logo-heading

จบลงไปแล้วแบบโคตรมันส์สำหรับศึก "บิ๊กแมตซ์" สัตว์ปีกถล่มโลกา "หงส์แดง" เปิดบ้านเจ๊ากับ "ไก่เดือยทอง" ไปแบบสุดดราม่า เพราะเจ้าถิ่นเล่นนำเร็วก่อนตั้งแต่ 2 นาทีแรก แต่มาโดนตามตีเสมอจากลูกผีจับยัดของ วานยาม่า ในนาทีที่ 80 จากนั้น สเปอร์ส มาได้ลูกโทษนาทีที่ 83 แต่ เคน ดันยิงไม่เข้า

เท่านั้นไม่พอ แชมป์ยุโรป 5 สมัย มาได้ โม ซาลาห์ เจ้าเก่าเจ้าเดิมโชว์สกิลที่ เมสซี่ ยังต้องอึ้งลากไปยิงนำอีกครั้งในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 1 แต่ท้ายของท้ายเกม สปเอร์ส ก็มาได้จุดโทษอีกครั้งคราวนี้ เคน ซัดไม่พลาดช่วยให้ทีมตามตีเสมอ 2-2 จบลงไปด้วยการแบ่งแต้มอย่างสุดมันส์ ว่าแล้ว "ขอบสนาม" ก็จัดให้ ให้คะแนนแข้งทั้ง 2 ทีมกันหน่อยดีกว่า

คะแนนความสามารถนักเตะ โดยความคิดเห็นทีมงาน “ขอบสนาม”

ลิเวอร์พูล ลอริส คาริอุส (7.5) พอเห็นรายชื่อสาวก "หงส์แดง" ต่างก็คิดว่าจะเป็นบ่อเหมือนเช่นเคย แต่ไม่เลย วันนี้มีการโชว์เซฟอยู่หลายหน ออกมาตัดเกม ตัดสินใจได้ดี แต่ 2 ลูกที่เสียต้องบอกว่าจนปัญญา มีส่วนกับประตูแรกที่ ลิเวอร์พูล ได้ แถมยังช่วยเซฟลูกโทษได้ลูกนึงด้วย เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (7) เติมเกมได้สนุกดี เกมรับไม่ค่อยมีข้อผิดพลาดเท่าไหร่ มีใบเหลืองติดตัวตั้งแต่ครึ่งแรกแต่ก็ยังประคองตัวไม่โดนไล่ออกได้ ถือว่าสอบผ่านในเกมนี้ เดยัน ลอฟเรน (6.5) อ่านเกมได้ดี พยายามตามประกบทั้ง คริสเตียน อีริคเซ่น และ แฮร์รี่ เคน ซึ่งก็ทำได้ดีในระดับนึง แต่ก็มีจังหวะที่สกัดพลาดจนเกือบจะเสียประตูเช่นกัน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (7) หากไม่นับลูกที่ทำเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อันนำมาสู่ประตูตีเสมอ ก็ถือว่า ฟาน ไดจ์ค เล่นได้ดีมากเลยทีเดียว คอยช่วยสกัดจังหวะสุดท้ายได้หลายหน เก็บลูกโหม่งกินได้บ่อยครั้ง ส่วนลูกที่ทำเสียจุดโทษถ้าดูภาพช้าเขาเองก็ไม่ได้ฟาล์วด้วยซ้ำ แต่ก็ควรจะเตะให้โดนบอลตั้งแต่จังหวะสกัดทีแรก ไม่ควรเตะว่าวหน้าปากประตูตัวเองแบบนั้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (6) จุดเด่นของ โรเบิร์ตสัน ในการใช้สปีดเติมเกมรุก วันนี้แทบไม่ได้แผลงฤทธิ์ แถมเกมรับก็ยังดูมีอาการตื่นๆ อยู่พอสมควร ที่มีดีเกมนี้ก็แค่ความขยัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (6.5) ขยันวิ่งตลอดเวลา คอยเชื่อมเกมรับและรุก แต่ก็ยังดูขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง ท้ายสุด เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวออกเพราะดูท่าจะวิ่งมากเกินไปจนหมดแรง เอ็มเร่ ชาน (6) เป็นอีกคนที่พยายามวิ่งไล่บอล พยายามประกบติด มุสซ่า เด็มเบเล่ ตลอดแต่ก็ยังดูไม่ดีนัก ค่อนข้างเงียบหายไปจากเกม ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แถมลูกที่โดนไล่ยิงตีเสมอเป็น 1-1 ก็เป็นคนสกัดไปเข้าทาง วานยาม่า อีกด้วย เจมส์ มิลเนอร์ (6) ต้องบอกว่าเกมนี้กองกลางของ ลิเวอร์พูล ขยันวิ่งกันทุกคน แต่แทบหาประโยชน์ไม่ได้ มิลเนอร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น และอาจจะด้วยอายุอานามที่มากแล้ว บวกกับการวิ่งพล่านตลอดทั้งเกมทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจถอดออก และส่ง โจเอล มาติป ลงมาเพื่อเปลี่ยนแท็คติคเน้นเกมรับแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (9) คุ้มของคุ้มของคุ้มของคุ้ม คุ้มจนไม่รู้จะบรรยายยังไงกับค่าตัว 30 กว่าล้านปอนด์ที่ ลิเวอร์พูล จ่ายให้ โรม่า เดอะแบกของทัพ "หงส์แดง" ตัวจริง เหมาคนเดียว 2 ลูก ตุงแรกฉกฉวยจากความผิดพลาดของนักเตะ สเปอร์ส ตั้งแต่ต้นเกม ส่วนลูกสอง ความสามารถล้วนๆ เมสซี่ ก็ เมสซี่ เหอะ เจอลูกนี้เข้าไปมีเหวอ แต่ก็ยังมีจุดผิดพลาดบ้างเช่นการประสานงานจ่ายบอลให้เพื่อนบางจังหวะยังขาดๆ เกินๆ อยู่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (6.5) เป็นตัวขับเคลื่อนเกม และมีอิทธิพลในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล แต่เกมนี้ฉายแสงอะไรได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังช่วยปั่นป่วนเกมรับ สเปอร์ส เป็นที่มาของการได้ประตูแรกตั้งแต่ต้นเกม ซาดิโอ มาเน่ (6) พยายามขึ้นเกมทางซ้าย ใช้ความเร็วลากจี้ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ครั้งที่ได้ผล หลอกหลุดมาได้ถึงเส้นหลัง จังหวะตัดสินใจถัดไปก็ไม่ดีพอ มีทั้งเปิดพลาดและยิงออก สำรอง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (5.5) ถูกส่งลงมาแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมในนาทีที่ 64 หวังให้เก็บบอลในแดนกลาง แต่กลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก หลุดตำหน่งหลายครั้ง ตามประกบไม่ติด เหมือนจะจูนเข้ากับเกมไม่ได้ ทำให้เกมแดนกลางของ "หงส์แดง" ยวบลงไปพอสมควร อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน (6) ลงมาแทน มาเน่ ที่โดดเด่นน้อยที่สุดในเกมรุกของ "หงส์แดง" ในนัดนี้ หวังจะให้ใช้สปีดและความสดบดขยี้เกมรับของ สเปอร์ส แต่กลายเป็นว่าเพื่อนๆ กลัวจะโดนตามตีเสมอมากเกินไป ไม่เล่นเกมรุกมากนัก ทำให้ แชมเบอร์เลน ไปไม่เป็นเช่นกัน มีดีแค่การวิ่งไล่บอล โจแอล มาติป (6) ลงมาในนาทีที่ 78 แทนกองกลางอย่าง มิลเนอร์ เพื่อหวังปิดเกมเน้นรับเต็มตัว แต่กลายเป็นดูเหมือนว่าจะไม่เคยซ้อมการเล่นเซ็นเตอร์ 3 ตัวกันมาก่อน ทำให้ดูรวนๆ เสียกระบวนไป จนทำให้จบเกมลงด้วยสกอร์ 2-2 ในที่สุด สเปอร์ส อูโก้ โยริส (5.5) "ตรงเป็นตุง" คำนี้เกมนี้คงใช้กับ คาริอุส ไม่ได้แล้ว เพราะกลายเป็น โยริส เองที่โดนยิงตรงกรอบ 3 ครั้งเสียถึง 2 ประตู ส่วนไอลูกที่เซฟได้ก็ไม่ใช่ลูกยากอะไร นอกจากนี้การออกมาตัดบอล การออกบอลยังดูขาดๆ เกินๆ ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นกับนายด่านที่ประสบการณ์สูงอย่างเขาเลย คีแรน ทริปเปียร์ (6) เติมเกมรุกได้ดี แต่การเปิดบอลยังมีปัญหาอยู่บ้าง เช่นเดียวกับการรับมือกับความเร็วของ ซาดิโอ มาเน่ รวมๆ แล้วก็ถือว่าทรงๆ ดาวินซอน ซานเชซ (5.5) ออกทะเลไปเยอะเลยในช่วงครึ่งแรก ดูเหมือนจะยังตื่นๆ กับเกมอยู่ ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี และไม่ใช่ผืนแผ่นดินบ้านเกิดกับเกมใหญ่ขนาดนี้ ดูจะยังหนักไปสำหรับ ซานเชซ จนท้ายสุดต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปในนาทีที่ 71 ยาน แฟร์ต็องเก้น (7) เป็นคนที่เล่นได้ดีที่สุดในแผงหลังของ สเปอร์ส ในเกมนี้ เล่นได้ตามมาตราฐานสมราคา คอยประคับประคองเพื่อนที่หัวเสียไปกับความเร็วของแนวรุก "หงส์แดง" ได้ดี ยืนตำหน่งเยี่ยม เข้าสกัดจังหวะสุดท้ายได้ดี มีพลาดแค่ตรงลูก 2 ที่โดน ซาลาห์ หลอกไปยิงง่ายๆ เท่านั้น เบน เดวิส (6) ความมุ่งมั่นดีเยี่ยมเอาไปเต็มสิบ แต่ยังดูตื่นๆ สนามยังไงชอบกล พลาดแบบไม่ควรพลาด แต่ก็เติมเกมได้น่าสนใจ โดน ซาลาห์ แหวกหายหลายรอบอยู่ แต่ก็ยังพอจะมีตามมาปัดกวาดเช็ดถูได้บ้าง สรุปความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏหักล้างกันไปได้ เอริก ดายเออร์ (5.5) เริ่มต้นเกมได้อย่างย่ำแย่ เป็นคนจ่ายถวายพานอย่างงามให้ ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิงตั้งแต่ 2 นาทีแรก จากนั้นก็เหมือนเสียความมั่นใจ บวกกับความพยายามที่จะแก้ตัว ทำให้ทุกอย่างดูขาดๆ เกินๆ ไปหมด วันนี้ถือว่าเล่นได้แย่ที่สุดในทัพ "ไก่เดือยทอง" เลยก็ว่าได้ มุสซ่า เด็มเบเล่ (7) ถือว่าเล่นได้โดดเด่นทีเดียวในแผงกองกลางของ สเปอร์ส เคลื่อนที่ไปกับบอลได้เยี่ยม พาบอลขึ้นหน้าทำเกมได้ดี วิ่งไล่บอลตลอดเวลา แสดงถึงความมุ่งมั่นและขยัน แต่จังหวะสุดท้ายยังมีขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง คริสเตียน เอริคเซ่น (7.5) รักษามาตราฐานไว้ได้ดี แม้จะเจอเกมใหญ่ที่ตามหลังตั้งแต่หัววัน แต่ อีริคเซ่น ก็ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการอ่านเกม การครอสบอล วางบอล จ่ายบอลที่แม่นยำ ได้เสีย จนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ สเปอร์ส กลับมาตีเสมอได้สำเร็จ เดเล่ อัลลี่ (5.5) เป็นอีกหนึ่งเกมที่ อัลลี โชว์ฟอร์มไม่ออก ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ โดนตัดหายออกไปจากเกม ได้บอลก็มักจะจ่ายเสีย หรือเสียบอลเองอยู่บ่อยครั้ง ที่สำคัญคือเรื่องอารมณ์เพราะนี่เป็นอีกเกมที่เจ้าตัวโดนใบเหลือง ซึ่งเป็นคนเดียวของผู้เล่น สเปอร์ส ที่ได้รับในวันนี้ และหากโดนอีกใบก็จะโดนแบนโดยอัตโนมัติ ซน ฮึง-มิน (6.5) ขยันวิ่งสุดๆ พยายามทำทางให้เพื่อน พยายามหาช่องว่าง พาบอลไปข้างหน้า แต่ก็พลาดโอกาสทองในการหลุดไปยิง จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ แฮร์รี่ เคน (5.5) แม้จะเป็นคนซัดจุดโทษตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จในนาทีสุดท้าย แต่ฟอร์มโดยรวมวันนี้ "เฮอร์ริเคน" ต้องบอกว่าสอบตกเต็มๆ โอกาสง้างเท้ายิงในเกมแทบไม่มี หาช่องไม่ได้ ทำเกมไม่ได้ บอลมาไม่ถึง แถมยังพลาดจุดโทษครั้งแรกอีกด้วย สำรอง เอริก ลาเมล่า (6.5) ลงมาแทน ดาวินซอน ซานเชซ ในนาทีที่ 71 เพื่อเพิ่มมิติในเกมรุก ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีแม้จะไม่มีโอกาสเข้าทำจะแจ้ง แต่สิ่งสำคัญเลยคือดีดดิ้นได้สวยงามจนเรียกจุดโทษให้ทีมได้ในนาทีสุดท้ายของเกม นำมาซึ่งประตูตีเสมอ 2-2 วิคเตอร์ วานยาม่า (7) ลงมาแทน มุสซ่า ดมเบเล่ ในนาทีที่ 79 แบบงงๆ เพราะเป็นการเปลี่ยนตามตำแหน่งไม่ได้หวังจะเอาประตูตีเสมอ แถม เดมเบเล่ ก็ถือว่าเล่นได้ดี แต่ต้องยอมรับว่า โปเช็ตติโน่ ตัดสินใจถูกเพราะไม่ถึงนาทีที่ วานยาม่า อยู่ในสนามก็สามารถซัดประตูตีเสมอแบบสุดสวยให้ สเปอร์ส เป็น 1-1 ได้สำเร็จ แต่นอกนั้นก็แทบไม่ได้ทำอะไรมากมาย เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (6.5) ถูกส่งลงมาช่วงทดเจ็บตอนโดนนำอีกครั้งเป็น 2-1 คิดว่าจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ขอโทษหากย้อนกลับไปดูลูกโทษลูกที่ 2 ที่ สเปอร์ส ได้นั้น คนโหม่งชงก่อนที่ ฟาน ไดค์ จะทำฟาล์วใส่ ลาเมล่า ก็คือพี่ ยอเรนเต้ คนนี้นี่แหละ

SPECIAL RATING แถม!

จอน มอสส์ (3) หากมองอย่างเป็นกลาง มอสส์ ตัดสินน่ากังขาหลายครั้ง แถมไม่มีความเด็ดขาดเลย โดยเฉพาะจุดโทษลูกที่สอง ที่ตนเองปล่อยให้เล่นต่อไปแล้ว แต่ไปเชื่อผู้ช่วยทั้งที่ภาพช้าชัดเจนว่าเขาตัดสินถูกแล้ว ไม่มีความเป็นผู้นำขนาดนี้ ปล่อยให้ผู้ช่วยมาตัดสินเลยน่าจะง่ายกว่า! เอาไป 3 เต็ม 10 ก็พอ. .. แต่สำหรับแฟนผี เอ้ยย! แฟนไก่ คงให้ไปเลย 10 เต็ม 10 ว่าแล้วใครมีเฟสบุ๊คจารย์มอสส์ ก็ช่วยเปิดวาร์ปข้างใต้คอมเม้นท์นี้ทีนะ เชื่อเลยว่าพลังโชเซียลชาวไทยจะทำเฟสไอจอนนี่บินได้ภายใน 24 ชม. 555  
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline