logo-heading

ทันทีที่เหยียบสนามบินสุวรรณภูมิอีกครั้ง ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะร่างเล็กทีมชาติไทย ที่เดินทางกลับบ้านเกิด เพื่อร่วมการแข่งขันฟุตบอล คิงส์คัพ 2018 เมื่อวันก่อน เราก็ได้เห็นภาพเหล่าแฟนบอลไทยมากมาย ต่างเข้าไปขอถ่ายรูปกับเขา พูดคุย ทักทาย ให้กำลังใจ ด้วยบรรยากาศที่ยิ้มแย้ม

ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น จริงๆ มันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ใครๆ ก็รักเขา และเคารพในสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นเสมอมาในสนาม ถ้าเหตุการณ์บางอย่างไม่เกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนครึ่งที่แล้ว หากลองให้ความคิดได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปเมื่อสัก 2 เดือนครึ่งที่แล้ว มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าเจ็บปวดของชนาธิป สรงกระสินธ์ เขาผิดหวังเรื่องความรัก ในระหว่างที่ตัวเองอยู่ประเทศญี่ปุ่น กำลังซ้อมปรีซีซั่นกับสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เขาโดนวิจารณ์ต่างๆ นาๆ หนักหนาสาหัสมาก เพราะแค่คำที่ว่า “ก็เป็นคนของประชาชน ต้องทนได้” เขาทำให้ครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อ และคุณแม่ ต้องตกเป็นเป้าการสัมภาษณ์ของสื่อไม่เว้นแต่ละวัน เขาคือคนที่ไม่มีความรับผิดชอบในสายตาผู้หญิงมากมาย เขาคือคนที่ทำให้แฟนคลับมากมายผิดหวัง ที่อยากเห็นความรักของเขาไปได้ไกลกว่านี้ เขาไม่เคยโทษใคร เขาโทษแต่ตัวเอง และยอมเหน็บหนาว เงียบเหงา บวกตั้งใจฝึกซ้อมอยู่ที่ญี่ปุ่น บ่อยครั้งที่ผมเห็นเขาโพสต์อะไรบางอย่างในช่วงปรีซีซั่น มันบ่งบอกว่า เขาค่อนข้างเหงา และผมเองก็กังวลว่า “มันจะท้อไหม” กับความรับผิดชอบ และความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่น ที่มีความฝันของตัวเองเป็นเส้นชัย วันเวลาผ่านไป จนกระทั่งเกมแรกของศึก เจ ลีก 2018 ได้ระเบิดขึ้น เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่ง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดสนามด้วยการบุกไปพ่ายแพ้ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 0-1 ในตอนนั้น สปอร์ตไลท์ต่างสาดส่องไปที่การโขกประตูชัยของ ธีรศิลป์ แดงดา ส่วน ชนาธิป นั้นมีฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีเลย อะไรก็ไม่เป็นใจ ดูติดขัดไปซะหมด แน่นอน จากที่เคยเป็นพระเอกคนเดียวในเจลีก สำหรับนักเตะไทย ดูเหมือนว่า ชนาธิป จะตกกระป๋องไป ผมทราบมาว่า เขาเครียดไม่ใช่น้อย และมีสภาวะจิตใจที่กังวลกับสิ่งที่เกิด คำถามตามมาต่างๆ นาๆ ว่า เรื่องนอกสนามของ ชนาธิป กำลังมีผลต่อฟอร์มการเล่นของเขาหรือไม่? การก้าวข้ามกำแพงความผิดหวังของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่จากวันนั้นจนวันนี้ ชนาธิป ได้ลงสนามอีก 3 เกมใน เจ ลีก เขาก้าวผ่านความหดหู่ และมืดมนในชีวิต ด้วยความศรัทธาในตัวเองที่ยังหลงเหลืออยู่ เขาทำไปแล้ว 2 ประตู จากการโขกล้วนๆ กับ อีก 1 แอสซิสต์แบบสุดคลาส ให้กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร เขากลายเป็นดาวซัลโวของทีมเคียงคู่ เจย์ โบธรอยด์ อดีตดาวยิงของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เขาคว้า MVP ชนิดที่แฟนบอลต้องเปล่งเสียงสรรเสริญ จากการพาทีมคว้าสามแต้มสุดล้ำค่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เขากลายเป็นนักเตะตัวความหวังของทีม และแฟนบอล ซึ่งมันคือทีมในระดับ เจ ลีก เลยนะ เมื่อสองเดือนครึ่งที่แล้ว ผมเคยคิดนะว่า ไม่อยากให้ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาเล่นฟุตบอล คิงส์คัพ เลย ตอนนั้นอาจจะด้วยอารมณ์ เพราะกลัวว่ากระแสของเจ้าเจ จะยังไม่ดี ทุกอย่างจะยิ่งแย่ไปใหญ่ หากกลับมาแล้วโดนถล่มเละเทะจากแฟนบอล หรือแฟนคลับต่างๆ นาๆ แต่สุดท้าย ชนาธิป ก็ใช้ความสามารถตัวเอง แก้ไขปัญหาที่เขาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมันขึ้นมา การก้าวข้ามกำแพงความผิดหวังของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ “เขากลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ในแบบที่คนยังรัก ยังเคารพ และยังศรัทธาในฝีเท้า ทุกคนจดจำเขาได้ในรูปแบบชนาธิป คนเดิม ผู้ที่สร้างศรัทธาให้แก่เด็กๆ เยาวชนไทยมากมาย” … บางครั้ง หากกันมองไปข้างๆ แล้วไม่เจอใคร แต่ทางข้างหน้ามันมีกำแพงสูงเหลือเกิน ก็ขอให้ศรัทธาตัวเองเข้าไว้ ในวันที่ไม่มีใครศรัทธาในตัวเรา ก็ขอให้อย่าหมดศรัทธาในตัวเอง และก้าวข้ามกำแพงนั้นไปให้ได้….

“จอน”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline