logo-heading
ฤดูกาลนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทีมพลังหนุ่ม อาแจ็กซ์ มาแรงมาก ซึ่งพวกเขาสามารถพา อาแจ็กซ์ เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในรอบ 22 ปี ซึ่งแน่นอนว่ามาถึงจุดนี้พลังหนุ่มของพวกเเขาอาจจะสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้สโมสรได้ในฤดูกาลนี้ วันนี้ขอบสนามจะพาไปย้อนอดีตตามหา อาแจ็กซ์ ชุดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1995 ภายใต้การนำทัพของสุดยอดกุนซืออย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งเป็น อาแจ็กซืชุดพลังหนุ่มเช่นเดียวกัน มาดูกันว่าเหล่านักเตะในชุดนั้นปัจจุบันพวกเขาทำอะไรกันอยู่บ้าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายด่านทีมชาติดัตช์รายนี้สร้างชื่อกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรแรกในอาชีพค้าแข้งของตัวเอง เขาคว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรกกับ อาแจ็กซ์ ในศึกยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 1991/1992 ก่อนจะมาคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อาแจ็กซ์ อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในปี 1995 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ก่อนเจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปเฝ้าเสาให้ ยูเวนตุส ในปี 1999 ในปี 2005 เขาตัดสินใจย้ายจาก ฟูแล่ม มาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลายเป็นผู้รักษาในตำนานอีกคนหนึ่งของ ปีศาจแดง เจ้าตัวประกาศรีไทร์ในปี 2011 แต่ก็หวนกลับมาเฝ้าเสาเฉพาะกิจให้ นอร์ดไวค์ ทีมในวัยเยาว์เมื่อปี 2016 ก่อนจะอำลาฟลอร์หญ้าอย่างถาวร ปัจจุบัน ฟาน เดอร์ ซาร์ นั่งแท่นซีอีโอให้กับสโมสร อาแจ็กซ์ นั่นเอง มิเชล ไรซีเกอร์ ยอดแบ็คขวาผิวสีชาวดัตช์แจ้งเกิดเแบบเต็มตัวกับ อาแจ็กซ์ ในฤดูกาาล 1994/1995 ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญในทีมชุดแชมป์ยุโรปในปีแรกของเขาทันที ก่อนที่ เอซี มิลาน จะซื้อตัวเขาไปร่วมทีมในปี 1996 แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บจนแทบไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมก่อนจะโดนขายให้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 1997 ที่มีหลุยส์ ฟาน กัล นายเก่าของเขาคุมทีมอยู่นั่นเอง หลังจากนั้นเจ้าตัวก็พเนจรไปยัง มิดเดิลสโบรช์ ก่อนจะกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดกับ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น หลังรีไทร์เจ้าตัวก็หันเอาดีทางด้านกุนซืออย่างเต็มตัว ในปัจจุบัน ไรซีเกอร์ เป็นผู้จัดการทีมคุมทีมเยาวชนของ อาแจ็กซ์ ในปัจจุบัน แดนนี่ บลินด์ เขาอาจจะไม่ใช่นักเตะเยาวชนของ อาแจ็กซ์ เหมือนกับใครหลายคนในทีมชุดนี้ แต่ เเดนนี่ บลินด์ คือกัปตันที่ ฟาน กัล ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมในค่ำคืนที่พา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างยิ่งใหญ่ ในฤดูกาล 1995 ก่อนประกาศเลิกเล่นในปี 1999 และหันมาเอาดีทางด้านงานผู้จัดการทีม แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่าในการคุมทีมชาติฮอลแลนด์ ปัจจุบันเจ้าตัวยังคงว่างงานอยู่ ได้รับเชิญออกมาวิเคราะห์ฟุตบอลทางโทรทัศน์บ้างเป็นครั้งคราว แฟร้งค์ เดอ บัวร์ อีกหนึ่งผลผลิตจากทีมเยาวชน เดอ บัวร์ ผู้พี่เป็นนักเตะที่เติบโตจากเยาวชนของ อาแจ็กซ์ โดยมีโอกาสลงเล่นในครั้งแรกตั้งแต่ 1988 ก่อนที่จะลงรับใช้ทีมไปถึง 328 นัดยิงไป 30 ประตูตลอดการรับใช้ทีมกว่า 11 ปี เขาคือหนึ่งในขุนพลสุดแกร่งผู้พา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ยุโรปอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงกวาดแชมป์มากมายกับ อาแจ็กซ์ ก่อนย้ายไปเล่นให้กับบาร์เซโลน่า , กาลาตาซาราย และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส หลังรีไทร์ เดอ บัวร์ แฝดคนพี่รายนี้ผันตัวไปเป็นกุนซือเต็มตัว เขาทำได้ยอดเยี่ยมเมื่อเป็นกุนซือพา อาแจ็กซ์ ควาแชมป์ลีก 4 สมัยซ้อน ระหว่างปี 2011 ถึง 2014 แต่กลับล้มเหลวสุดๆ เมื่อย้ายไปคุม อินเตอร์ มิลาน หลังรับงานไปได้เพียง 85 วันเท่านั้น เท่านั้นยังไม่พอยังล้มเหลวกับการคุม คริสตัล พาเลซ โดนเด้งตกเก้าอี้หลังทำทีมแพ้ 4 นัดรวด ปัจจุบันเจ้าตัวตกปากรับคำคุม แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ เรียบร้อยแล้ว แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด สร้างชื่อกับทีม อาแจ็กซ์ มาตั้งแต่ปี 1980 ไรจ์การ์ด ก่อนที่จะกลับมาทิ้งทวนอาชีพค้าแข้งอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ลีก ในนัดนี้ และเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดในทันที หลังจากนั้น 3 ปี เจ้าตัวก็ได้รับการแต่งตั้งคุมทีมชาติฮอลแลนด์ และพาอัศวินสีส้มไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2000 ก่อนที่จะแพ้จุดโทษให้กับอิตาลีอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นเขาก็ลาออกและไปคุม สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม แต่ผลงานล้มเหลวทีมตกชั้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรแน่นอนเขาโดนไล่ออก ก่อนได้รับโอกาสจาก บาร์เซโลน่า ในปี 2003 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ การันตีคว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมของโลกในปี 2005 และ 2006 มาครอง ก่อนที่เขามาคุม กาลาตาซาราย และทีมชาติ ซาอุดิอาระเบีย แต่ไม่เวิร์ค ปัจจุบันเจ้าตัวประกาศชัดเจนเเล้วว่าเขาจะไม่รับงานกุนซืออีกต่อไป ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รับเชิญไปเป็นนักวิเคราะห์เกมการแข่งขัน และลงเล่นฟุตบอลการกุศลตามโอกาส คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อาแจ็กซ์ ก่อนย้ายไป ซามพ์โดเรีย ไม่นาน เซดอร์ฟ ก็ย้ายไปประสบความสำเร็จอย่างโชกโชนให้ เรอัล มาดริด , อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน หลังรีไทร์ได้ 2 ปี ในปี 2014 มาเขากลับมาเป็นกุนซือชาวดัตช์คนแรกในศึก กัลโช่ เซเรีย อา ด้วยการคุม มิลาน ในปี 2014 อย่างไรก็ตามผลงานของเขาไม่ค่อยดีนัก เขาถูกไล่ออกหลังจากคุมทีมไปไม่ถึง 5 เดือนก่อนจะย้ายมาเป็น โค้ช ของ เสิ่นเจิ้น ทีมในไชนิส ซูเปอร์ลีก จนถึงปี 2016 ก่อนย้ายมาคุม ลา กอรุนญ่า และปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมชาติ แคเมอรูน ก็ต้องมาช่วยลุ้นให้ทำผลงานได้ดี เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ดาวิดส์ คือมิดฟิลด์ตัวรับสไตล์กัดไม่ปล่อยจนได้ฉายาว่า พิตบูล เขาเติบโตจากระบบเยาวชนอาแจกซ์ และหลังจากคว้าแชมป์ยุโรปในปี 1995 ดาวิดส์ ก็เริ่มเดินทางพเนจรไปกับหลายสโมสร นี่คือผู้เล่นชื่อดังรายแรกๆ ที่ย้ายทีมตามกฎบอสแมน หลังหมดสัญญากับ อาแจ็กซ์ ในปี 1996 เขาพเนจรย้ายไปเล่นให้กับทั้ง เอซี มิลาน , ยูเวนตุส , บาร์เซโลน่า , อินเตอร์ มิลาน , สเปอร์ส และย้ายกลับมา อาแจ็กซ์ อีกครั้ง ดาวิดส์ ผันตัวมาคุมทีมหลังจากประกาศรีไทร์ แต่ผลงานไม่ไม่ดีเหมือนฝีเท้าในสนาม ดาวิดส์ โดนไล่ออกจากตำแหน่งเพราะพาบาเน็ตตกชั้นจากลีกทูไปสู่คอนเฟอร์เรนซ์ลีก ปัจจุบันเจ้าตัวเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นสำหรับทุกเพศทุกวัยภายใต้แบรนด์ "เดอะ มอนต้า สปอร์ต" และรับงานวิเคราะห์เกมเตะบอลการกุศลตามโอกาสเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมเขาอีกหลายคน ฟินิดี จอร์จ หลุยส์ ฟาน กัล ดึงตัวเขามาจาก ชาร์กส์ สโมสรในบ้านเกิดของเขาตั้งแต่ปี 1993 เจียระไนจนกลายเป็นนักเตะดีกรีแชมป์ยุโรปในที่สุด หนึ่งในแข้งไนจีเรียที่มาโด่งดังในลีกดัตช์ กองกลางหมายเลข 7 ของ อาแจกซ์ ในชุดแชมป์ยุโรปตัดสินใจอำลาฟอลร์หญ้าในปี 2004 หลังเล่นให้กับ เรอัล เบติส, อิปสวิช ทาวน์ และ มายอร์ก้า ปัจจุบันเขาเป็นนักวิจารณ์ฟุตบอลของคลื่นวิทยุ Radio Onda Cero ของประเทศสเปน มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ปีกซ้ายจรวดทางเรียบถูก ฟาน กัล ซื้อมาร่วมทีม อาแจ็กซ์ ตั้งแต่ปี 1992 ซึ่ง โอเวอร์มาร์ส พาทีมคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ถึง 6 รายการและถูก อาร์เซน่อล ซื้อตัวไปร่วมทีมในปี 1997 ก่อนไปคว้าดับเบิ้ลแชมป์กับอาร์เซน่อล หลังจากนั้นย้ายไป บาร์เซโลน่า แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า ทำให้จรวดทางเรียบรายนี้ตัดสินใจยุติอาชีพค้าแข้งในปี 2004 หลังแขวนสตั๊ด เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสจาก อาแจ็กซ์ เข้ามารับตำแหน่งสตาฟฟ์โค้ชของทีมชุดเยาวชนในปี 2011 หลังจากนั้น 1 ปี ก็ได้มารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการฟุตบอล ของสโมสร อาแจ็กซ์ จนถึงปัจจุบันนี้ โรนัลด์ เดอ บัวร์ น้องชายฝาแฝดของ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ กับการลงตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าในเกมนัดชิงชนะเลิศปี 1995 ก่อนที่เขาและพี่ชายจะถูก ฟาน กัล ซื้อตัวไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ในปี 1999 แบบเหมาทั้งคู่ เรียกได้ว่าลงสนามพร้อมกันมีทำให้คู่แข่งสับสนบ้าง แถมพี่น้องคูนี้มักย้ายไปเล่นทีมเดียวกันแบบไม่แยกห่างติดกันแบบปาท่องโก๋ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ย้ายไป กาตาลาซาราย ในปี 2003 พร้อมกับพี่ชาย แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีโอกาสกลับมาเล่นด้วยกันในทีม กลาสโกว์ เรนเจอร์ส, อัล เรย์ยาน และ อัล ชามาล และหลังจากรีไทร์ก็กลับมา อาแจ็กซ์ อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม โรนัลด์ ต่างจาก แฟร้งค์ ในงานกุนซือเล็กน้อย เมื่อเขาเลือกที่จะลุยงานในทีมเยาวชนของอาแจ็กซ์ ปัจจุบันก็เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม อาแจ็กซ์ เยาวชน รวมไปถึงรับงานเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลบ้างเป็นครั้งคราว ยารี่ ลิตมาเน่น “พ่อมดแห่งฟินแลนด์” ลิตมาเน่น ย้ายมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ ตั้งแต่ปี 1992 หลังจาก เดนิส เบิร์กแคมป์ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน หลุยส์ ฟาน กัล ก็เลือกใช้ ลิตมาเน่น มากขึ้นจนกลายเป็นดาวซัลโวตัวหลักของทีม ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เขาลงเล่น 70 นาทีก่อนถูกเปลี่ยนออก และเป็น แพทริค ไคล์เวิร์ต ฮีโร่ในวันนั้นลงสนามแทน หลังจากนั้นเจ้าตัวไม่สามารถงัดฟอร์มระดัbell050745873 บท็อปเหมือนสมัยเล่นให้กับ อาแจ็กซ์ ได้อีกเลยในการลงเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า และ ลิเวอร์พูล ก่อนย้ายไปเล่นในหลายๆ ทีม และเลิกเล่นในปี 2011 หลังแขวนสตั๊ด ลิตมาเน่น ได้รับการติดต่อจาก อาแจ็กซ์ ให้เข้ามาเป็นสตาฟฟ์โค้ชของทีมชุดเยาวชนแต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ ปัจจุบันในลิตมาเน่น เป็นกูรูฟุตบอลของช่อง YLE นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนของหนังสือพิมพ์ เจ้าใหญ่ในประเทศฟินแลนด์ รวมไปถึงรับงานทูตสโมสรให้กับ ลิเวอร์พูล และเตะบอลการกุศลให้ ลิเวอร์พูล ในฐานะนักเตะตำนานของทีมอีกด้วย แพทริก ไคล์เวิร์ต นี่คือฮีโร่นัดชิงชนะเลิศ ที่อายุเพียง 19 ปีเท่านั้น เขาได้รับความไว้วางใจจาก หลุยส์ ฟาน กัล ส่งเขาลงมาแทน ยารี่ ลิตมาเน่น ในนาทีที่ 70 ของการแข่งขันในครั้งนั้น ก่อนเจ้าตัวซัดประตูชัยให้ทีมในนาทีที่ 85 ของการแข่งขัน พา อาแจ็กซ์ ครองแชมป์เจ้ายุโรปอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนย้ายไปโชว์ฟอร์มทำประตูให้กับ เอซี มิลาน และ บาร์เซโลน่า และย้ายมาเล่นให้กับ นิวคาสเซิ่ล ก่อนจะเลิกเล่นในปี 2008 จากนั้นเป็นผู้ช่วย หลุยส์ ฟาน กัล ในทีมชาติฮอลแลนด์ , ทำทีมเยาวชนของอาแจ็กซ์, นั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสโมสร ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และในปัจจุบัน เจ้าตัวเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้ เซดอร์ฟ ในทีมชาติแคเมอรูน เอ็นวาโก้ คานู อีกหนึ่งแข้งไนจีเรีย ที่ ฟาน กัล เจียระไนจนกลายเป็นเพชร คานู ย้ายมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ ในปี 1993 โดยในเกมนัดชิงเกมนี้เขาถูกเปลี่ยนลงสนามมาแทน คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ในนาทีที่ 53 จากนั้นปี 1996 ตัดสินใจย้ายไป อินเตอร์ มิลาน แต่ 3 ปีในถิ่นงูใหญ่ของเขาดันไม่รุ่งเอาเสียเลย เจ้าตัวชุบชีวิตตัวเองอีกครั้งเมื่อย้ายไปเป็นดาวดังให้กับ อาร์เซน่อล ในปี 1999 พา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 2 สมัย ก่อนจะเล่นให้กับ เวสต์บรอมฯ และ พอร์ทสมัธ ในช่วงบั้นปลายอาชีพ ตอนนี้ คานู หันมาเอาดีทางด้านงานถ่ายภาพด้วยการทำสตูดิโอถ่ายภาพและเป็นเอเจนซี่นางแบบที่เขาเริ่มทำในปี 2015 นอกจากนี้เขาเป็นทูตของยูนิเซฟองค์กรเพื่อเด็กด้อยโอกาสตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และยังลงเดินสายเล่นฟุตบอลการกุศลให้กับทีม ตำนาน อาแจ็กซ์ และตำนาน อาร์เซน่อล อยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline