค่รองแชมป์ลีกใหญ่

ในซีัซั่นนี้ของศึก พรีเมียร์ ลีก ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล หรือ ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมไหนจะได้แชมป์ ก็คงเป็นปีที่สุดยอดของพวกเขา แต่ว่าสำหรับทีมที่ได้รองแชมป์ มันคงเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวด เพราะว่าได้แต้มมากมายมหาศาล ว่าแล้วทางขอบสนามก็จะขอนำทุกท่านไปพบกับ ทีมที่ได้แต้มเยอะแต่จบแค่อันดับสองกัน 1. เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2009-10 ในซีซั่นนั้น เรอัล มาดริด นั้นมาดีเหลือเกินภายใต้การคุมทัพของ มานูเอล เปเยกรินี่ เทรนเนอร์ชาว ชิลี พวกเขาทุบสถิติของโลกถึงสองครั้งในตลาดรอบเดียว ทั้งคว้าตัว กาก้า มาจาก เอซี มิลาน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก็เก็บแต้มอย่างต่อเนื่องซึ่งถ้าหากว่าเป็นปีอื่น ๆ ก็คงจะไปคว้าแชมป์แบบสบาย ๆ แต่ว่าความซวยของพวกเขาก็คือดันต้องมาเจอกับ บาร์เซโลน่า ที่คุมทัพโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่นำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งแข็งแกร่งเหลือเกิน ผลก็คือ แม้ว่าปีนั้น เรอัล มาดริด จะกดไปถึง 96 คะแนน แต่ว่ามันก็ไม่เพียงพอ เพราะว่า บาร์ซ่า นั้นเก็บไปได้ถึง 99 คะแนน 2. บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2011-12 หลังจากที่เป็นแชมป์ ลา ลีกา มาสามสมัยติด บาร์เซโลน่า ก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะคว้าแชมป์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยพวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งของปีเช่นเคย แต่ว่าปีนี้ เรอัล มาดริด ที่เป็นรองแชมป์มาตลอด ของ โชเซ่ มูรินโญ่ นั้นมาดีเหลือเชื่อ จนทำให้ บาร์ซ่า ฝันสลาย ถ้าถามว่าปีนั้น บาร์ซ่า เล่นแย่หรือไม่ มันก็คงไม่ใช่ เพราะว่าพวกเขาจัดการเก็บไปถึง 91 คะแนน ซึ่งหากไปเล่นปีอื่น ๆ ก็คงจะคว้าแชมป์แบบไม่ยาก แต่ว่าดันมาเป็นในปีที่ เรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์ของลีกด้วยการซัดไป 100 คะแนน ด้วยกัน 3. นาโปลี ฤดูกาล 2017-18 ในซีซั่นที่แล้วของศึก เซเรีย อา หลายคนอาจจะมัวแต่ไปมองความยอดเยี่ยมของ ยูเวนตุส ที่จบซีซั่นด้วยการเก็บไป 95 คะแนน แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมก็คือ นาโปลี ภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เล่นได้อย่างคงเส้นคงวาและเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าน่าเสียดายที่มันยังไม่ดีพอ เพราะว่าในปีนั้น นาโปลี นั้นเก็บไปได้ถึง 91 คะแนน แต่ว่ามันกลับไม่เพียงพอ และทำให้พวกเขากลายเป็นรองแชมป์ที่มีคะแนนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ศึก กัลโช่ เซเรีย อา 4. เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2015-16 ในซีซั่นนั้นทำท่าว่าจะเป็น ซีซั่นที่ล้มเหลวของทีม “ราชันชุดขาว” เพราะว่าเริ่มต้นได้ไม่สวยงามนักในยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ จนโดน บาร์เซโลน่า ทีมคู่ปรับตลอดกาลทิ้งห่างไปไกลหลายช่วงตัวตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น แต่ว่าการเข้ามาของ ซีเนอดีน ซีดาน นั้นทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง เรอัล มาดริด เก็บแต้มเป็นว่าเล่นคว้าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็น่าเสียดายที่แต้มก่อนหน้านี้มันห่างเกินไป ทำให้พวกเขาไล่กวด บาร์เซโลน่าไม่ทัน โดยพวกเขาได้ไปทั้งสิ้น 90 คะแนน แพ้ บาร์ซ่า แค่คะแนนเดียวเท่านั้น 5. บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2016-17 หลังจากที่มี โมเมนตัม ที่ดีมาจาก ซีซั่นที่แล้ว เรอัล มาดริด ก็ทวงตำแหน่งแชมป์ ลา ลีกา คืนมาจาก บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ แม้ว่า บาร์ซ่า จะยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าการที่ ซีดาน พาทีม “ราชันชุดขาว” ฟาดไปถึง 93 คะแนน มันก็เลยทำให้ 90 คะแนน ที่บาร์ซ่า อุตส่าห์ทำได้ มันก็ยังไม่พอ สำหรับการป้องกันแชมป์ 6. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2011-12 เป็นปีที่ขับเคี่ยวสุด ๆ ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ ลีก กับการแย่งแชมป์ของสองทีมจากเมือง แมนเชสเตอร์ นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น แมนซิตี้ ที่คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จจากการยิงประตูชัยในวินาทีสุดท้ายของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ในเกมนัดสุดท้ายของซีซั่นกับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ส่งผลให้ทีมที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะว่าปีนั้นพวกเขาเก็บรวมไปได้ถึง 89 คะแนน เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ว่าเป็นรองแชมป์ด้วยผลต่างประตูได้เสียเท่านั้น และยังส่งผลให้พวกเขากลายเป็นรองแชมป์ที่มีแต้มมากสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ ลีก อีกด้วย [caption id="attachment_77569" align="aligncenter" width="840"] 7. ปารีส แซงต์-แชร์กแมงต์ ฤดูกาล 2016-17[/caption] เปแอสเช ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ไร้เทียมทานโคตร ๆ ในลีกเอิง และจองแชมป์ตั้งแต่ยังไม่ทันลงแข่งไปแล้ว แต่ว่าในฤดูกาล 2016-17 มันกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะว่าความยอดเยี่ยมของ อาแอส โมนาโก ทีมเด็กนรกแตกที่ขึ้นมา มันทำให้งานของ เปแอสเช ที่ตอนนั้นคุมทัพโดย อูไน เอเมรี่ มันยากขึ้นกว่าเดิม โดยปกติแล้วในลีกเอิง แค่ 80 คะแนนต้น ๆ มันก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นแชมป์ เพราะถ้าตัด เปแอสเช ออกไปมาตรฐานหลายทีมนั้นถือว่าใกล้เคียงกัน ซึ่งในซีซั่นนั้นอันที่จริง เปแอสเช ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน คือเก็บไปถึง 87 คะแนน แต่ไปเจอ โมนาโก ที่เก็บไป 95 คะแนน ก็ต้องยอมศิโรราบไปด้วยประการฉะนี้ 8. อาแอส โรม่า ฤดูกาล 2016-17 เป็นอีกปีที่รองแชมป์ ลีก ของ อิตาลี นั้นทำแต้มมากมายมหาศาล แต่ว่าไม่ถูกจำสักเท่าไหร่ เพราะว่า ความแข็งแกร่งของ ยูเวนตุส ที่แทบจะจองแชมป์กับมาตรฐานฟาดที 90 คะแนนเป็นอย่างน้อย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ปีนั้น ทีม “หมาป่า” ภายใต้การคุมทัพของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ นั้นร้อนแรงเกินห้ามใจโกยแต้มเป็นว่าเล่น สั่งลา ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ไป ปีนั้น โรม่า ทำแต้มมากที่สุดนับตั้งแต่ เล่น เซเรีย อา มาด้วยการเก็บไปได้ถึง 87 คะแนน แต่ว่าก็ยังเป็นรอง ยูเวนตุส ที่เก็บไปทั้งหมด 91 คะแนน คว้าตำแหน่งรองแชมป์ไปแบบน่าเจ็บปวดอีกครั้ง 9. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ฤดูกาล 2016-17 สเปอร์ส ที่ไม่เคยมีเอี่ยวอะไรเลยกับการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองมากในช่วงฤดูกาล 2016-17 ด้วยขุมกำลังเด็กห้าวนำโดย แฮร์รี่ เคน , ซน ฮึง มิน , เดเล่ อัลลี่ และวางหมากโดย เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ ปีนั้นพวกเขาเก็บแต้มได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ว่าก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถไล่กวด เชลซี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ทัน แต่ว่ามันก็เป็นหนึ่งในปีที่ดีที่สุดของ สเปอร์ส ที่สามารถเก็บไปถึง 86 คะแนน เลยทีเดียว 10. ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2008-09 เป็นปีที่ทีม “หงส์แดง” ของ ราฟาเอล เบนิเตซ นั้นหวังมากที่สุดกับการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก มาครองให้ได้ พวกเขามีขุมกำลังที่ลงตัวในทุกตำแหน่งโดยเฉพาะ คู่หู สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่กำลังเข้าฝักแบบสุด ๆ แต่ว่าก็น่าเสียดายที่แม้ว่าพวกเขาจะเก็บได้ถึง 86 คะแนน และมีแมตช์ที่น่าประทับใจด้วยการบุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ฺ แทร็ฟฟอร์ด 4-1 แต่ว่ามันก็ยังไม่เพียงพอที่จะคว้าแชมป์ได้ เพราะว่าทีม​”ปีศาจแดง” นั้นคงเส้นคงวามากกว่า และคว้าไปได้ 90 คะแนน คว้าแชมป์ปีนั้นไปครอง