6 เรื่องที่ "ปีศาจแดง"เปลี่ยนไป ตั้งแต่ โซลชา ได้สัญญาคุมถาวร

ไม่รู้ว่าเป็นอาถรรพ์ของซีซั่นนี้หรือเปล่า ที่เมื่อกุนซือคนไหน ได้รับสัญญาถาวร ผลงานจะเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังเท้าไปเลย ซึ่งสิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลา เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้รับสะบัดหมึกเซ็นกุมบังเหียนไปอีก 3 ปี จากฟอร์มที่ขุด "ปีศาจแดง" ขึ้นมาจากขุมนรก

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ โซลชา ได้รับสัญญาถาวร ฟอร์มการเล่น และ ผลงานของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยร้อนแรง ก็ดับสลายหายไป และ 6 เรื่องต่อไปนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

1. ต่อสัญญาปุ๊บ 3 คะแนน หายปั๊บ

ย้อนกลับไปที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับงานเป็นกุนซือขัดตาทัพ แทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งหมดลาย หลังจากแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 ถึงกับต้องยกนิ้วโป้งให้กับ โซลชา เลยครับพี่น้อง เพราะน้าลูกอม เข้ามาปลุก "ปีศาจแดง" ตัวนี้ ให้กลับมาผงาดบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง ตลอดการคุมทีม 13 นัดแรก เขาพาทีมแพ้แค่ 1 นัด ในเกมเจอ อาร์เซน่อล 0-2 ที่เหลือคือเสมอ 2 นัด โดยชนะอีกถึง 10 นัด ชนิดมีโมเมนท์ชนะ 6 นัดรวดมาแล้ว เรียกว่าปลุกความหวังติดท็อปโฟร์ ขึ้นมาให้กับสาวก "เร้ด เดวิลส์" ได้ฟ้าใสใจชื่นบาน อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ แมนฯ ยูไนเต็ด มอบสัญญาถาวรให้กับ โซลชา หลังจากทำผลงานได้อย่างสุดติ่ง กระดิ่งแมว เพียงไม่นาน ก็เหมือนมีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็น จากที่เคยชนะมารัวๆ โอกาสท็อปโฟร์กลับมาอยู่ในมือตัวเอง กลายเป็นแพ้ 2 จาก 4 เกม อย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน นัดที่แพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน แบบเละเทะ 0-4 ว่า นักเตะ "ปีศาจแดง" ไม่มีทรงแบบที่เคยทำให้เห็นตอน โซลชา เข้ามาคุมทีมใหม่ๆอยู่เลย โดยเฉพาะแรงกระตุ้น หรือ ความหิวกระหาย มันหายวับไปในพริบตา

2. ปอล ป็อกบา ฟอร์มตก เหมือนปืนหน้าผา แล้วกระโดดลงเหว

ช่วงที่ มูรินโญ่ ยังกุมบังเหียน "ปีศาจแดง" นักเตะอย่าง ปอล ป็อกบา เหมือนคนหมดอะไรตายอยาก สีหน้าจมทุกข์ มีปัญหากับโค้ช และ ถูกจับนั่งเป็นสำรอง จนกระทั่ง น้ามู โดนปลดออกไป แล้วได้ โซลชา เข้ามาคุมทีม ป็อกบา ก็เปลี่ยนไปคนละคน กลับมาฉายแสงเป็นซูเปอร์สตาร์อีกครั้ง ด้วยการซัดไปถึง 8 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ แต่พอเมื่อ โซลชา ได้สัญญาเป็นกุนซือถาวร เท่านั้นแหละ ฟอร์มของ ป็อกบา ก็เหมือน บันจี้จั้มพ์ ตกลงมาแล้ว มีกระเด้งขึ้นมานิดนึง จากนั้นก็ห้อยลงพื้นยาวๆ เพราะตลอด 4 เกมลีกหลังสุด .. ป็อกบา มีส่วนร่วมกับการทำประตูแค่ 2 ตุง เท่านั้น และ เป็นการซัดจุดโทษทั้ง 2 ลูก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีข่าวแพร่สะพัดออกมาด้วยว่า เจ้าตัวเริ่มหมดศรัทธากับการคุมทีมของ โซลชา แล้ว ท่ามกลางกระแสที่ เรอัล มาดริด ตามขายขนมจีบกันอยู่ตลอด

3. แนวรุกพากันฟอร์มตกทุกคน

ไม่ใช่แค่ ปอล ป็อกบา เท่านั้น ที่ต้องโดนด่า โดนวิจารณ์อยู่ฝ่ายเดียว เพราะนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกคน ก็สมควรถูกตำหนิเช่นกัน หากจำกันได้ในช่วงแรกๆที่ โซลชา เข้ามารับเผือกร้อน มีช่วงที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟอร์มพีคโคตรๆ ขนาด โรเมลู ลูกากู ที่กลายไปเป็นตัวสำรอง พอถูกส่งลงสนามก็ผลิตสกอร์ให้กับทีมได้ ขนาด ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ลูกากู ยังยิงจนเขี่ยตกรอบมาแล้ว โดยผลงานของนักเตะ "ปีศาจแดง" ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนที่ได้รับสัญญา กระซวกไปถึง 29 ประตู จาก 13 นัด แต่หลังจากที่ โซลชา ต่อสัญญา สัญญาณแห่งความปืนฝืด ก็แสดงให้เห็นทันที เพราะตลอด 4 เกมที่ผ่านมา ยิงกันได้ 5 ประตู เท่านั้น  อย่างเกมล่าสุด ที่บุกไปพ่ายต่อ เอฟเวอร์ตัน 0-4 แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียว นี่ไม่ใช่ "ปีศาจแดง" ที่พวกเราเคยรู้จัก ซึ่ง ลูกากู ไม่มีโอกาสแม้แต่สร้างสรรค์จังหวะการยิงให้กับเพื่อน

4. เกมรับจากไม่ได้ดีนัก แม่งแย่ยิ่งกว่าเดิม

สิ่งหนึ่งที่ โซลชา ยังแก้ไม่ตก นับตั้งแต่เข้ามารับงานคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด คือมักจะเสียประตูอยู่เสมอ โดยพวกเขารักษาคลีนชีตได้เพียงแค่ 5 นัด จาก 13 เกม แต่ทุกอย่างถูกกลบลงฝังดิน ด้วยเพราะเกมรุก ยิงประตูได้มากกว่า กระนั้นเมื่อถึงวันที่บรรดากองหน้า หรือพวกตัวรุก ไม่ฉายแสง ตัวเลขช่องโหว่แผงแนวรับ เลยฟ้องออกมาอย่างชัดเจน ตลอด 4 เกม หลังจาก โซลชา ได้สัญญาถาวร แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูทุกนัด โดยมากถึง 8 ประตู แค่นัดแพ้ เอฟเวอร์ตัน ก็ปาเข้าไปแล้ว 4 ดอก กลายเป็นแพ้คู่แข่งเกิน 4 ประตู เป็นครั้งที่ 5 ของประวัติศาสตร์สโมสร เท่ากับว่าซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูไปแล้วในศึก พรีเมียร์ลีก 48 ลูก ซึ่งก็นับว่าเสียประตูเยอะมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร นับเฉพาะ 1 ฤดูกาลเช่นกัน

5. เกมเยือนกลายเป็นของแสลง

ช่วงตอนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่น ต้องบอกว่าผลงานเกมเยือนของทีม เข้าขั้นเห่ยเลยก็ว่าได้ และ เกมที่บุกไปโดน ลิเวอร์พูล ตบถึงถิ่นแอนฟิลด์ 1-3 ก็เป็นฟางสุดท้าย ทำให้บอร์ดบริหารไล่ออก พร้อมไปแต่งตั้ง โซลชา เข้ามา จากนั้นเกมเยือนที่ว่าเห่ยๆ ก็กลายเป็นทีมที่พร้อมบุกไปตีเมืองอื่นทุกเมื่อ ถึงขั้นที่ โซลชา พาทัพ "ปีศาจแดง" เก็บชัยเกมเยือน 9 นัดติดต่อกัน ทั้งบุกไปชนะ อาร์เซน่อล ในศึก เอฟเอ คัพ, บุกชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ สร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการบุกไปตบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-1 เข้ารอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เฉยเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาเดินผ่านไปช้าๆ ลายของลูกทีม โซลชา ก็เริ่มออกมาให้เห็น ตั้งแต่ยังไม่ได้รับสัญญาถาวร เริ่มจากถูก อาร์เซน่อล ล้างแค้นในเกมลีก หลังจากนั้นก็บุกไปแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2 เกม ทั้งตกรอบ เอฟเอ คัพ และ พรีเมียร์ลีก ต่อมาก็แพ้ให้กับ บาร์เซโลน่า แบบหมดรูป โดยล่าสุดก็แพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน แบบเละตุ้มเป๊ะ ละ ละ เละตุ้มเป๊ะ เท่ากับ 5 เกมเยือนทุกรายการของ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เรียบวุธทุกนัด นับเป็นการแพ้เกมเยือน 5 นัดติดของ "ปีศาจแดง" เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์สโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด

6. ฝันสลาย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

จำกันได้ไหมว่า คืนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมยกธงขาวไปแล้ว หลังพ่ายคาบ้านให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 0-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมแรก โดยนัดที่บุกไปถึง "เปแอสเช" แฟนบอล "ปีศาจแดง" หลายๆคน ไม่ได้หวังถึงการเข้ารอบด้วยซ้ำ ขอแค่ทำให้เต็มที่ก็พอ เพราะนักเตะก็เจ็บกันหลายคน รวมถึงหนีบดาวรุ่งไปหาประสบการณ์ด้วย แต่กระนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด กลับสร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการบุกไปเอาชนะ ปารีสฯ ถึง 3-1 ผ่านเข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกลแบบหน้าตาเฉย 3-3 เรียกว่าช่วงนั้น โซลชา กลายเป็นกุนซือ "ปีศาจแดง" ที่แฟนบอลถามหา เพราะเขาถือว่าเป็นลูกศิษย์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แบบตัวยง ถึงขั้นที่ แกรี่ เนวิลล์ กูรู สกาย สปอร์ต พูดติดตลกกับ โซลชา ว่าอยากได้สัญญาคุมทีมกี่ปีให้ว่ามาเลย อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมไปแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ดันโชคไม่ดีเท่าไหร่ ที่จับสลากไปพบกับ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน และ ปาฏิหาริย์ก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะ "ปีศาจแดง" พ่ายทั้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-1 และ บุกไปแพ้ที่ คัมป์ นู 0-3 หมดลุ้นแชมป์ทุกถ้วย อย่างเป็นทางการ