logo-heading

คิงส์ คัพ 2019 ครั้งที่ 47 คงจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าอภิรมย์สำหรับคนลูกหนังไทยสักเท่าไหร่

เนื่องจากแข้งสยามไม่สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ แถมที่สำคัญโดยเวียดนาม คู่ปรับหมายเลข 1 ที่มีดีกรีแชมป์อาเซียน มายัดเยียดความพ่ายแพ้ถึงที่อีกด้วย ทำให้เวลานี้ดูเหมือนไทยคือผู้ที่ตามหลังเวียดนามเอาเสียแล้ว ในรอบ1 ปี ทีมชาติไทยหลายๆชุดเริ่มไม่สามารถเก็บชัยเหนือขุนพลญวณได้แล้ว นับตั้งแต่เวียดนามผ่านเข้ารอบฟุตบอลเยาวชนโลก 20 ปี  2017 ณ เกาหลีใต้ พัฒนาการแข้งดาวทองจึงค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จนต่อยอดด้วยการเป็นแชมป์อาเซียน คัพ, รองแชมป์23 ปีเอเชีย 2018 และอันดับ 4 เอเชียน เกมส์ 2018 สวนทางกับทีมไทยที่พัฒนาการเริ่มดร็อปลงเรื่อยๆ ส่งผลพวงมาจากความเคยชินของนักเตะไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับนี้มาสักพักใหญ่ แถมผู้เล่นหน้าใหม่ก็แทบไม่มีการสร้างหรือเปิดโอกาสได้ลงเล่นเต็มเม็ดเต็มหน่วย บอลไทยยุคนี้ยึดแค่ตัวผู้เล่นชื่อดัง แต่ไม่เน้นปั้นผู้เล่นหน้าใหม่ มันจึงส่งผลต่อทีมชาติในระยะยาว ผลการแข่งขันในการปราชัยต่อเวียดนามหนนี้ในคิงส์ คัพ นับเป็นการปราชัยขุนพลเวียดนามเป็นหนที่ 3 จากทั้งหมด 21 เกมตามบันทึกที่ฟีฟ่ารับรอง ขอบสนามขอหยิบ 3 เกมที่แข้งธงไตรรงค์ปราชัยต่อเวียดนามมาย้อนรอยอีกหน 1.เวียดนาม 3-0 ไทย รอบรองชนะเลิศ อาเซียน คัพ 1998 ผมชนะครับ! 3เกมเวียดนามเคยทำแสบกับไทย ทัวร์นาเมนต์ที่วิทยา เลาหกุล โดนด่าไปทั่วสารทิศจากความผิดที่เขาไม่ได้สร้างเอาไว้ เกมอัปยศที่ผู้เล่นอินโดนีเซีย เตะบอลเข้าประตูตัวเอง ส่งผลให้ไทยเป็นฝ่ายชนะ3-2 นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มและต้องเดินทางไกลจากโฮจิมินส์ไปเล่นรอบรองชนะเลิศกับเจ้าภาพ เวียดนามที่ฮานอย ด้วยระยะทางไกลกว่า 1,720 กิโลเมตร ด้วยรถทัวร์ เป็นเวลาเกือบ 2 วัน กลับประเทศระบบคมนาคมไม่ดี หลังองค์กรลูกหนังไทยในตอนนั้นปฏิเสธที่จะส่งเงินมาช่วยเหลือค่าเครื่องบินเดินทาง ด้วยสภาพร่างกายที่นักเตะเหนื่อยอ่อนล้าจากการเดินทางมาเกือบ 2 วัน แถมไม่ได้มีเวลาซ้อมแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมยังมาเจอการด่าท้อจากคนในชาติที่กล่าวหาผู้เล่นกลุ่มนั้นและสต๊าฟฟ์โค้ชหาว่าเล่นไม่เต็มที่อีกตั้งหาก เมื่อทีมไม่พร้อมแถมจิตใจก็แย่ ทีมแข้งสยามชุดนั้นจึงโดนเวียดนามถล่มยับเยิน 3-0 และจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นอันดับที่ 4 นักเตะจากทีมชุดนั้นหลายๆคนยังคงอยู่ในวงการลูกหนังไทยในปัจจุบันและผันตัวมาทำหน้าที่โค้ช เช่น โชคทวี พรหมรัตน์, เทิดศักดิ์ ใจมั่น,สุรชัย จตุรภัทรพงศ์, วรวุธ ศรีมะฆะ 2.ไทย 1-2 เวียดนาม รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก อาเซียน คัพ 2008  ผมชนะครับ! 3เกมเวียดนามเคยทำแสบกับไทย อาเซียน คัพ 2008 ภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ รีดส์ อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษชุดฟุตบอลโลก 1986 ที่เม็กซิโก และกุนซือระดับตำนานของซันเดอร์แลนด์ ถูกดึงตัวมาทำหน้าที่แม่ทัพทีมชาติไทย ด้วยโปรไฟล์ที่อยู่ในระดับพรีเมียร์ลีก คงสานฝันผู้บริหารสมาคมฯในเวลานั้นได้ไม่ยาก ไทยเปิดหัวชนะเอาชนะเวียดนาม 2-0, ตามด้วยขยี้ลาว 6-0 และอัดมาเลเซีย 3-0 จากนั้นเข้ารอบรองชนะฯอินโดนีเซียสกอร์รวม 3-1 ผ่านเข้าชิงไปเจอเวียดนาม ด้วยชื่อชั้นตัวผู้เล่นรวมไปถึงกุนซือระหว่างปีเตอร์ รีดส์ กับเอ็นริเก้ คาลิสโต้ ในเวลานั้นมองมุมไหน ไทยก็เป็นต่ออยู่แล้ว ทว่าเกมนัดแรก ความประมาทของแนวรับทีมไทยในการประกบตัวที่ผิดพลาด ทำให้โดนยิงท้ายครึ่งแรก 2 ประตู และแม้ว่ารณชัย รังสิโย จะมายิง 1 ประตู แต่มันไม่เพียงพอสำหรับทีมแข้งแดนสยาม เพราะนักเตะญวณลงมาแพ็คเกมรับอย่างแน่นหนา เมื่อเกมแรกเวียดนามกุมความได้เปรียบไว้ก่อน ทำให้นัดที่ 2 ไทยต้องเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ และ"มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่เวลานั้นอายุ 20 ปี  ยิงเม็ดแรกทำเอากองเชียร์ญวณเงียบกริบ กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายของครึ่งหลังเล คอง วิน มาซัดประตูตีเสมอ ทำให้จบเกมสกอร์รวม 2 นัด เป็นลูกหลานโฮจิมินส์เอาชนะ 3-2 กระชากแชมป์อาเซียน คัพ สมัยแรกไปครอง 3.ไทย 0-1 เวียดนาม คิงส์ คัพ 2018 ผมชนะครับ! 3เกมเวียดนามเคยทำแสบกับไทย เกมที่แฟนบอลไทยและเวียดนามรอคอยในคิงส์ คัพ 2019 ต่างฝ่ายต่างมั่นใจค่าคือเบอร์1 อาเซียน การดวลกันในเกมนี้ที่บุรีรัมย์จึงเป็นการไฟท์กันเพื่อช่วงชิงศักดิ์ศรีของทั้ง 2 ชาติในอาเซียน ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทยปะทะกึ่นกับปาร์ค ฮัง โซ เป็นหนแรก เกมเป็นไปอย่างหวาดเสียว แม้ไทยจะเป็นฝ่ายครองบอลได้เยอะกว่า แต่สุดท้ายเวียดนามมาได้ประตูชัย ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายจากการโหม่งของ เหงียน อันห์ ดุ๊ค โหม่งบอลจากจังหวะเตะมุม แต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ รับกระฉอกเข้าประตูไปให้ เวียดนาม ชนะ ไทย 1-0 เรียกได้ว่าประตูดังกล่าวทำให้แข้งไทยหมดสิทธิ์แก้ตัวไปโดยปริยาย นอกจากช้ำคาบ้านแล้วยังหมดสิทธิ์เข้าไปชิงฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ

เอ็มเร่

[email protected]

   
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline