ตั้งแต่ อเล็กซานเดร กาม่า เข้ามาคุมบังเหียนทีม "กิเลนผยอง" ทุกอย่างก็เริ่มดูดีขึ้นมา และผลงานก็เริ่มเด่นชัดขึ้น กลายเป็นคนละทีมกับเมื่อต้นฤดูกาล แต่มันคือทีมกิเลนผยอง ที่เราเคยรู้จัก มันได้กลับมาแล้ว
"ฟุตบอลลีก มันอีกอะไรตื่นเต้นตลอดทุกนัด และทีมอย่างเอสซีจี เมืองทองฯ ก็เป็นทีมที่มีบรรยากาศการเชียร์ที่สุดยอด และมีทุกอย่างที่จะเป็นแชมป์ได้" นี่คือเหตุผล ที่กุนซือชาวบราซิล ได้บอกถึงการกลับมาคุมทีมสโมสร อีกครั้ง หลังจากไปคุมทีมชาติ ยู 23 แล้วไม่มีความสุข
ช่วงแรกที่มีข่าวว่า กาม่า จะมาคุมกิเลนผยอง ก็มีกระแสทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ที่เห็นด้วยก็คือเขาคงรู้จักกิตติศัพท์ของกุนซือบราซิลรายนี้ดีว่าเจ๋งขนาดไหน และอยากให้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภายในทีมกิเลนผยอง
ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็อาจจะเพราะว่า พวกเขายังคงโอเค กับการคุมทีมของ
"ยุน จอง ฮวาน" กุนซือชาวเกาหลีใต้ ที่แม้ผลงานจะออกมาไม่ค่อยดี แต่ก็เหมือนว่าจะมีอนาคต และจะพัฒนาดีขึ้นได้ แต่คงต้องใช้เวลา
แต่ดูเหมือนบอร์ดบริหารของเอสซีจี เมืองทองฯ จะไม่ยอมที่จะรอเวลานั้น ทั้งๆ ที่ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของตัวเองมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล ก่อนหน้านี้
ทีมกิเลนผยอง อยากที่จะของใหม่ หันกลับมาใช้กุนซือไทยอีกครั้ง และก็ไปดึงโค้ชที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาคุมทีมเมืองทองได้ อย่าง
"โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก แน่นอนกระแสแฟนบอลส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะยังไม่เชื่อฝีมือ
แต่ส่วนตัวผมแล้ว ก็ 50-50 คืออยากลองให้โอกาส และอยากเห็นฝีมือของ "โค้ชเบ๊" ดูก่อน บางทีมันอาจจะดีก็ได้ แต่สุดท้ายผลงานที่ออกมา รวมทั้งรูปแบบการเล่น ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ผลงาน 5 เกมแรกของ "โค้ชเบ๊" ชนะ 2 แพ้ 3 ยิงได้ 5 ประตู เสีย 6 ประตู ผลงานมันน่าผิดหวังจริงๆ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมขาดความมั่นใจ และตกลงไปอยู่โซนท้ายตาราง
บวกกับช่วงขัดตาทัพของ อุทัย บุญเหมาะ ก็เหมือนทีมเมาหมัด บุกแพ้ชัยนาท 3-0 แพ้โคราช 3-1 ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ก่อนจะไปดึง โอปป้ายุน เข้ามา เพื่อหวังจะแก้ปัญหาภายในทีม
ช่วงแรกที่กุนซือเกาหลีใต้เข้ามา เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการฝึกซ้อมที่เข้มข้น และความมีระเบียบต่างๆ
ดูๆ ไป นักเตะภายในทีมก็ดูจะโอเค บรรดาแข้งดางรุ่งก็มีโอกาสมากขึ้น แต่ผลงานช่วงแรกของโอปป้า มันยังดูไม่ดีขึ้น เหมือนจะยังไม่ส่างจากการเมาหมัด แต่มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
จนมาถึงเกมที่บุกเยือนบุรีรัมย์ ที่โอเคสุดท้ายแล้วทีมแพ้ไปในเกมนั้น แต่ได้เห็นความใจสู้ของนักเตะเมืองทอง ได้เห็นการเล่นแบบรัดกุม และมีวินัย ของนักเตะกิเลนผยอง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สไตล์การเล่นที่เราคุ้นเคย แต่เกมนั้นต้องยอมรับว่าเมืองทองเล่นได้ดีเลยทีเดียว
แต่สุดท้ายก็มาโดนทีเด็ดของ ศศลักษณ์ ไหประโคน ช่วงท้ายเกม เหมือนเป็นหมัดน็อคเข้าไป แต่จบเกมแฟนบอลก็ดีจะโอเค และเห็นอนาคตของทีมมันดีขึ้น
และโค้ชยุนก็ได้คุมทีมไปอีกหนึ่งเกม ซึ่งปิดท้ายด้วยการชนะสุโขทัย 2-0 ณ ตอนนั้นเจ้าตัวยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะไม่ได้คุมทีมต่อไปแล้ว
เพราะตอนนั้นแม้จะมีข่าวลือเรื่อง กาม่า เข้ามา แต่มันก็มีเกมทีมชาติเข้ามาพอดี กาม่า ก็ต้องไปคุม ยู 23 ทำให้ทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย ยุน จอง ฮวาน ก็คุมทีมซ้อมของตัวเองตามปกติ
จนสุดท้ายพอจบโปรแกรมทีมชาติ โค้ชยุน ก็โดนปลดกลางอากาศ และ กาม่า ก็มาตามนั้น
ตอนนั้น ส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะว่าเห็นใจ ยุน จอง ฮวาน มากกว่า ที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด และผลงานมันก้ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ต้องมาตกงานแบบนี้
แต่อีกในหนึ่งก็แอบคิดว่า เมื่อ กาม่า เข้ามา มันจะต้องมีอะไรดีขึ้นแน่ โดยเฉพาะผลงาน และเผลอๆ อาจจะมีแชมป์ติดมือ ท้ายฤดูกาลก็เป็นได้
เกมแรกของ กาม่า เริ่มด้วยเอลกลาซิโก้เมืองไทย ที่ช่วงหลังก็ลดมนต์เสน่ห์ไปเยอะ จบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อฉลามชลไป 2-0
แต่หลังจากนั้นในลีกก็ชนะสามเกมรวด และค่อยๆ ขยับหนีโซนตกชั้นขึ้นมาได้สำเร็จ และถึงตอนนี้มีโอกาสจะกลับขึ้นไปอยู่บนๆ ของตารางได้อีกครั้ง แต่ก็คงจะไม่ถึงขั้นลุ้นแชมป์
อีกหนึ่งสิ่งที่เมื่อ กาม่า ก็มา เราได้เห็นการเสริมทัพที่น่าจะดีที่สุดในบรรดา 16 สโมสรของไทยลีก เมืองทองได้กองหน้าอย่าง
แดร์เลย์ เข้ามา มีกองกลางอย่าง
บรูโน่ กัลโล่ เข้ามา แถมทางซ้ายที่เป็นจุดอ่อนในเลกแรก ก็ได้มาถึง 2 คน ทั้ง
ไดสุเกะ ซาโตะ และ
เอร์เนสโต แถมยังมีกองหลังดาวรุ่งอย่าง
มาร์โก บัลลินี่ อีก ทุกคนล้วนแล้วแต่ใช้งานได้ทันที
จากผลงานที่ผ่านมาหลัง กาม่า มาคุมทีม ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ ที่เลือก
พ่อมดไทยลีกเข้ามากู้วิกฤตของทีมในชั่วโมงนี้
เพราะดูยังไงแล้ว ทีมก็ดูจะมีแต่ดีขึ้น ดีขึ้น และผมมั่นใจว่ามีลุ้นถ้วยเอฟเอ คัพ เป้าหมายหลักตอนนี้ของกิเลนผยอง ด้วย เพื่อได้สิทธิ์กลับไปเล่นเอซีแอล ฤดูกาลหน้า
ซึ่งถ้าตอนนี้ยังเป็น ยุน จอง ฮวาน หรือได้คุมจนจบฤดูกาล ก็ยังไม่รู้ว่าท่มจะไปจบตรงไหน และจะมีลุ้นแชมป์อะไรหรือเปล่า เพราะฉะนั้น การได้ "กาม่า" เข้ามา คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในฤดูกาลนี้
มูซาชิ
