อาจให้คำจำกัดความสำหรับ 31 ผู้เล่น บวกด้วย 1 หัวหน้าผู้ฝึกสอน และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช เมื่อผสานเข้ากับฝ่ายบริหารสโมสร ภายใต้การนำของ ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กีรติ เส็นติระ ประธานสโมสร คือการผนึกความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อนำพา “สิงห์นายด่าน” โลดแล่นกับไทยลีก 2 ฤดูกาล 2020 ภายใต้แนวคิด “The New Challenge 2020" หรือ ก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลง 2020
........................................................................................
ฤดูกาล 2019 คือปีแรกของการขยับจากไทยลีก 3 มาเล่นยังไทยลีก 2 ของ เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด อาจกล่าวได้ว่านี่คือ 1 ฤดูกาลแห่งความยากลำบาก และการได้เรียนรู้ถึงงานที่หนักมากยิ่งขึ้น เพราะพลพรรคสิงห์นายด่าน ไปจบผลงานด้วยอันดับ 15 จาก 18 ทีม เหนือโซนตกชั้นเพียงเล็กน้อย เป็นการสู้จนถึงเกมสุดท้ายเพื่อสร้างหลักประกันต่อความปลอดภัยของทีมปีแรกกับไทยลีก 2 ประจำฤดูกาล 2019 “สิงห์นายด่าน” ออกสตาร์ทภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชป๋อง” ชยพล คชสาร ที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นจากไทยลีก 3 มายังไทยลีก 2 แต่เมื่อผลงานนับจากเปิดฤดูกาลไม่เป็นไปตามเป้าจึงต้องส่งไม้ต่อให้ "โค้ชโป้ง” กฤษณ์ สิงห์ปรีชา แต่สถานการณ์ในขณะนั้น ก็ยังไม่ดีขึ้น เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด ก้าวเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน และคราวนี้ภารกิจถูกส่งต่อไปให้ “โค้ชจิ” สมเด็จ หิตเทศ และท้ายที่สุด นั่นคือการอยู่รอดกับไทยลีก 2 แบบให้ลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายที่ต้องบันทึกไว้กับการเดินทางในไทยลีก 2 ขณะนั้นของ “สิงห์นายด่าน” ก็คือแพ้ 5 นัดติดต่อกัน เช่นเดียวกับ อุบล ยูไนเต็ด ทีมร่วมไทยลีก 2
...............................................................................
ฤดูกาล 2020 ปีที่ 2 ของการเล่นอยู่ในลีกรอง ของ เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามมาก็คือตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เป็นการเข้าไปรับงานของ "โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ นับตั้งแต่พฤศจิกายน “โค้ชโย่ง” คือเจ้าของโปรไฟล์ โค้ชดีกรีโปรไลเซนส์ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ในวัยหนุ่มเคยผ่านการค้าแข้งกับหลายสโมสร อาทิ ธนาคารกสิกรไทย, บีอีซี เทโรศาสน, กลันตัน (มาเลเซีย), ชลบุรี เอฟซี, กรมศุลกากร (เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด : ชื่อปัจจุบัน) และจุฬา ยูไนเต็ด ส่วนประวัติการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน เคยผ่านประสบการณ์คุมทีมปทุมธานี เอฟซี, สงขลา เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี, เกษตรศาสตร์ เอฟซี ในขณะที่ระดับทีมชาติไทยเคยคุมทีมชาติไทยชุดยู 21 ปี และพาทีมชาติไทย ยู 23 คว้าแชมป์ซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย และล่าสุดคือการรับงานให้ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ทีมในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2019 และพาทีมจบผลงานด้วยอันดับ 12 ในตารางไทยลีก 2 ซึ่งการรับงานของ "โค้ชโย่ง” ในครั้งนี้ จึงเป็นการหวนคืนสู่สโมสรเดิมที่เคยค้าแข้งในปี 2008 หรือเป็นการกลับคืนสู่ถิ่นลาดกระบัง 54 รังเหย้าของ เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด ในรอบ 12 ปี .............................................................................. [caption id="attachment_103762" align="alignnone" width="1179"] กีรติ เส็นติระ ประธานสโมสร เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด [/caption]“ฤดูกาล 2019 สำหรับ เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด คือความยากลำบากอย่างแท้จริง สิ่งที่ทำให้เราเรียนรู้ว่าปีแรกในไทยลีก 2 ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย เราต้องดิ้นรนหนีตกชั้นจนถึงนัดสุดท้าย ที่ต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ทีมอยู่รอด แน่นอนว่าประสบการณ์จากความผิดพลาดที่ผ่านมา คือการนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ฤดูกาล 2020 การได้โค้ชโย่งมาร่วมงานด้วย ผนวกเข้ากับขุมกำลังที่ถูกดึงเข้าสู่ทีมแล้ว ก็เชื่อได้ว่าปีที่ 2 ในการเล่นอยู่ในไทยลีก 2 น่าจะได้เห็นผลงานของทีมที่ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น” ยุทธนา หยิมการุณ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สโมสร เอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด กล่าว แสดงความเชื่อมั่น
กีรติ เส็นติระ ประธานสโมสรเอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด สะท้อนว่า ประสบการณ์กับการต่อสู้เพื่อให้ทีมอยู่รอดในไทยลีก 2 สิ่งที่ฝ่ายบริหารเห็นตรงกันนั่นก็คือ ทีมจำเป็นที่จะต้องมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการพาทีมทำผลงานเข้ามารับภารกิจในส่วนนี้ และ “โค้ชโย่ง” ก็คือบุคคลที่ฝ่ายบริหารเห็นตรงกันว่าด้วยประสบการณ์มากมาย ทั้งในฐานะนักฟุตบอล และการผ่านงานในบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอน ทั้งสโมสรอาชีพไปจนถึงฟุตบอลทีมชาติไทย นี่คือบุคลากรที่มีความเหมาะสมที่สุดในการเข้ามาทำหน้าที่
“โค้ชโย่ง เคยเป็นนักฟุตบอลให้ทีมฟุตบอลกรมศุลกากร ในอดีต ดังนั้นเมื่อมารับงานในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน สิ่งที่ฝ่ายบริหารสัมผัสได้ก็คือความทุ่มเท มุ่งมั่น ที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สำหรับมุมมองของผมแล้วเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะรักษาพื้นที่ในไทยลีก 2 เอาไว้ให้ได้ เพราะด้วยโครงสร้างของระบบการแข่งขันไทยลีก 2 มีช่องว่างไม่มากนัก เมื่อเทียบกับไทยลีก 1 การที่ไทยลีก 2 มีระบบ การถ่ายทอดสด นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมฟุตบอลมีมูลค่าสูงขึ้น เราเห็นได้ถึงการตอบรับเข้ามาของพันธมิตร หรือผู้สนับสนุนที่มีมากขึ้น เป้าหมายของโค้ชโย่งที่วางเอาไว้กับเรา คือ อยากเห็นทีมติด 1 ใน 6 ของตาราง นี่คือสิ่งที่สะท้อนไปถึงการมองในมุมที่สูงขึ้น เพราะหากเราคิดว่าดิ้นรนเพียงเพื่อให้ทีมอยู่รอด มันก็จบเพียงเท่านั้น แต่การมองไปไกลถึง 1 ใน 6 ของตาราง ทำให้เห็นถึงความหวัง เห็นถึงเป้าหมายที่จะไปให้ถึง 1 ใน 6 ของตาราง สำหรับฤดูกาล 2020 ของไทยลีก 2 แบ่งออกเป็นการการันตี อันดับ 1 และ 2 ที่จะได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 เมื่อจบฤดูกาล 2020 ในขณะที่อันดับ 3 ไปจนถึงอันดับ 6 คือ การเลื่อนชั้น ผ่านระบบที่ทีมเหล่านี้ ต้องมาเล่นเพลย์ออฟ เพื่อหาทีมที่คว้าตั๋วใบที่ 3 ทุกๆ ฤดูกาลของฟุตบอลอาชีพ ทุกทีมล้วนยกระดับตัวเอง เพื่อต้องการไปให้ถึงความสำเร็จ และเอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด ก็กำลังทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความมุ่งมั่น ฤดูกาลที่ผ่านมาแม้ว่าเราจะเล่นในบ้านและกลายเป็นทีมเยือนที่บุกมาชนะมาเอาแต้มไป แต่ฤดูกาล 2020 ผมเชื่อว่าเราจะเป็นฝ่ายเอาคืน ด้วยการรักษาแต้มเอาไว้ให้ได้ และไปเก็บแต้มเพิ่มในเกมนอกบ้าน” กีรติ กล่าว
วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนเอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด กล่าวว่า พร้อมที่จะตอบแทนความไว้วางใจของสโมสรกับ 2 ภารกิจ ทั้ง การพาทีมทำผลงานที่ต้องไม่อยู่ในสถานการณ์ดิ้นรนหนีการตกชั้นเช่นฤดูกาลที่ผ่านมา และการมองไปถึงการพาทีมทำผลงานติด 1 ใน 6 ของตาราง เพื่อโอกาสลุ้นเลื่อนชั้น แน่นอนว่าฤดูกาล 2020 ไทยลีก 2 จะเป็นปีที่กดดันทุกทีม เพราะระบบการแข่งขันที่ทำให้ทุกนัดมีความหมายต่อผลงานในตาราง
“เป้าหมายแรกของผมคือการพาทีมอยู่ในระดับกลางตารางให้ได้ก่อนจากนั้นจึงขยับไปที่การทำพื้นที่ให้ติด 1 ใน 6 ของตาราง ผมเชื่อว่าโอกาสมีแน่นอน เราทุกคนในทีมจะร่วมกันทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ว่านี่คือขุมกำลังผู้เล่นที่พร้อมจะช่วยกันยกระดับทีมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย” วรวุธ กล่าว
นี่คือการประกาศเป้าหมายสู้ศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2020 ของทัพ “สิงห์นายด่าน” ภายใต้ความหวังว่าด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทและการกลั่นเอาประสบการณ์ในงานภาคสนามของ ”โค้ชโย่ง” จะเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จ
ยุทธนา หยิมการุณ ประธานที่ปรึกษา , กีรติ เส็นติระ ประธานสโมสรเอ็มโอเอฟ คัสตอม ยูไนเต็ด : ไทยลีก 2